AIS / AP Thailand / KBank ทุ่มงบ 100 ล้าน จับมือ Stanford University ยกระดับงานวิจัยไทยสู่ระดับโลก | Techsauce

AIS / AP Thailand / KBank ทุ่มงบ 100 ล้าน จับมือ Stanford University ยกระดับงานวิจัยไทยสู่ระดับโลก

ปัจจุบัน สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังส่งผลเชิงลบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากบทสรุปของ “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum: WEF)” ประจำปี 2562 ประเมินสถานการณ์ตลาดแรงงานในอีก 4 ปีข้างหน้า ว่าจะมีจำนวนงานกว่า 75 ล้านตำแหน่งหายไป และจะมีตำแหน่งงานใหม่ๆ เกิดขึ้น ถึง 113 ล้านตำแหน่ง 

ซึ่งนับว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้ทรัพยากรมนุษย์ปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะโซนพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกเป็นจำนวนมาก เพราะ “คน” ในตลาดแรงงานส่วนใหญ่ยังคงทำงานในกลุ่มเกษตรกรรม และถ้าต้องการก้าวให้ทันตามกระแสเศรษฐกิจโลก 

กลุ่มประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องปรับตัวจากธุรกิจเกษตรกรรมไปสู่ธุรกิจบริการหรือนำเทคโนโลยีมาเพิ่มผลผลิตและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ (Productivity) ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ “คน” มากกว่า 28 ล้านคนใน 10 ประเทศสูญเสียตำแหน่งงานเดิมภายใน 10 ปี 

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย หลายองค์กรและบริษัทชั้นนำต่างร่วมมือศึกษาและวิจัย เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาทรัพยากรคนและองค์กร รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจเพื่อแข่งขันบนเวทีโลก   

คุณพอล มาร์คา ผู้บริหารระดับสูง Stanford Center for Professional Development (SCPD) มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เล็งเห็นการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เราจึงได้เร่งคิดค้นกลวิธีเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาดังกล่าว จนพบว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ในแต่ละประเทศให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิสรัปชั่นได้อย่างทันท่วงที

จากการเฝ้าสังเกตสถานการณ์โลกมาอย่างยาวนาน ทำให้เราเห็นข้อเท็จจริงที่ว่า ประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนั้น ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีการทำวิจัยอย่างเจาะลึกเป็นจำนวนหลายหมื่นวิจัยต่อปี เพื่อวิเคราะห์ถึงต้นตอของปัญหาที่องค์กรกำลังเผชิญ หรือการคิดค้นและเร่งพัฒนาองค์กรสู้ “ความท้าทายใหม่” (Challenges) ที่กำลังเข้ามา จนเกิดมาเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ ประสิทธิภาพสูง พร้อมประสิทธิผลที่เป็นรูปธรรม 

ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว สำหรับประเทศไทย มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของคนไทย รวมไปถึงขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรไทย ล่าสุดเราได้เข้ามาเริ่มดำเนินการเพื่อศึกษาระบบต่างๆ 

ทั้งด้านเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และธรรมชาติวิทยา เป็นต้น โดยได้รับความดูแลและสนับสนุนจาก SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน เป็นเสมือนผู้แทนและศูนย์กลางในการเชื่อมต่อความสัมพันธ์กับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทย

The Stanford Thailand Research Consortium

การรวมกลุ่มทำวิจัยระดับโลกที่เจาะลึกเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย เกิดจากความร่วมมือครั้งสำคัญขององค์กรที่เล็งเห็นถึงโอกาสในการยกระดับศักยภาพของประเทศไทยในอนาคต ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ร่วมสนับสนุนงานวิจัย มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยมี SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียนเป็นผู้ดูแลและสนับสนุนการดำเนินการ

หัวข้อวิจัยที่ครอบคลุม 4 มิติองค์ความรู้เพื่ออนาคต

 ได้แก่ 

1. การยกระดับความสามารถของคนไทยให้เท่าทันโลก 

2. การนำเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจไทย 

3. เสริมสร้างมาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนไทยให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน 

4. ส่งเสริมการพัฒนาสังคมเมืองที่คิดถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน 

ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาหลากหลายโครงการ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์โลกและประเทศไทยที่ได้ร่วมมือกับศาสตร์จารย์และผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมากกว่า 20 คน จาก 9 สาขาวิชา อาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะบริหารวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมชีวเวช คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ คณะบริหารธรุกิจ คณะภูมิศาสตร์ พลังงานและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะแพทยศาสตร์ และคณะจิตวิทยา ในการดำเนินการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเจาะลึกอย่างเต็มรูปแบบต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี 

เมื่อสำเร็จโครงการแล้ว จะนำข้อสรุปและผลสำเร็จของงานวิจัยมาต่อยอดในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของประเทศไทย เพื่อนำ “คุณค่า” กลับคืนสู่ประเทศไทยในบริบทใหม่ ฟื้นฟูและผลักดันศักยภาพทรัพยากร “มนุษย์” เรื่ององค์ความรู้และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ เพื่อก้าวข้ามขีดความสามารถครั้งสำคัญขององค์กรไทยสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มภาคภูมิ และพร้อมเข้าสู่การแข่งขันเชิงธุรกิจที่จะนำไปสู่การขยายศักยภาพและการเติบโตขององค์กรบนเวทีเศรษฐกิจระดับโลก

 ในมุมมองของการเลือกหัวข้อวิจัยนั้น ทั้ง 3 บริษัทมีความมุ่งหวังตรงกันในเรื่องการพัฒนาและยกระดับประเทศไทยในหลากหลายแง่มุม โดยในเบื้องต้นทาง AIS มุ่งเน้นไปที่เรื่องการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ  AP ในมุมเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของคนและการศึกษา และ KBank เป็นในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน และหัวข้ออื่นๆ อีกมากมาย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Tokenization Summit 2024 by Token X พบกูรูระดับโลกเจาะลึกวิสัยทัศน์การปฏิวัติ Digital Asset

เวทีสัมมนาสุดยิ่งใหญ่ “Tokenization Summit 2024” ภายใต้หัวข้อ Unveiling the Next Big Thing ขนทัพผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ มาให้ความรู้ แ...

Responsive image

TikTok จับมือ ลาลีกา สานต่อความร่วมมือ ยกระดับคอมมูนิตี้คนรักฟุตบอล

TikTok จับมือ ร่วมมือ LALIGA (ลาลีกา) ลีกฟุตบอลของประเทศสเปน เดินหน้าความร่วมมือต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากความสำเร็จในการร่วมมือกันครั้งแรกในประเทศไทย ที่นำไปสู่การขยายความร่วมมื...

Responsive image

จับตา ‘ไทยในฐานะ Digital Asset Hub’ เตรียมจัดงานบล็อกเชนระดับโลก SEA Blockchain Week และ Devcon ปีนี้

ไทยกำลังได้รับความสนใจจากวงการเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ด้วยการเป็นสถานที่จัดงานสำคัญระดับนานาชาติถึง 2 งาน ได้แก่ SEA Blockchain Week (SEABW) ในวันที่ 22-28 เมษา...