ภายในงาน STelligence AI Day 2025 บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด (STelligence หรือ STEL) ได้เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรเพิ่มประสิทธิภาพและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ
"ปี 2025 เป็นปีที่ AI ก้าวข้ามจากการทดลองสู่การสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริง" ดร.สันติสุข ลิ้มปีติเจริญโชติ CEO และผู้ก่อตั้ง STEL กล่าวเปิดงาน STEL AI Day 2025 พร้อมเน้นว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเพื่อลดต้นทุน แต่คือ ตัวเร่งการสร้างรายได้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และความยืดหยุ่นขององค์กร
ภายในงาน STEL เปิดตัว GraphRAG สำหรับ Legal AI เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังโครงการ OECD-Thai Legal Alignment ซึ่งช่วยยกระดับการบริหารจัดการกฎหมายและกฎระเบียบไทย นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่า Compliance และ Risk Management คือ โอกาสเร่งด่วนที่ธุรกิจต้องคว้าไว้ เพราะองค์กรที่เริ่มใช้ AI ก่อน จะสามารถลดความเสี่ยง ตัดสินใจได้รวดเร็ว และปรับตัวได้ดีกว่าคู่แข่ง
"STEL ไม่ใช่แค่บริษัทเทคโนโลยี แต่เป็นแพลตฟอร์มของนวัตกรรม การเติบโต และความสำเร็จร่วมกัน" ดร.สันติสุข กล่าวปิดท้าย
“AI ไม่ใช่อนาคต แต่เป็นเครื่องมือสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริง” คุณสรุจ ทิพเสนา Executive Director & Chief Technology Officer (CTO) ของ STEL กล่าวย้ำพร้อมส่งสารสำคัญและทรงพลังว่า “AI ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่คือเทคโนโลยีที่สร้างผลลัพธ์และความได้เปรียบทางการแข่งขันได้อย่างแท้จริงในปัจจุบัน” ธุรกิจที่สามารถนำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต แต่ยังสามารถขยายขนาด สร้างมูลค่า และสร้างโอกาสใหม่ให้กับองค์กร
AI ไม่ใช่เพียงกระแส แต่คือเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง เช่นเดียวกับรางวัลโนเบลสาขาเคมีปี 2024 ที่แสดงให้เห็นว่า AI ได้เปลี่ยนโฉมการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้น AI จึงเปรียบเสมือนเทคโนโลยีไฟฟ้าที่เคยเปลี่ยนโลกในอดีต สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่อยู่ที่การนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด องค์กรที่สามารถผสาน AI เข้ากับกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นองค์กรที่ก้าวนำในการแข่งขัน
นอกจากนี้ ความสำเร็จของ AI ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย งาน STEL AI Day ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างนักเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้ AI ถูกนำไปใช้ได้จริงในภาคธุรกิจ
สุดท้าย Data คือหัวใจสำคัญของ AI ไม่ว่าระบบ AI จะล้ำหน้าขนาดไหน หากไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องและมีโครงสร้าง ก็ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพได้ องค์กรที่สามารถจัดการข้อมูลได้ดี จะเป็นผู้ปลดล็อกศักยภาพของ AI และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
ภายในงานเริ่มต้นด้วย Panel Discussion ในหัวข้อ
ซึ่งได้รับเกียรติจาก DEPA, MEA และ Bualuang Ventures ตัวแทนจากภาครัฐ พลังงาน และการเงิน ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ ศักยภาพของ AI ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยเน้นถึงความจำเป็นในการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI, การนำ AI ไปใช้ในภาคธุรกิจ และการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อให้ AI ถูกนำมาใช้ในวงกว้าง องค์กรไทยต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถใช้ AI สร้าง Business Impact ที่วัดผลได้จริง พร้อมทั้งลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระดับประเทศ
อีกหนึ่งช่วงสำคัญคือการแชร์ประสบการณ์จริงจาก คุณวีรกร สายเทพ CFO จาก SCG CGS ที่มาเน้นย้ำว่า AI Transformation ไม่ใช่เรื่องของการวิ่งตามเทคโนโลยี แต่คือการสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน องค์กรที่ต้องการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต้องเลือกแนวทางที่เหมาะสม ไม่ใช่ทุกกรณีที่ต้องพัฒนาเองตั้งแต่ต้น แต่สามารถ สร้าง (Build), ยืม (Borrow), หรือซื้อ (Buy) เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ที่สุด AI ไม่ได้มาแทนที่พนักงาน แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มศักยภาพและเปิดโอกาสให้พนักงานทำงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
นอกจากนี้ CFO ของ SCG CGS แชร์ความสำเร็จของโครงการ Legal Eye ซึ่งนำเอา Legal Intelligence และ Compliance Mapping Platform (CMP) ของ STEL มารวมเข้ากับความเชี่ยวชาญด้าน Compliance ของ CGS เอง โดยใช้แนวทาง “Borrow” ตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่ง CGS ได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวมาผสมผสานกับศักยภาพ AI ของ STEL เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย และบริหารจัดการข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามกฎหมายที่ซับซ้อนทั่วทั้งเครือข่ายขององค์กร ส่งผลให้องค์กรสามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยง และสร้างการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมตอกย้ำอีกว่า AI ไม่ใช่แค่เรื่องของทีมเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของทุกฝ่ายในองค์กรที่ต้องร่วมกันปรับตัวเพื่อสร้าง Workforce แห่งอนาคต ประสบการณ์ของ SCG CGS แสดงให้เห็นว่า การนำ AI มาใช้ในด้านกฎหมายและการเงิน สามารถช่วยให้องค์กรปรับตัวต่อกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลง และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น AI ที่ทำงานได้จริง คือ AI ที่เสริมพลังให้คนทำงาน ไม่ใช่แทนที่พวกเขา
STelligence AI Day 2025 ยืนยันว่า AI ไม่ใช่แค่กระแสที่ถูกพูดถึง แต่คือเครื่องมือสำคัญที่สร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงให้กับธุรกิจ การแข่งขันในวันนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครมี AI ที่ล้ำหน้าที่สุด แต่คือ ใครสามารถนำ AI ไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้เร็วที่สุด ปี 2025 จะเป็นปีที่ธุรกิจต้องมุ่งเน้นการนำ AI มาใช้จริงในองค์กร ด้วยโซลูชันที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้าง Impact ได้อย่างแท้จริง