สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ Thailand Incentive and Convention Association (TICA) ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2527 ในฐานะขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กับภาคเอกชน คือ บริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการจัดการประชุม และนิทรรศการ หน้าที่หลักของสมาคมฯ คือ ส่งเสริมสนับสนุนและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นสถานที่จัดประชุมระดับนานาชาติ ปัจจุบันสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.ตั้งแต่การก่อตั้งของสสปน.ในปี พ.ศ. 2547 ในฐานะหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบในอุตสาหกรรมนี้โดยตรง
สมาชิก TICA ในภาคเอกชนประกอบด้วย:
สมาชิกทุกภาคส่วนล้วนมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า รวมถึงองค์กรในอุตสาหกรรมไมซ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกประเภท โรงแรม ผู้จัดงาน บริษัทท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ผู้จัดงานประชุม และผู้จัดงานแสดงสินค้าที่จัดงานในประเทศไทย
การบริหารงานหลักๆ ของสมาคมฯ จะมาจากผู้แทนของสมาชิกในทุกๆ ภาคส่วน ที่มาจากการเลือกตั้ง และดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี และภายใต้คณะกรรมการบริหารสมาคม จะแบ่งคณะกรรมการออกเป็น 3 ฝ่าย ดังนี้
นอกจากนี้สมาคมฯ ได้มีการแต่งตั้ง เลขาธิการ เหรัญญิก ประธานร่วมคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ รวมถึงที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ามาช่วยบริหารสมาคมฯ โดยคณะกรรมการแต่ละฝ่ายมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
คณะกรรมการบริหารมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ ให้กับสมาคมฯ โดยทำหน้าที่กำกับดูแล การพัฒนา และการติดตามแผนกลยุทธ์และนโยบายที่สำคัญของสมาคม รวมถึงการบริหารจัดการงบประมาณของสมาคม นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารยังประสานงานและสนับสนุนกิจกรรมของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อช่วยในการส่งเสริมและสนับสนุน ให้บรรลุตามนโยบายที่ตั้งไว้ รวมถึงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องยิ่งๆ ขึ้นไป
คณะกรรมการพัฒนาศักยภาพมีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อช่วยยกระดับองค์ความรู้ และความเป็นมืออาชีพให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมไมซ์ โดยหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรต่างๆ ของสมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ ของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) หรือสสปน. นอกจากนี้คณะกรรมการฝ่ายนี้ยังมีหน้าที่รวบรวม Buyer RFPs – Request For Proposal (คำขอข้อเสนอ) ซึ่งจะถูกส่งไปยังสมาชิกในรูปแบบของ Sales Lead ให้สมาชิกได้นำเสนอสินค้า และบริการให้แก่ลูกค้า คณะกรรมการฝ่ายพัฒนาศักยภาพยังมีการทำงานร่วมกับคณะกรรมการฝ่ายส่งเสริมการขาย เพื่อให้ได้ Sales Lead จากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
คณะกรรมการฝ่ายส่งเสริมการขาย มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนากิจกรรมต่างๆ ด้านการตลาดที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนสมาชิกสมาคม รวมถึงการทำการตลาดให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่รองรับการจัดประชุมและนิทรรศการระดับนานาชาติ ให้กับกลุ่มผู้ซื้อทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งตัวอย่างของกิจกรรมได้แก่ การเข้าร่วมและประสานงานงานให้กับกลุ่มสมาชิกในการเข้าร่วมเทรดโชว์ และโรดโชว์ ในต่างประเทศ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึงการอัปเดทผลิตภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย (FAM - Trips) การจัดกิจกรรมในรูปแบบการเจรจาซื้อขาย (Table Top)
นอกจากนี้ คณะกรรมการฝ่ายส่งเสริมการขายยังมีการพัฒนาและบริหารจัดการเว็บไซต์ของสมาคม เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจัดประชุม รวมถึงรายชื่อสมาชิกสมาคม และข้อมูลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมไมซ์
คณะกรรมการฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ มีบทบาทในการขับเคลื่อนการเติบโตของสมาคมเพื่อให้มีสมาชิกหลากหลายสาขาอาชีพที่อยู่ในอุตสาหกรรมไมซ์ และคณะกรรมการยังประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ผ่านทาง Social Media ในหลายๆ ช่องทางที่สมาคมฯ มี เช่น Facebook, IG, LinkedIn และ YouTube คณะกรรมการยังมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ เช่น การพบปะสร้างสรรค์ระหว่างสมาชิกสมาคมฯ (TICA Membership Quarterly Luncheon) เพื่อให้สมาชิกได้รับข้อมูลใหม่ รวมถึงข้อมูลสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไมซ์
นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการที่จะสานต่อเจตนารมณ์ และสร้างผลงานโดยมุ่งเน้น 4 เสาหลักของสมาคม จากคำว่า T I C A ซึ่งประกอบด้วย ได้แก่ T - Talent Development คือการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ I – Innovation คือนวัตกรรม C - Collaboration & Contribution คือความร่วมมือและการมีส่วนร่วม และ A – Agility คือการปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Talent Development – การพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ
ในความเป็นจริงแล้วสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมไมซ์ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของมนุษย์เป็นหลัก ดังนั้นการเสริมทักษะ และการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพสูงสุด จึงมีบทบาทสำคัญแก่ผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อช่วยยกระดับการให้บริการให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงส่งเสริมนวัตกรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก
สมาคมจะยังคงมุ่งเน้น และดำเนินการจัดอบรม รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีภาวะความเป็นผู้นำ โดยสมาคมร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ และสร้างบุคลากรให้มีศักยภาพในอุตสาหกรรมไมซ์ต่อไป
Innovation – นวัตกรรม
การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในขณะที่โลกเรามีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการก้าวไปพร้อมๆ กับ AI จนทำให้โลกมีการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งหนึ่งที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของไทย คือการบริการแบบไทยๆ ที่ยังคงไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้ ดังนั้นเราต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมไม่ใช่เพียงเพื่อให้ทันโลก แต่ยังคงเป็นผู้นำด้านบริการ และการสร้างโปรแกรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยสร้างแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น ที่สามารถมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำที่ดีและไม่มีวันลืม
Collaboration & Contribution – ความร่วมมือและการมีส่วนร่วม
ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมถือเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยการแบ่งปันทรัพยากร ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญชำนาญการ ที่จะช่วยยกระดับประเทศไทยให้มีชื่อเสียงในเวทีโลกในฐานะประเทศที่รองรับการจัดงานประชุมระดับชั้นนำ มากไปกว่านั้น ความยั่งยืนที่ไม่ใช่ทางเลือกของผู้จัดงานอีกต่อไป แต่ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องผนวกรวมเข้าไปกับจัดงาน และการให้บริการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่มลูกค้า และความร่วมมือ ร่วมใจ ในความมุ่งมั่นร่วมกัน ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ยังถือเป็นการสร้างมรดกที่ยั่งยืนให้กับชุมชน และประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ ให้เกิดความสำเร็จในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์
Agility – การปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพ
ความสามารถในการปรับตัว การยืดหยุ่น และการเตรียมความพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่เสมอ ซึ่งถือว่ากลายเป็นเรื่องปกติ ที่ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ จะต้องรับมือ และมีการเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถตอบสนองโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น ไปพร้อมๆ กัน
ในฐานะที่ดิฉันรับหน้าที่เป็นนายกสมาคม ในวาระ 2025-2026 นี้ ดิฉันตระหนักดีว่าหน้าที่นี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญ และถือเป็นความท้าทายของดิฉัน แต่มันทำให้ดิฉันรู้สึกมีพลัง และพร้อมที่จะทำหน้าที่นี้ โดยมั่นใจว่าจะพาสมาคมฯ โดยยึดหลัก 4 เสา T – I - C - A ก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต และดิฉันขอขอบคุณสมาชิกสมาคมฯ ที่ให้ความไว้วางใจและการสนับสนุนสมาคมฯ อย่างต่อเนื่องด้วยดีมาตลอด
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด