“TRIS CORP” ชี้หน่วยงานภาครัฐตื่นตัว และเร่งดำเนินการตามกรอบ Data Governance เพื่อยกระดับขีดความสามารถองค์กร และขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล | Techsauce

“TRIS CORP” ชี้หน่วยงานภาครัฐตื่นตัว และเร่งดำเนินการตามกรอบ Data Governance เพื่อยกระดับขีดความสามารถองค์กร และขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล

“ทริส คอร์ปอเรชั่น” ชี้หน่วยงานภาครัฐตื่นตัว และเร่งดำเนินการตามกรอบธรรมาภิบาลข้อมูล หรือ Data Governance เพื่อยกระดับขีดความสามารถองค์กร และขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล 

บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กร จัดงานสัมมนา “Exclusive Seminar : Deep Dive Into Data Governance มุ่งสู่องค์กรดิจิทัลยั่งยืนตามกฎหมายใหม่” นำโดยนายสมพร จิตเป็นธม กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยนายสรรเสริญ สงวนศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งเป็นการสร้างความตระหนักในการนำแนวคิด “ธรรมาภิบาลข้อมูล” หรือ Data Governance ไปใช้ในการดำเนินงาน และขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยได้รับความสนใจจากผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจำนวน 21 หน่วยงาน เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กรมสรรพสามิต กรมขนส่งทางราง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงานสัมมนาพร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นถึงความสำคัญของ Data Governance ในวันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ 

นายสมพร จิตเป็นธม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ทริสเป็นบริษัท ที่ปรึกษาที่ให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการข้อมูลให้เป็นไปตามกรอบธรรมาภิบาลข้อมูล หรือ Data Governance เพราะข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการองค์กรและการตัดสินใจ จึงจำเป็นต้องมีการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและทำให้เกิดความมั่นใจในการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ และมีความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล จึงถือเป็นความท้าทายขององค์กร หรือหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับมีกฎหมายใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลหรือ Data-Driven Organization เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล 

นอกจากนี้ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐบาลได้ประกาศใช้กฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐนำไปปฏิบัติ ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐจึงต้องให้ความสำคัญในการดำเนินการตามกรอบธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ หรือ Data Governance for Government ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา


“ปัจจุบันทั่วโลกขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเกือบทั้งหมดแล้ว และเมื่อพูดถึงดิจิทัลก็ต้องพูดถึงข้อมูล การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลนั้นจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐของไทยซึ่งมีหน้าที่ให้บริการประชาชน ต้องตื่นตัวในเรื่องนี้ พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลที่ทันสมัย ทั้งการใช้ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ การเปิดเผยข้อมูล ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูล โดยทุกหน่วยงานภาครัฐต้องพัฒนาหน่วยงานเพื่อการให้บริการที่สะดวก โปร่งใส ทันสมัย ตอบโจทย์ประชาชน และเพื่อเป็นการยกระดับรัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย”นายสมพร กล่าว


ด้านนายสรรเสริญ สงวนศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ขึ้นกล่าวถึงความท้าทายของหน่วยงานภาครัฐในการปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Data-Driven Organization ซึ่งได้กระตุ้นให้เห็นถึงความสำคัญและการตื่นตัวในการทำ Data Governance โดยจากการที่ทริส คอร์ปอเรชั่น เป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานภาครัฐทั้งการพัฒนาองค์กร การวิจัยหรือการสำรวจข้อมูล รวมไปถึงเป็นที่ปรึกษาในการประเมินผล ทำให้ได้เห็นว่าหน่วยงานภาครัฐได้เก็บข้อมูลเป็นจำนวนมาก แต่การบริหารจัดการข้อมูลดังกล่าวยังมีข้อจำกัดในแง่ของความรู้ความสามารถของบุคลากรในการเอาข้อมูลต่างๆมาใช้ประโยชน์ต่อ ประกอบการการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้จากนี้จากการทำวิจัยในมุมของความต้องการและความเชื่อมั่นในการใช้ข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีตั้งแต่ภาคประชาชน จะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบกับตัวเอง ส่วนภาคเอกชนคือผู้ประกอบการ จะเป็นข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจ ส่วนภาครัฐด้วยกัน จะเป็นข้อมูลในเรื่องของทะเบียนราษฎร์  การรักษาพยาบาล โดยพบว่าภาคประชาชนส่วนใหญ่มีความมั่นใจในข้อมูลมากที่สุด ส่วนการเชื่อมต่อข้อมูลของภาครัฐกับภาคเอกชนพบว่ามีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยและการรักษาความลับ ซึ่งถ้าหน่วยงานภาครัฐสามารถสร้างความมั่นใจตรงนี้ได้ การเชื่อมต่อข้อมูลก็จะทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าสำเร็จก็จะเป็น Big Data มหาศาล ที่ภาครัฐเองก็สามารถนำเอาข้อมูลชุดนี้ไปประมวลผลและใช้ประโยชน์ที่จะทำให้การออกมาตรการและนโยบายต่างๆได้ตรงจุดถึงระดับบุคคล ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐเองจะต้องปรับองค์กรเพื่อที่จะทำให้ข้อมูลต่างๆ เป็นข้อมูลที่สร้างความมั่นใจได้ว่าถูกต้อง อัพเดท และเอาไปใช้ได้ทันที 

สำหรับงานสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงข้อคิดเห็นต่างๆ กับท่านผู้บริหาร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่าน อันเป็นบุคคลคนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ด้าน Digital Transformation สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เข้าร่วมเสวนา “ประสบการณ์จริงจากการทำ Data Governance เพื่อรองรับกฎหมายใหม่”  


รวมถึงผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐทั้ง 21 หน่วยงาน ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช่วงการเสวนาจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารทั้งของภาครัฐและเอกขนที่มาร่วมงาน ได้ให้ความสำคัญ และส่วนหนึ่งได้ดำเนินการในเรื่องเหล่านี้แล้ว ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมาภิบาลของข้อมูล ซึ่งทริส คอร์ปอเรชั่นหวังว่าการสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยจุดประกายและทำให้เกิดการพัฒนาประเทศในด้านธรรมาภิบาลข้อมูล

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เตรียมพบกับงานสัมมนา Social Value thailand Forum 2024 เปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

งานสัมมนาเปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยฐานความรู้ นวัตกรรม และความร่วมมือรัฐ เอกชน สังคม Accelerating Education and Partnership for the SDGs...

Responsive image

เปิดตัวโครงการนำร่อง "กำแพงพักใจ ที่พักใจให้เยาวชน" ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิ Wall of Sharing, Ooca และ สปสช.

โครงการนี้มีเป้าหมายในการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตสำหรับเยาวชน 2,500 คนในกรุงเทพฯ ด้วยบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ฟรี และยังลดภาระในการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต โดยที่เยาวชนจะได้รับก...

Responsive image

"Brother" ยกระดับมาตรฐานบริการรอบด้าน มุ่งสร้างความพึงพอใจลูกค้าพร้อมตั้งเป้าโต 6%

Brother พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากปี 2566 มุ่งตอบโจทย์โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ยกระดับงานให้บริการสู่มาตรฐานขั้นสูง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด พร้อมเสริมแกร่งฐานลูกค้ากลุ่...