การท่องเที่ยวสิงคโปร์ เตรียมเปิดประเทศ พร้อม “บริหารประสบการณ์ลูกค้า” ด้วย Data Platform ตอบโจทย์ตลาดท่องเที่ยวในอนาคต | Techsauce

การท่องเที่ยวสิงคโปร์ เตรียมเปิดประเทศ พร้อม “บริหารประสบการณ์ลูกค้า” ด้วย Data Platform ตอบโจทย์ตลาดท่องเที่ยวในอนาคต

การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board - STB) ตั้งเป้าเป็น Top of Mind ในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการกลับมาเยือนอีกครั้งทันทีที่เปิดประเทศ เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วยดาต้าแพลตฟอร์มเพื่อสร้าง Transformational Journey ซึ่งจะช่วยผลักดันให้การท่องเที่ยวสิงคโปร์แข็งแกร่งและพร้อมในการเป็นจุดหมายอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวอีกครั้ง  

ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาที่มาเยือนสิงคโปร์ ลดลงไปมากถึง 99.99% และคาดว่าจำนวนตัวเลขจะคงที่ไปตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ นับเป็นปีที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวอาการสาหัสมากที่สุดจากผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการเดินทางของนักท่องเที่ยวไม่เป็นปกติที่ซึ่งเป็นปรากฏการณ์เดียวกันกับอีกหลายประเทศ

เควก ชุน ยัง, CTO ของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) เผยว่า แม้ว่าโควิด-19 จะทำให้การเดินทางหยุดชะงัก แต่ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ภาคธุรกิจควรลงทุนด้านนวัตกรรม เพื่อเพิ่มความฉลาด ความคล่องตัว และประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการมองหาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ และโอกาสทางการตลาดไปในเวลาเดียวกัน ขณะเดียวกันทาง STB เองก็มีเครื่องมือ องค์ความรู้ และกองทุนที่ช่วยเร่งธุรกิจปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วขึ้น ในระหว่างนี้ STB ได้ทำการเทรนนิ่งให้กับพนักงาน ไปจนถึงกิจกรรม Digital Normal ต่างๆ เพื่อเตรียมฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศไว้กว่า 90 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

นอกเหนือจากการกระตุ้นความต้องการด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศแล้ว การท่องเที่ยวสิงคโปร์ยังเร่งพัฒนาระบบหลังบ้านภายในประเทศ ไปสู่ความเป็นดิจิทัลที่แข็งแกร่งทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ด้วยการนำโซลูชันต่างๆ มาใช้รวมถึงโซลูชันของอะโดบีเพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างไปจากเดิม โดย STB ได้ใช้ Transformation framework ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ “Learn – Test – Build” 

  • Learn: ธุรกิจจะได้เรียนรู้ว่าธุรกิจตนเองอยู่ตรงจุดไหนในกระบวนการทรานฟอร์ม เรียนรู้จุดแข็งธุรกิจตนเอง และจุดที่ต้องพัฒนา ผ่าน Tourism Transformation Index
  • Test: กระบวนการทดลองโซลูชัน ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำและความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้ STB ยังจัดตั้ง co-creation space พื้นที่แชร์ไอเดียและองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายใต้ Singapore Tourism Accelerator (STA) เช่น การเสนอไอเดียติดตั้งระบบเซนเซอร์และกล้องในถังขยะห้องครัวในโรงแรม เพื่อเก็บข้อมูลประเภทอาหารที่ถูกทิ้งจำนวนมาก ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้โรงแรมสามารถกะปริมาณหรือลดวัตถุดิบที่ไม่เป็นที่นิยมออกไปจากรายการได้
  • Build: การนำระบบ STB operating system ไปใช้ ซึ่งเป็นระบบ SaaS ที่ภาคธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้ทันที 

Data is the new oil แต่ “Data” แบบไหนที่ใช่ และใช้ได้จริง

เรามักจะได้ยินเสมอว่า ข้อมูล (data) จะกลายเป็นพื้นฐานหลักในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจจะมีขุมทรัพย์ทางข้อมูลอยู่ในมือแล้ว แต่หากเป็นข้อมูลดิบก็ยังไม่สามารถนำมาใช้งานได้ ฉะนั้น ผู้ประกอบการจะต้องหาวิธีกลั่น สกัดข้อมูลจนนำไปใช้ได้ในระดับคอนซูมเมอร์  

STB ได้สร้างแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล STAN หรือ Singapore Tourism Analytics Network แพลตฟอร์มที่ช่วยดึงข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะของนักท่องเที่ยว, ลักษณะภูมิประเทศ, ช่วงเวลาท่องเที่ยว ฯลฯ จากฐานข้อมูลของ STB ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาอินไซต์ ทำให้ภาคธุรกิจสามารถเห็นทิศทางตลาด และรูปแบบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงช่วย STB ปรับนโยบายต่างๆ ให้สอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยว และการปรับตัวของภาคธุรกิจ แพลตฟอร์ม STAN เริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2017 เปิดให้กลุ่มธุรกิจโรงแรม เอเจนซี ฯลฯ นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ต่อได้

Tourism Information & Service Hub (TIH) คอนเทนต์คอมมูนิตี้สำหรับภาคการท่องเที่ยว ที่เปิดให้กลุ่มผู้ถือหุ้น STB สร้างสรรค์คอนเทนต์ลงบนแพลตฟอร์ม และแชร์ข้อมูลให้บริษัทอื่นๆ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประกอบการวิเคราะห์ ปัจจุบันมีเรื่องราวที่ได้รับการถ่ายทอดมากมาย และนำไปใช้กับ 80 ประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็สามารถเข้าถึงข้อมูลและรู้แน่ชัดว่าพวกเขาจะสามารถท่องเที่ยว และวางแผนเดินทางไปไหนได้บ้างในสิงคโปร์

นอกจากนั้น STB ยังเตรียมส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวผ่าน The ONE Singapore Experience ด้วยบริการ Single digital pass บนสมาร์ทดีไวซ์ iOS และ Android ผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึง “ความเป็นสิงคโปร์” ได้ทั้งหมด ภายใต้โจทย์ที่ต้องการความง่าย สะดวกสบาย และยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก นักท่องเที่ยวสามารถดรอปกระเป๋าเดินทางไว้ที่สนามบิน กระเป๋าจะถูกส่งไปยังโรงแรม หรือใช้คีย์การ์ดเพียงอันเดียวเพื่อเข้าห้องในโรงแรม เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือชำระค่าอาหารในร้านอาหารต่างๆ 

สถานการณ์โควิด-19 เป็นแรงส่งสำคัญที่เร่งการ Disruption ให้เร็วขึ้น เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญใหม่ๆ ได้เข้าถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อสร้าง customer journey และช่วย STB เข้าใจนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ด้วยการสร้างมุมมองแบบ end-to-end ที่สามารถมองเห็นการเดินทางของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นจนจบ STB เริ่มจากการส่ง virtual experience เพื่อ remind ลูกค้าให้นึกถึงประเทศสิงคโปร์ จากนั้นใช้ศักยภาพของ AI มาช่วยบริหารประสบการณ์ลูกค้าตั้งแต่ก่อนที่ลูกค้าจะเริ่มออกเดินทาง ผ่านการใช้งาน “EQ meets AI” หรือการวางแผนการเดินทางอัจฉริยะ ซึ่งช่วยวางแผนทุกการเดินทางให้เป็นไปอย่างราบรื่น ผู้ใช้งานเพียงระบุข้อมูลการเดินทางเบื้องต้นและกิจกรรมที่สนใจลงไป เช่น ช้อปปิ้ง, อาหาร, งานศิลปะ, กิจกรรมเอาท์ดอร์ และระยะเวลาของทริป จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของ AI ในการวางแผนเส้นทางการเดินทางที่ดีที่สุดให้กับนักท่องเที่ยว 

ชุน ยัง ได้กล่าวถึง 3 ประเด็นหลักที่เป็นความท้าทายในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ ความปลอดภัย การช่วยเหลือภาคธุรกิจ และการสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มนักท่องเที่ยว

ความปลอดภัยของพนักงานคือความสำคัญอันดับแรก ทาง STB ดูแลพนักงานทุกคนด้วยการเช็คสุขภาพพนักงานเป็นประจำ ในฝั่งธุรกิจก็เข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการ กิจการร้านค้าให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ระหว่างนี้ เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นได้ถูกนำมาใช้พร้อมๆ กับการออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศที่วันนี้เป็นตัวทำรายได้สำคัญ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบสัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป กับจำนวนประชากรสิงคโปร์ ก็ยังไม่อาจทดแทนรายได้ที่สูญหายไปได้ ดังนั้นการสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มนักท่องเที่ยวจึงมีความสำคัญอย่างมาก 

การวางแผนและลงมือทำ Transformation Journey ของสิงคโปร์ในวันนี้จะช่วยให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์ลูกค้าครอบคลุมด้าน personalization และจุดประกายการสร้างโมเดลการตลาดใหม่ๆ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ให้แข็งแรงในระยะยาว โดยอะโดบีได้ช่วยให้ STB สร้างประสบการณ์แบบ end-to-end ของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก่อนเดินทางถึงสิงคโปร์ จนกระทั่งเดินทางกลับประเทศ ผ่านสมาร์ทโฟนและการทำงานของ AI โดยมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว ตอบโจทย์และเข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวมากที่สุด ทำให้ STB สามารถวางกลยุทธ์สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในวันข้างหน้าที่จะมาถึงในไม่ช้า 

นักเดินทางทั่วโลกส่วนใหญ่ตัดสินใจเดินทางต่างประเทศในปี 2564 และเมื่อถึงวันนั้น สิงคโปร์จะเป็นหนึ่งในประเทศที่พร้อมเปิดรับพวกเขาได้ทันที  





ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

OR มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เป้าหมาย Net Zero ปี 2050 ผ่าน 3 กลยุทธ์

OR เร่งเครื่องสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ผ่านการปฏิบัติจริง...

Responsive image

MFEC ตั้งเป้า ปี 67 รายได้โต 15% ปักธงฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยเทคโนโลยี

MFEC ตั้งเป้าหมายปี 2567 สร้างรายได้เติบโต 15% และฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี ชูกลยุทธ์ผสานโซลูชันไอที พร้อมเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโ...

Responsive image

KBank เดินหน้า Net Zero ภายในปี 2030 ชวนธุรกิจไทยรับมือ Climate Game ผ่าน 4 กลยุทธ์

KBank พลิกโฉมสู่ธนาคารแห่งความยั่งยืนรับยุค Climate Game จัดเตรียมยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมปี 2024 ที่อยากชวนธุรกิจไทยก้าวสู่โลกธุรกิจรูปแบบใหม่ TOGETHER ‘Transitioning Away’ ผ่าน ...