ไทยยูเนี่ยน เจาะลึก DEEPTECH เตรียมพร้อมอย่างมั่นคงสู่คลื่นลูกที่ 3 แห่ง EATNOMICS | Techsauce

ไทยยูเนี่ยน เจาะลึก DEEPTECH เตรียมพร้อมอย่างมั่นคงสู่คลื่นลูกที่ 3 แห่ง EATNOMICS

FoodTech เทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหารรูปแบบใหม่ เป็นเรื่องที่คนพูดถึงกันอย่างมากในปัจจุบัน จึงเป็นตัวแปรสำคัญต่อศักยภาพการดำเนินชีวิตของทุกคน และมีบทบาทในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร ในงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021 ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป พาผู้ชมมองไปข้างหน้า ทำความเข้าใจเทรนด์อาหารและพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะมาเป็นปัจจัยสำคัญที่หน่วยงานหรือองค์กรด้านอาหารต้องนำมาขบคิด ในหัวข้อ Investment of FoodTech in Future 

เมื่อปี 2015 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เรื่อง ‘The Three waves of EATNOMICS’ ที่คาดการณ์เทรนด์และเทคโนโลยีอาหารของโลกในอนาคตที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ เพื่อเป็นการเตรียมองค์กรในการรับมือและปรับกลยุทธ์ให้เท่าทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามกระแสเทคโนโลยี คลื่นลูกที่ 1 (ปี 2015-2018) ซึ่งเป็นเกิดขึ้นเป็นปกติในปัจจุบัน คือ อาหารหรือผลผลิตที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ไปถึงแหล่งที่มาได้, การจำหน่ายอาหารพร้อมทาน (ฉีกซอง-อุ่นร้อน), แพลตฟอร์มซื้อและจัดส่งอาหาร และการเกิดขึ้นของเนื้อสัตว์จากพืช ตอนนี้เรากำลังอยู่ในคลื่นลูกที่ 2 (2019-2022) คือ การเกิดของ Smart Kitchen, ผลิตภัณฑ์ทดแทนหรืออาหารทางเลือก, การใช้ Deeptech เข้ามาช่วยมีส่วนในการผลิตอาหาร ไปจนถึงเทคโนโลยีการพิมพ์อาหารสามมิติ  และสำหรับคลื่นลูกที่ 3  (2023-2026) ที่กำลังจะมาถึง คือการเกิดขึ้นของ Smart Food Cities – นครอัจฉริยะที่จะเป็นแหล่งอาหารใหม่ของโลก มี Ecosystem ของที่เชื่อมต่อตั้งแต่ต้นทางไปจนสุดปลายของอาหารเหลือทิ้ง พร้อมทั้งคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย, การใช้ Nano Tech – บรรจุภัณฑ์ที่จะช่วยยืดอายุของอาหาร เตือนผู้บริโภคด้านความปลอดภัย ปนเปื้อน หรือเน่าเสีย ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ, Personalized Food – การใช้ผลวิจัยทางพันธุกรรม มาปรุงอาหารเฉพาะบุคคล เพื่อเสริมโภชนาการให้อย่างถูกจุด และ Lab to Table – อาหารที่จะเปรียบเสมือนยา ที่สามารถกินแล้วใช้ป้องกันหรือรักษาโรคได้ ในระดับ DNA

ในแง่ของพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้น หลังจากการเกิดวิกฤตโควิด-19 ผู้คนได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพและสุขภาวะมากขึ้น (Health & Well-Beings) แต่ ‘ราคาและเวลา’ ยังเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงสุขภาพและสุขภาวะที่ดี โดย 38% จากการสำรวจบอกว่าอุปสรรคของการบริโภคอาหารที่ดีคือ ‘ราคา’ เพราะมองว่าอาหารที่มีคุณภาพดี มักจะมีราคาแพง และ 27% บอกว่า ‘ไม่มีเวลา’ ที่จะปรุงอาหารเอง

นอกจากนี้ ในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภคจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไป โดยการสำรวจจาก Mintel ทำให้เห็นว่าในอนาคตอีก 3-5 ปีที่จะถึงนี้ ผู้คนจะเริ่มเข้าใจความต้องการของตนเอง รู้ข้อมูลตัวเองในระดับลึกถึงด้านพันธุกรรม จึงต้องการอาหารที่ออกแบบเฉพาะตัวบุคคล (personalized) ในอนาคต ผู้คนจะเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีมากขึ้นซึ่งจะทำให้เกิด Data และสามารถนำ Data เหล่านั้นไปทำความเข้าใจ เพื่อผลิตอาหารที่ตอบสนองทางด้านสุขภาพ รวมทั้ง คนจะเริ่มมั่นใจในวิทยาศาสตร์มากขึ้น ก่อนหน้านี้ที่อาจมีคนที่ไม่ยอมรับอาหารที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี (processed food) แต่ต่อไปคนจะยอมรับอาหารที่ผลิตด้วยกระบวนการเทคโนโลยีเชิงลึกมากขึ้น และอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการเกษตรมากขึ้นอีกด้วย โดยองค์กรสามารถมองเห็นโอกาสที่เกิดขึ้น เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป จากการที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมใน Value Chain และคนเริ่มเข้าใจอีกทั้งยอมรับในวิทยาศาสตร์มากขึ้น

สำหรับ บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ก็ได้เริ่มดำเนินการเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่อนาคตของคลื่นลูกที่ 3 ด้วยโครงการต่าง ๆ มากมาย เพื่อนำร่องด้าน FOODTECH ให้กับประเทศไทยสู่เวทีโลก อาทิ

  • ผลิตภัณฑ์ UniQTMBONE ซึ่งมีการใช้นวัตกรรม zero waste สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากปลาทั้งตัว เพื่อรักษาทรัพยากรทางทะเลอันล้ำค่า เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ผงแคลเซียมบดละเอียดจากกระดูกปลาทูน่า ไม่มีกลิ่นรส จึงไม่เปลี่ยนแปลงรสสัมผัสในผลิตภัณฑ์นั้นๆ และยังสามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของอาหาร แคปซูล อัดเม็ด หรือเป็นสารอาหารเพิ่มลงในอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง

  • Plant-Based Protein ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาให้มีรสชาติและคุณลักษณะเหมือนกับเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค

  • ‘ทูน่าออยล์’ เป็นน้ำมันปลาทูน่าสกัดเย็นที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากหัวปลาทูน่าทะเลน้ำลึก 100% ทำให้ได้ DHA จากธรรมชาติโดยไม่ต้องเติมสารเคมี และผ่านเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี ซึ่งคาดการณ์รายได้จะเติบโตถึง 1,000 ล้านบาทในอีก 5 ปี

  • ธุรกิจอาหารเสริม แคลเซียม โปรตีนไฮโดรไลเสท คอลลาเจนเปปไทด์ ที่สามารถผลิตได้ในประเทศของเรา ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

ไทยยูเนี่ยนเล็งเห็นถึงวิวัฒนาการด้านอาหารในอนาคตที่ไม่ได้ครอบคลุมเพียงแค่กระบวนการผลิตใหม่ ๆ เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ การพัฒนาวัตถุดิบ การบริหารจัดการ และระบบทางนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตผู้คนที่กำลังเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น จึงได้ร่วมมือกับหลายๆองค์กรในการสนับสนุนโครงการ SPACE-F ที่มีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะและเร่งการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีอาหาร (FoodTech) อย่างเต็มที่ ให้ประเทศไทยสามารถพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอาหารที่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดและสามารถแข่งขันได้ไม่แพ้นวัตกรรมจากต่างประเทศ ขึ้นเป็นผู้นำโลกในคลื่นลูกที่ 3 ของ EATNOMICS ไปด้วยกัน

ติดตามชมเสวนาออนไลน์ย้อนหลังจากหลากหลายผู้เชี่ยวชาญ ในงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021” ภายใต้แนวคิด “DEEP TECH RISING …The Next Frontier of Innovation” การยกระดับเทคโนโลยีเชิงลึก...นวัตกรรมด่านหน้าแห่งอนาคตที่จะมาขับเคลื่อนประเทศ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15-18 กันยายนนี้ ผ่านเว็บไซต์ https://site.nia.or.th/sessions



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

HD เพิ่มทุน Series A เป็น 7.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เดินหน้าขยายตลาด Health Care และ AI ใน SEA

HD แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลซชั้นนำสำหรับบริการสุขภาพและการผ่าตัดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศปิดรอบการระดมทุน Series A-1 โดยมี MSD บริษัทผู้นำด้านเวชภัณฑ์ระดับโลกเข้าร่วมลงทุน ทำให้ก...

Responsive image

Siam AI นำ NVIDIA GB200 NVL72 เข้าไทย ตอกย้ำเป้าหมาย AI Sovereignty

Siam AI ประกาศความสำเร็จในการเป็น NCP รายแรกในเอเชีย ที่นำ NVIDIA GB200 NVL72 สู่ไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ในภูมิภาค พร้อมเดินหน้าสร้าง AI Sovereign Cloud เพื่...

Responsive image

ETDA เปิดตัวโปรเจค 'EDC Trainer Season 4' ปั้นเทรนเนอร์ดิจิทัล พร้อมลุ้นเวที EDC Pitching สมัครด่วนก่อน 12 มี.ค.

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ร่วมมือกับ Dek-D เปิดโครงการ “ETDA Digital Citizen Trainer” หรือ EDC Trainer Season 4 ภายใต้แนวคิด “ส่งต่อความรู้ สู่สังคมดิ...