เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic)
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและขยายวงกว้างไปแล้วใน 158 ประเทศ ซึ่งใน ประเทศไทยเองก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 147 ราย และมี รายงานการคาดการณ์การระบาดจากศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ ภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขว่าอาจจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก
จากเหตุการณ์ที่ได้กล่าวมา เราต่างตระหนักถึงการเฝ้าระวัง การคัดกรองโรคและการรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระยะนี้ และตระหนักถึงความจำเป็นในการ ตรวจหาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด อย่างรวดเร็วและขยายวงกว้าง
กลุ่มสตาร์ทอัพไทย จึงรวมตัวกันในนามของ สมาคมไทยเทคสตาร์ทอัพ (TTSA) และได้ร่วมมือกับ กรมควบคุมโรค กระทรวง สาธารณสุข สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(depa) สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นแก่ประชาชน โดยจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผ่าน Facebook page ในชื่อ ‘เป็ดไทยสู้ภัย’ และ Twitter ชื่อแอคเคาท์ @Pedthaisuphai
ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมาช่วยแก้ปัญหาสังคม ทั้งการช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับขอมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ช่วยลดภาระการทำงานของบุคคลกรทางการแพทย์ รวมไปถึงช่วยเหลือภาครัฐในการรับมือกับการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 โดยมีขอบเขตและแนวทางการปฎิบัติภารกิจร่วมกัน ดังนี้
1. นำเทคโนโลยีมาร่วมตรวจสอบข่าวเท็จ (Fake news) เพื่อเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนเพื่อการ ปฏิบัติตัวและรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีสติ ผ่านแอคเคาท์ Facebook page ‘เป็ดไทยสู้ภัย’ และ Twitter @Pedthaisuphai
2. ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลด้วย ‘ระบบคัดกรองผู้ป่วย’ ผ่านแบบฟอร์ม ‘การประเมินความเสี่ยงติดไวรัส COVID-19’ โดยประชาชนสามารถเขาไปทำแบบประเมินอาการขั้นต้นดวยตนเอง ซึ่งผลการประเมิน จะแบ่งระดับความเสี่ยงออก เป็น 3 ระดับ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะมีทีมแพทย์อาสาจากสตาร์ทอัพด้าน Health Tech เขามาร่วมคัดกรองและให้คำปรึกษา เบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า ‘Teleconsult’ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยตอบโต้กันได้แบบ Real-time ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโรคระหว่างการเดินทาง ลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่สำคัญบริการนี้จะช่วยให้แพทย์และพยาบาลได้มุ่งรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลอย่างเต็มกำลัง
3. นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้าน Logistic และบริการทางด้าน Healthcare มาร่วมแกปัญหาการเดินทาง ด้วยระบบจัด-ส่ง ยารักษาโรค รวมไปถึงการจัดส่งอาหารและของใช้จำเป็นในระหว่างการกักกันที่บ้านด้วยตัวเองเพื่อเฝ้าระวังติดตามอาการ
4. นำเทคโนโลยีจากสตาร์ทอัพเขามารวมติดตามผลการรักษาและหาแนวทางช่วยเหลือในขั้นต่อไป
1. เป็ด รับสมัครแพทย์และพยาบาลจิตอาสา
โดยเปิดโอกาสให้แพทย์และพยาบาลที่ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม สามารถเข้ามาให้คำปรึกษาทางการแพทย์ แบบออนไลน์ (Teleconsult) เกี่ยวกับไวรัส COVID-19 โดยแพทย์และพยาบาลที่สนใจ จะสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ โดยลงทะเบียนได้ ที่นี่: http://covid19.thaitechstartup.org/
2. ‘ระบบคัดกรองผู้ป่วย’ ผ่านแบบฟอร์ม ‘การประเมินความเสี่ยงติดไวรัส COVID-19’
ซึ่งเป็น แบบประเมินอาการ ขั้น ต้นด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบว่าเราอยู่ในความเสี่ยงที่จะติดไวรัส COVID-19 หรือไม่ โดยผลการประเมินจะแบ่งระดับความเสี่ยงออกเป็น 3 ระดับ โดยผลลัพธ์ในทุกระดับจะได้รับคำแนะนำและการหาทางออกให้ในทุกระดับความเสี่ยง ซึ่งเบื้องต้นเราจะมีทีมแพทย์และพยาบาลจิตอาสามาร่วมให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีความเสี่ยง ผ่านระดับ Teleconsult หากมีอาการเข้าข่าย สามารถสำรวจตัวเองผ่านแบบสำรวจนี้ https://bit.ly/2U9NBLY
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด