ตอนเริ่มเขียน Source Code บิล เกตส์ (Bill Gates ) เล่าว่าเขาลองย้อนนึกถึงหนังสือที่เคยอ่านแล้ว “อิน” แบบสุด ๆ ไม่ใช่แค่สนุก แต่ต้องสอนอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ “ความเป็นผู้นำ” ได้ด้วย
บิล เกตส์ บอกว่าหนังสือที่เปลี่ยนมุมมองของเขาได้มากที่สุด ไม่ใช่แนว How-to หรือหนังสือแนวธุรกิจ แต่เป็น “เรื่องเล่าจากคนธรรมดา” หรือคนที่ผ่านเรื่องยากในชีวิต แล้วกล้าเล่าออกมาอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งนี่คือ 5 เล่มที่บิล เกตส์บอกว่า “อ่านแล้วดีจริงๆ” และเป็นแรงบันดาลใจให้เขากล้าเปิดเผยด้านเปราะบางของตัวเองใน Source Code มากขึ้น
Personal History เป็นบันทึกความทรงจำของ Katharine Graham ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องกลายมาเป็นผู้นำ The Washington Post แบบไม่ทันตั้งตัว หลังจากสามีเสียชีวิต เธอต้องเรียนรู้ทุกอย่างจากศูนย์ ท่ามกลางแรงกดดันและสายตาคนทั้งวงการ เพราะตอนนั้นผู้หญิงแทบไม่มีบทบาทในโลกธุรกิจ โดยเฉพาะในวงการสื่อ หนังสือเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญที่เธอต้องตัดสินใจ เช่น การเผยแพร่ Pentagon Papers และการรายงานข่าว Watergate ที่นำไปสู่การลาออกของประธานาธิบดี Nixon รวมถึงเรื่องราวหลังบ้าน การต่อสู้กับแรงต้านต่าง ๆ และการค้นหาความมั่นใจในตัวเอง หนังสือเล่มนี้เล่าอย่างตรงไปตรงมา ไม่สวยหรูเกินจริง แต่เต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจ จนคว้ารางวัล Pulitzer Prize ไปครองแบบสมศักดิ์ศรี
ซึ่งจากหนังสือเล่มนี้ บิล เกตส์ ได้เรียนรู้ว่า "ผู้นำ" ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ดูพร้อมไปหมดทุกด้าน บางทีคนที่ดูธรรมดา หรืออาจจะยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย ก็สามารถกลายเป็นคนที่แกร่งที่สุดได้ ที่สำคัญกว่าความเก่งคือ “การกล้าตัดสินใจ”
เมื่อปี 1997 บิล เกตส์ ได้อ่านบทความของนักข่าวคนนี้ แล้วเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการบริจาคเงินไปเลย บทความนั้นเล่าเรื่องน่าเศร้าของเด็กๆ ในประเทศยากจนที่ต้องเสียชีวิตเพราะโรคท้องร่วง เรื่องนี้มันทำให้บิล เกตส์ รู้เลยว่าเขาอยากจะเอาเงินไปช่วยแก้ปัญหาอะไร
นิโคลัส คริสตอฟ คนนี้ไปทำข่าวมาแล้วกว่า 150 ประเทศ เจอมาทั้งสงคราม ความยากจน ปัญหาสุขภาพสารพัด แต่ในหนังสือเล่มนี้ เขามาเล่าว่าทำไมเขายังมีความหวังกับโลกใบนี้อยู่ได้
สิ่งที่บิล เกตส์ ได้เรียนรู้ คือถ้าโลกเรามีคนแบบนิโคลัส คริสตอฟ เยอะๆ คือคนที่กล้าลงไปลุยงานจริง เห็นปัญหาจริงๆ แต่ยังไม่หมดหวัง ยังพยายามหา "ทางออก" และมองเห็น "ความหวัง" อยู่เสมอ โลกเราคงจะดีขึ้นอีกเยอะเลย
Tara โตมาในครอบครัวที่แปลกมากๆ คือไม่เชื่อเรื่องการเรียนในโรงเรียน ไม่เชื่อในระบบรัฐบาล และพยายามตัดขาดจากโลกภายนอก แต่ทารากลับสู้จนหาทางเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยระดับโลกได้สำเร็จ
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้พูดถึงแค่เรื่องการเรียน แต่มันสะท้อนถึงช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่เราทุกคนต้องเจอ คือจุดที่เราต้องหันกลับมามองตัวเอง แล้วตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยเชื่อมาตลอด
พูดง่าย ๆ ก็คือหนังสือเล่มนี้พูดถึง "การค้นพบตัวเอง" มันคือการที่เราต้องกล้าตั้งคำถามกับสิ่งที่ถูกสอนมา เพื่อสร้างตัวตนและความเชื่อในแบบของเราเอง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากๆ สำหรับคนที่จะเป็นผู้นำ
Trevor Noah เกิดมาเป็นลูกครึ่งในยุคที่แอฟริกาใต้มีการแบ่งแยกสีผิวอย่างรุนแรง การมีลูกครึ่งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในยุคนั้น แต่เขากลับเปลี่ยนปมด้อยนี้ให้กลายเป็นมุมมองใหม่และเป็นเรื่องตลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
บิล เกตส์ เองก็เคยรู้สึกเหมือนเป็น "คนนอก" ในบางช่วงของชีวิต เรื่องของเทรเวอร์ทำให้เห็นว่า การที่เรามีมุมมองไม่เหมือนคนอื่น ไม่ได้แปลว่าเราแปลก แต่มันอาจจะกลายเป็น “ข้อได้เปรียบ” ที่ทำให้เรามองเห็นบางอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็นก็ได้
ในหนังสือเล่มนี้ โบโน่เล่าอย่างเปิดใจถึงความรู้สึกที่ตัวเองว่า "เขาอยากเป็นที่สนใจของผู้คน" เขาเคยคิดว่าการมีชื่อเสียงหรือแฟนเพลงจะช่วยเติมเต็มช่องว่างนั้นได้ แต่สุดท้ายเขาก็ได้เรียนรู้ว่า สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยเยียวยาความรู้สึกข้างในได้จริงๆ
โบโน่ที่เราเห็นว่าเต็มไปด้วยความมั่นใจบนเวที กลับกล้าเปิดเผยด้านที่เปราะบางของตัวเอง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับพ่อแม่ หรือความรู้สึกที่ว่างเปล่าต่อหน้าคนเป็นแสน ๆ
สิ่งที่บิล เกตส์ ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้ คือ ความกล้าที่จะ "เปิดใจ" แบบตรงไปตรงมาของโบโน่ ทำให้บิล เกตส์ กล้าที่จะเล่าถึงด้านที่ไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองในหนังสือ 'Source Code' มากขึ้น หนังสือของโบโน่สอนว่า ผู้นำที่กล้าเปิดเผยด้านที่อ่อนแอของตัวเอง คือผู้นำที่คนจะรู้สึกเข้าถึงได้จริง ๆ
อ้างอิง: gatesnotes
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด