SCB EIC เผยธุรกิจใหม่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย กำไรเฉลี่ยมากกว่าธุรกิจอื่น 2 เท่า | Techsauce

SCB EIC เผยธุรกิจใหม่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย กำไรเฉลี่ยมากกว่าธุรกิจอื่น 2 เท่า

Photo by Quang Nguyen Vinh from Pexels

SCB EIC เผยผลสำรวจการประกอบการธุรกิจของบริษัทใหม่ที่อยู่ในข่าย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบาลรัฐบาลไทย พบว่าแม้มีสัดส่วนบริษัทที่ขาดทุนมากกว่า แต่ในบริษัทที่ทำกำไรได้จะมีกำไรเฉลี่ยมากกว่าบริษัทนอกอุตสาหกรรมเป้าหมายถึง 2 เท่า

ภาครัฐได้มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศ โดยการให้สิทธิประโยชน์ทั้งทางด้านภาษีและเงินทุนสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการใน 10 อุตสาหกรรมซึ่งประกอบไปด้วย

  1. อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร
  2. อุตสาหกรรมเพื่อประหยัดพลังงาน ผลิตพลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด
  3. อุตสาหกรรมฐานเทคโนโลยีชีวภาพ
  4. อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข
  5. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว บริการ และเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
  6. อุตสาหกรรมวัสดุก้าวหน้า
  7. อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเครื่องประดับ
  8. อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
  9. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และบริการสารสนเทศ
  10. อุตสาหกรรมฐานการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม

อุตสาหกรรมเป้าหมายมีบริษัทหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าช่วงก่อนมีนโยบายสนับสนุน และเพิ่มมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น อัตราการเข้าสู่ธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (สัดส่วนของจำนวนบริษัทที่จัดตั้งใหม่ต่อจำนวนบริษัททั้งหมดในอุตสาหกรรมนั้น ๆ) ในช่วงปี 2558-2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 10.3เปอร์เซ็นต์ ต่อปี เพิ่มขึ้นจากอัตราในช่วงก่อนที่จะมีนโยบายสนับสนุน (ปี 2553-2557) ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 8.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และสูงกว่าอัตราการเข้าสู่ธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นในช่วงเดียวกันที่ 10.1 เปอร์เซ็นต์ ต่อปีซึ่งทรงตัวจากช่วงก่อนหน้า สะท้อนว่ามาตรการสนับสนุนจากภาครัฐอาจมีส่วนช่วยในการกระตุ้นความสนใจในการเข้าสู่ธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม บางอุตสาหกรรมเป้าหมายมีอัตราการเข้าสู่ธุรกิจลดลงจากช่วงก่อนหน้า ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตพลังงานทดแทนที่ชะลอลงตามการสนับสนุนธุรกิจพลังงานทดแทนของภาครัฐที่ลดลง รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ชะลอลงตามภาวะอุตสาหกรรม

บริษัทหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายมีสัดส่วนของบริษัทที่ขาดทุนมากกว่าบริษัทหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมอื่น สัดส่วนของบริษัทหน้าใหม่ที่จัดตั้งในช่วงปี 2558-2560 ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน (กำไรติดลบ) ในปี 2560 อยู่ที่ 39.9 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนบริษัททั้งหมดในอุตสาหกรรมนั้น ๆ (เฉพาะบริษัทที่มีข้อมูลงบการเงิน) ขณะที่บริษัทหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมอื่นมีสัดส่วนของบริษัทที่ขาดทุนอยู่ที่เพียง 30.5 เปอร์เซ็นต์ โดยสาเหตุอาจมาจากการที่ธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องอาศัยนวัตกรรมจึงต้องมีการลงทุนและค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในระยะเริ่มต้น ดังนั้นผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้ามาในธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมายควรมีการเตรียมความพร้อมในด้านการลงทุนในช่วงแรกและพร้อมเผชิญความเสี่ยงต่อการขาดทุนที่มากกว่า นอกจากนี้ ยังควรมีการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจที่รัดกุม เพราะธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมมีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็วซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประกอบการได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายมีการเติบโตของรายได้สูงกว่าบริษัทหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมอื่น และหากมีกำไร จะมีการเติบโตของกำไรที่สูงกว่ามาก สำหรับบริษัทหน้าใหม่ที่จัดตั้งในช่วงปี 2558-2560 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อบริษัท 82.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในช่วงปี 2558-2560 ซึ่งสูงกว่าบริษัทหน้าใหม่ที่อยู่นอกกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่มีการเติบโตของรายได้ 76.4 เปอร์เซ็นต์ ต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเฉพาะบริษัทที่มีกำไรพบว่า บริษัทหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายมีกำไรขยายตัวเฉลี่ยถึงปีละ 49.5เปอร์เซ็นต์ เทียบกับบริษัทหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมอื่นที่มีกำไรขยายตัวเพียง 20.6เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนว่าแม้ธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมายจะมีความเสี่ยงของการขาดทุนที่สูงกว่า แต่หากประสบความสำเร็จ ก็จะสามารถเติบโตได้สูงกว่าธุรกิจอื่นอย่างชัดเจน โดยปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของกำไรสำหรับบริษัทอุตสาหกรรมเป้าหมายนั้นอาจเป็นได้ทั้งจากความต้องการของสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมเติบโตสูงขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากมาตรการภาษีของภาครัฐ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ Inforgraphic จาก SCB EIC

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ติดท็อป 5 ‘Best Taiwan Global Brands’ 7 ปีซ้อน ขับเคลื่อน Edge AI ด้วยมูลค่า 2.8 หมื่นล้าน

แอดวานซ์เทค (Advantech Co., Ltd.) ผู้นำด้านอุตสาหกรรม IoT ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกของ "2024 Best Taiwan Global Brands" ด้วยมูลค่าแบรนด์ 851 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

PLEX MES ก้าวสู่อนาคต ยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต ด้วย Smart Manufacturing Solutions

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา วงการอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการแนะนำ PLEX MES โซลูชันที่เปรียบเสมือน "สมองดิจิทัล" สำหรับโรงงานยุคใหม่ ระบบนี้ถูกออกแบบ...

Responsive image

ทีทีบี คว้ารางวัลธนาคารที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าธุรกิจ Thailand Best Bank for Corporates

ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) คว้ารางวัล Thailand Best Bank for Corporates จาก Euromoney Awards 2024 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจไทยด้วยโซลูชันดิจิทัลและความยั่งยืนผ่านกรอบ B+ESG พร...