True Digital Group ยกระดับ TrueX จับมือ 3 บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก รองรับผู้ใช้ Tuya กว่า 3 ล้านคนในไทย

True Digital Group ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก China Mobile International (CMI), T3 Technology และ Tuya Smart เพื่อยกระดับ “TrueX” แพลตฟอร์มเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด “Empowering Every Home, Redefining the Future Living” ผู้ใช้แอป Tuya – Smart Life และ Smart Living กว่า 3 ล้านคนในไทย สามารถเข้าถึง TrueX พร้อมบริการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ 

ความร่วมมือครั้งนี้จะเพิ่มขีดความสามารถของทรูเอ็กซ์ในการเติมเต็มความคาดหวังของผู้บริโภคด้านนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย สุขภาพ การเชื่อมต่อ และบริการที่ปรับแต่งมาเฉพาะตัวสำหรับความต้องการรายบุคคล ด้วยจุดแข็งที่หลากหลายจากพันธมิตรแต่ละราย ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จะสามารถตอกย้ำสถานะของทรูเอ็กซ์ ในฐานะแพลตฟอร์มครบวงจรชั้นนำที่รวบรวมเทคโนโลยีและบริการที่ครบครันสำหรับบ้านและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล

ภายใต้ความร่วมมือนี้ พันธมิตรทั้งสามจะนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาผสมผสานกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าบนแพลตฟอร์มทรูเอ็กซ์ ดังนี้

• ไชน่า โมบาย อินเตอร์เนชั่นแนล (CMI) มาพร้อมกับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตจากตลาดในประเทศจีน ด้วยประสบการณ์ในการเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกว่า 260 ล้านครัวเรือน และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เตรียมมาเปิดประสบการณ์สุดล้ำพลัง AI ให้ผู้ใช้ทรูเอ็กซ์ได้สัมผัสกันในประเทศไทย
• ทีทรี เทคโนโลยี พร้อมผนึกกำลังในฐานะผู้ผสมผสานแพลตฟอร์มเทคโนโลยี AIoT (AIoT Platform Integrator) ให้ทุกนวัตกรรม อุปกรณ์ และบริการจากทรูเอ็กซ์, ไชน่า โมบาย, ทูย่า สมาร์ท และทีทรี ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งอย่างราบรื่น ไร้รอยต่อ ผ่านแพลตฟอร์มทรูเอ็กซ์
• ทูย่า สมาร์ท มีบทบาทเป็นผู้ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มของความร่วมมือครั้งนี้ เสริมให้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยของทูย่าทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มทรูเอ็กซ์ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยความร่วมมือนี้จะเปิดโอกาสให้ฐานผู้ใช้กว่า 3 ล้านคนของทูย่าในประเทศไทย สามารถเข้าถึงฟีเจอร์สมาร์ทโฮมและโซลูชันดิจิทัลเพื่อการใช้ชีวิตจากทรูเอ็กซ์ได้อย่างสะดวกสบายในแอปเดียว พร้อมรับสิทธิพิเศษจากทรูเอ็กซ์เมื่อทำการย้ายอุปกรณ์เข้าสู่แพลตฟอร์มอีกด้วย

คุณเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเท่ากับว่าความต้องการและความคาดหวังของพวกเขาในด้านการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะนำความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และความสามารถในการควบรวมนวัตกรรมจากพันธมิตรระดับโลก เข้ามาเสริมศักยภาพให้ทรูเอ็กซ์ สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล ด้วยแพลตฟอร์มที่พร้อมช่วยให้ทุกชีวิตในทุกบ้านเชื่อมถึงกันมากขึ้น สะดวกสบายยิ่งขึ้น และปลอดภัยกว่าที่เคย”

คุณจูลี่ หนิง ผู้จัดการใหญ่ ไชน่า โมบาย อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย เสริมว่า “ทรูเป็นพันธมิตรที่ทำงานกับเราอย่างใกล้ชิด และความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของทั้งสองฝ่าย ในประเทศจีน เราประสบความสำเร็จในการให้บริการสมาร์ทโฮมแก่ลูกค้ากว่า 260 ล้านครัวเรือน เราพร้อมที่จะนำประสบการณ์นี้มาปรับใช้ในประเทศไทย โดยผสานกับความเข้าใจในฐานลูกค้าไทยของทรู เรามั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์สมาร์ทโฮมที่ดียิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของผู้บริโภคทั่วไทย และร่วมกันเดินหน้าสู่การสร้างไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่าไปด้วยกัน”

คุณลีโอ ยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ทีทรี เทคโนโลยี กล่าวอีกว่า “ในฐานะผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าด้านการผสานศักยภาพของเทคโนโลยี AIoT ภารกิจของทีทรี คือการรวบรวมทั้งการเชื่อมต่อ นวัตกรรม AI และระบบนิเวศของอุปกรณ์ สมาร์ท ดีไวซ์ ต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและไร้รอยต่อ เมื่อควบรวมทั้งความเป็นผู้นำของทรูเอ็กซ์ ระบบนิเวศ IoT ของไชน่า โมบาย และทูย่า และความแข็งแกร่งของเราในด้านการพัฒนาและเชื่อมโยงแพลตฟอร์ม IoT ให้เป็นหนึ่งเดียว เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำเสนอบริการที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้ลูกค้าและครัวเรือนทั่วไทยได้สัมผัส”

คุณรอสส์ หลัว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก ทูย่า สมาร์ท เผยว่า “เรามีความมุ่งมั่นมาโดยตลอดที่จะสรรสร้างแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนา AI ที่เปิดกว้าง เป็นกลาง พร้อมสำหรับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อไลฟ์สไตล์ที่ชาญฉลาดยิ่งกว่า ความร่วมมือของเรากับทรู ดิจิทัล กรุ๊ป, ไชน่า โมบาย อินเตอร์เนชั่นแนล และ ทีทรี เทคโนโลยี ในโอกาสนี้ นับเป็นการผสมผสานความโดดเด่นของแต่ละฝ่ายเข้ากันอย่างลงตัว ทั้งในด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ บริการเชิงเทคนิค และการพัฒนาระบบนิเวศ เพื่อเสริมให้ทุกฝ่ายมีบทบาทในตลาดสมาร์ทโฮมมากยิ่งขึ้น ในฐานะผู้นำระดับโลกของอุตสาหกรรมนี้”