UNHCR แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของ “กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ในประเทศไทยเพื่อผู้ลี้ภัย” เครือข่ายแห่งการให้จากผู้หญิงถึงผู้หญิง หลังเปิดตัวครบรอบ 1 ปี
ท่ามกลางวิกฤตการพลัดถิ่นที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากสงคราม ความขัดแย้ง และการประหัตประหาร ทำให้จำนวนผู้พลัดถิ่นทั่วโลกเพิ่มสูงมากกว่า 103 ล้านคน เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และมากกว่าครึ่ง คือ ผู้หญิงและเด็ก
โดยหนึ่งในประชากรที่ตกอยู่ในสถานะผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่สุดในโลก คือชาวซีเรียกว่า 13 ล้านคน ที่ครึ่งหนึ่งกำลังพลัดถิ่นอยู่ในประเทศ และอีก 6.6 ล้านคนต้องลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จอร์แดน เลบานอน และทูร์เคีย
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จึงได้เปิดตัว “กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ในประเทศไทยเพื่อผู้ลี้ภัย” ใน พ.ศ. 2565 ร่วมกับประธานฯ และสมาชิกกิตติมศักดิ์ของกองทุนฯ รวมถึงสื่อพันธมิตร ผลักดันขยายเครือข่ายแห่งการแบ่งปันจากผู้หญิงในประเทศไทย ถึงแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวซีเรียที่กำลังลี้ภัยอยู่ในประเทศจอร์แดน เพื่อสนับสนุนโครงการมอบความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้หญิงลี้ภัยที่ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ให้พวกเธอสามารถจัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายรายเดือนได้ตามความจำเป็นสูงสุดอย่างมีศักดิ์ศรีเพื่อครอบครัวที่เธอรัก
“UNHCR ริเริ่มโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน เพื่อเป็นเครื่องมือมอบความคุ้มครองแก่ผู้ลี้ภัยแต่ละครอบครัวที่มีความต้องการที่ต่างกันใน 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในจอร์แดน” คุณไนวีน อัลเบิร์ต รองผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าว “วิธีการนี้ยังช่วยยกระดับผู้หญิงในชุมชน ส่งเสริมบทบาทความเท่าเทียมทางเพศ และเน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของผู้หญิงลี้ภัย เพื่อการอาศัยอยู่อย่างผสมผสานกลมกลืนกับชุมชนที่มอบที่พักพิงอย่างยั่งยืน”
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา “กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ในประเทศไทยเพื่อผู้ลี้ภัย” ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศไทยสนับสนุนกองทุนฯ มากถึง 30 ท่าน ทำให้สามารถมอบเงินบริจาคให้กับ UNHCR เป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,500,000 บาท เพื่อนำไปแปรเปลี่ยนเป็นความช่วยเหลือด้านการเงิน สร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่ครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวซีเรียไปแล้วกว่า 380 คน จาก 76 ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวในจอร์แดนตลอดปี พ.ศ. 2565
“ความสำเร็จของกองทุนฯ เกิดขึ้นได้เพราะความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน ร่วมผลักดันกองทุนฯ ให้ขยายตัวอย่างมีคุณค่าต่อสังคมในระดับโลก การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องของกองทุนฯ สะท้อนให้เห็นพลังของผู้หญิงยุคใหม่ที่พร้อมเป็นผู้นำและเป็นตัวอย่างในการส่งต่อความช่วยเหลือกลับคืนให้สังคมอย่างไร้ขอบเขต” คุณแวววรรณ กันต์นันท์ธร ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรสโกลด์ (ไทยแลนด์) จำกัด และประธานกองทุนฯ กล่าวถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมา
กองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ฯ ประกอบด้วยสมาชิกกิตติมศักดิ์จากหลากหลายธุรกิจ ผู้มีชื่อเสียง และสื่อพันธมิตรชั้นนำในประเทศ ที่ร่วมผสานพลังเชิงบวกขับเคลื่อนความช่วยเหลือเพื่อครอบครัวแม่เลี่ยงเดี่ยวชาวซีเรีย ผ่านกิจกรรมสร้างความรับรู้และการระดมทุนผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างเครือข่ายแห่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผู้หญิงลี้ภัย
“HiSoParty มีเพื่อน พี่น้องที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมมากมายที่มีความเมตตา และพร้อมสนับสนุนกิจกรรมการกุศลอย่างสม่ำเสมอ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ ช่วย ประชาสัมพันธ์กองทุนฯ และจัดงานระดมทุนเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือจากประเทศไทย ไปสู่การทำงานด้านมนุษยธรรมในระดับโลก” คุณปรียามล ธนวิสุทธิ์ บรรณาธิการบริหาร บจก. เวบ พับลิชชิ่ง (HiSoParty Magazine และเว็บไซต์ HiSoPartyofficial.com) กล่าวถึงการเป็นสื่อพันธมิตรของกองทุนฯ
กองทุนฯ ขับเคลื่อนด้วยการสนับสนุนจากสมาชิก และสมาชิกกิตติมศักดิ์ทั้ง 30 ท่าน โดยแต่ละท่านคือผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในสายงานของตนเอง และอาสาเข้ามาร่วมกิจกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือมอบชีวิตใหม่ให้ผู้หญิงลี้ภัย
“ตลอด 1 ปี หนึ่งได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนนักธุรกิจหญิงหลายท่านจากหลากหลายวงการ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดและทัศนคติใหม่ๆ ทำให้เราได้เห็นความสำคัญของการร่วมมือกันที่จะสร้างจุดแข็งให้กับเครือข่ายของเราในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ พลังของผู้หญิงทุกคนสามารถสร้างประโยชน์และความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกเพื่อสังคมและผู้คนได้เสมอ” คุณถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวถึงประสบการณ์ในปีที่ผ่านมา
ท่านสามารถร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนเครือข่ายกองทุนนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ในประเทศไทยเพื่อผู้ลี้ภัย ร่วมกับ UNHCR ขยายสังคมแห่งการให้ เพื่อสร้างโอกาสและชีวิตที่ดีขึ้นแก่แม่เลี้ยงเดี่ยวชาวซีเรียที่ลี้ภัยในประเทศจอร์แดน ด้วยการสมัครสมาชิกรายปีเพียง 80,000 บาท เพื่อให้พวกเธอได้มีโอกาสดูแลครอบครัวอันเป็นที่รัก ตามความขาดแคลนของตนเอง อาทิ การจัดหาอาหาร ค่าเช่าบ้าน อุปกรณ์เพื่อสุขอนามัย ค่ารักษาพยาบาล และการศึกษาของลูก เป็นต้น
ในฐานะสมาชิกกองทุนฯ ท่านจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายในการพัฒนาตนเองและธุรกิจ ผ่านการเข้าร่วมสัมนาพิเศษ ร่วมแชร์ทักษะ ความรู้ และความสามารถของคุณ เพื่อกำหนดอนาคตให้กับกองทุนฯ และเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานด้านมนุษยธรรมในระดับโลกไปพร้อมกับนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศอีกมากมาย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครสมาชิกได้ที่ www.unhcr.org/th/leading-women-fund
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด