R3 ผู้ให้บริการ Blockchain ประกาศขยายธุรกิจในไทยเต็มอัตราร่วมกับธนาคารกรุงเทพ

R3 บริษัทซอฟต์แวร์ระบบบล็อกเชนเพื่อวิสาหกิจชั้นนำของโลกประกาศแผนการขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบหลังต่อสัญญาพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจร่วมกับธนาคารกรุงเทพ หลังการสานต่อความร่วมมือครั้งนี้ R3 จะเพิ่มจำนวนบุคลากรของบริษัทในประเทศไทยเพื่อเน้นย้ำถึงเป้าหมายของบริษัทในการรุกตลาดและขยายเครือข่ายพันธมิตรในประเทศอย่างต่อเนื่อง

“วิสาหกิจของไทยนับเป็นแถวหน้าของด้านนวัตกรรม ในการเปลี่ยนผ่านกระบวนการทำงานขององค์กรสู่ระบบดิจิทัล และนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาปรับใช้ ซึ่ง R3 รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนการปฎิรูปอุตสาหกรรมของประเทศไทยสู่ระบบดิจิทัล” นายอามิต กอช ผู้อำนวยการ R3 ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “เรามีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนานกับธนาคารกรุงเทพและเคยร่วมมือกับโครงการบล็อกเชนขนาดใหญ่ของประเทศอีกหลายโครงการ รวมถึงโครงการอินทนนท์-ไลออนร็อก (Project Inthanon-Lionrock) และโครงการคอนทัวร์ (Contour) ซึ่งทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้สานต่อความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพและส่งเสริมความมุ่งมั่นของธนาคารและทีมงานในการยกระดับคุณภาพและบริการผ่านการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด”

การต่อสัญญาพันธมิตรในการดำเนินงานร่วมกับธนาคารกรุงเทพเกิดขึ้นพร้อมกับการเพิ่มทีมงานของ R3 ในประเทศไทย ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ R3 ในการรุกตลาดเมืองไทยและขยายเครือข่ายพันธมิตรในประเทศอย่างเต็มตัว โดยบริษัทได้เพิ่มบุคลากรทั้งทีมงานฝ่ายขายและฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศ

“เราเล็งเห็นโอกาสและนวัตกรรมใหม่ ๆ จากประเทศไทย ประกอบกับเราได้สานต่อความร่วมมือกับกลุ่มคู่ค้าธุรกิจและผู้ใช้บริการใน Ecosystem รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เราจึงต้องมั่นใจว่าองค์กรของเราจะมีความพร้อมของบุคลากรและทีมงานรวมถึงนำเสนอเครื่องมือและเทคโนโลยีที่จะใช้ในการเปลี่ยนกระบวนการทำงานมุ่งสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบเพื่อที่จะสามารถรองรับการเปลี่ยนเปลงที่ท้าทายให้แก่พันธมิตรคู่ค้าของเราและช่วยให้พวกเขาสามารถยกระดับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การต่อสัญญาความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพและการว่าจ้างบุคลากรในประเทศของเราช่วงนี้ จึงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ R3 ในการสนับสนุนธุรกิจของพันธมิตรทั้งในปัจจุบันและอนาคต” นายอามิต กอช กล่าว

ภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตร R3 ที่มีธนาคารกรุงเทพซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกในอาเซียนร่วมเป็นสมาชิกสามารถนำ Corda Enterprise ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Corda Enterprise Blockchain แบบครบวงจรของ R3 มาใช้ในการพัฒนาบริการด้านการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ตลาดทุนและการให้บริการเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ธนาคารกรุงเทพสามารถจัดโปรแกรมอบรมภายในและพัฒนาการให้บริการด้านการค้า ระบบการชำระเงิน และบริการเชิงพาณิชย์ ในรูปแบบใหม่ ๆ ภายใต้แพลตฟอร์ม Corda 

“ช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้พบกับ มร. เดฟ รัตเทอร์ และทีมผู้บริหารในกรุงนิวยอร์ค ผมรู้สึกประทับใจและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งจากการพูดคุยที่เปิดกว้างทางความคิดเรายังได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันถึงแนวทางและความร่วมมือในการร่วมพัฒนาศักยภาพของเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology : DLT หรือ Enterprise Blockchain) นับเป็นการตัดสินใจร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม Corda ให้เป็นโซลูชั่น DLT ด้วยเป้าหมายในการสนองตอบความต้องการของลูกค้าและการพัฒนารูปแบบการให้บริการทางการเงิน โดยในปี 2564 นี้ แนวโน้มการเติบโตของลูกค้าธุรกิจที่จะให้ความสนใจรูปแบบการใช้งานในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมผ่าน Enterprise Blockchain Platform จะมีจำนวนมากขึ้น นับเป็นเหตุผลที่ธนาคารได้มีการต่อสัญญากับ Corda Enterprise เพื่อรองรับแผนการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่การเดินทางระหว่างประเทศยังคงถูกระงับ การที่ R3 ได้ตัดสินใจจัดตั้งสำนักงานในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในแผนการขยายธุรกิจในประเทศไทย” นายเอียน กาย กิลลาร์ด รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และที่ปรึกษาคณะกรรมการ R3 กล่าว

ธนาคารกรุงเทพในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้ง Contour ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพและความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในการนำนวัตกรรม Distributed Ledger Technology หรือ Enterprise Blockchain มายกระดับการให้บริการด้าน Trade Finance ให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งกระบวนการ ตั้งแต่เริ่มต้น การแลกเปลี่ยนข้อมูล การพิจารณา จนถึงการทำธุรกรรมเปิด Letter of Credit (L/C) บน Corda นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ธนาคารได้นำ Contour เพื่ออำนวยความสะดวกและพัฒนาการทำธุรกรรมเปิด L/C ระหว่างคู่ค้ากับบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญ ประกอบด้วย บริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด (GCM) บริษัทในกลุ่ม GC ซึ่งเป็นธุรกิจหลักด้านเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. ประสบความสำเร็จในการทำธุรกรรมเปิด L/C กับคู่ค้าของ GCM ในประเทศเวียดนามที่สามารถช่วยลดระยะเวลาการเปิด L/C ได้มากกว่า 95% และนับเป็นการต่อยอดความสำเร็จอีกครั้งกับความไว้วางใจที่ธนาคารได้รับจากบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ครบวงจร บริษัทในกลุ่ม SCG และบริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทในกลุ่ม GC ซึ่งเป็นธุรกิจหลักด้านเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. ในการทำธุรกรรม L/C กับคู่ค้าผ่านธนาคารท้องถิ่นชั้นนำของเวียดนาม นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับบริษัท แปซิฟิคคอนเทนเน่อร์แบ้ก จำกัด ในการทำธุรกรรมกับคู่ค้าธุรกิจรายใหญ่ในประเทศโอมานที่สามารถทำรายการได้ในฐานะธนาคารผู้เปิด L/C และผู้รับ L/C ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความต้องการทำธุรกรรมของลูกค้าได้ ทั้งด้านนำเข้าและส่งออก โดยธนาคารยังคงมุ่งมั่นร่วมกับ Contour ในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาบริการเปิด L/C บน Contour Network

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ดีอี-ก.อุตฯ-สภาอุตฯ ประกาศไทยพร้อมจัด Global ISO Conference 2025 รวมผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานซอฟต์แวร์

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และ สภาอุตสาหกรร...

Responsive image

NITMX เปิดเวที “Hack to the Max Season 2” ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ สร้างนวัตกรรมพลิกโฉมการเงินไทย

National ITMX เปิดเวที “Hack to the Max Season 2” ชวนคนรุ่นใหม่สร้างสรรค์นวัตกรรมการเงิน ต่อยอดไอเดียสู่การใช้งานจริง พร้อมโอกาสไปงาน Singapore Fintech Festival...

Responsive image

ERT จับมือ Ingram Micro Thailand เสริมศักยภาพองค์กรไทยด้วย Google Cloud

ERT ร่วมกับ Ingram Micro Thailand นำ Google Cloud ช่วยยกระดับธุรกิจไทยสู่ยุคดิจิทัล เสริมศักยภาพองค์กรทุกขนาดให้เติบโตอย่างยั่งยืน...