ส่อง Civic Tech ในไต้หวัน เมื่อเทคโนโลยี x ประชาธิปไตย | Techsauce

ส่อง Civic Tech ในไต้หวัน เมื่อเทคโนโลยี x ประชาธิปไตย

  • เทคโนโลยีกำลังมีบทบาทสำคัญในภาคการเมืองการปกครองทั่วโลก ในฝั่งประชาธิปไตยพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เรียกว่า Civic Tech หรือเทคโนโลยีภาคประชาชน มีส่วนช่วยให้ประชาชนมีพลังทางการเมืองมากขึ้น
  • เทรนด์ Open Data หรือการแชร์ข้อมูลของรัฐบาลอย่างสาธารณะ กำลังเกิดขึ้นในรัฐบาลประชาธิปไตยทั่วโลก ไต้หวันคือหนึ่งในรัฐที่มี Open Data อันดับต้นๆ ของโลก และมีตัวอย่างการประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ
  • บทบาทสำคัญของเทคโนโลยีคือการเข้ามาช่วยเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาล และสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนซึ่งจะนำไปสู่นวัตกรรมทางสังคม

โดยส่วนใหญ่เรามักนึกถึงเทคโนโลยีในแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ แต่พัฒนาการของเทคโนโลยีนั้นได้สร้างความเปลี่ยนแปลงและความเป็นไปได้ให้กับทุกมิติของสังคม เช่นเดียวกันกับการเคลื่อนไหวภาคการเมืองการปกครอง รัฐบาลจีนกำลังพัฒนาระบบที่เรียกว่า ‘Social Credit’ ผสานพลังของ Big Data และ AI เพิ่มศักยภาพในการควบคุมดูแลประชาชนได้อย่างมหาศาล ขณะที่ในฝั่งของประชาธิปไตย Civic Tech หรือเทคโนโลยีภาคประชาชนกำลังจะมีบทบาทมากขึ้น เริ่มมีเรื่องของเทรนด์ Open Data ที่ช่วยในเรื่องของความโปร่งใสของรัฐบาล ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐได้ และการแชร์ข้อมูลยังก่อให้เกิดการร่วมมือกันจากหลายฝ่าย ไปจนถึงการผนวกข้อมูลกับเข้าเทคโนโลยีการประมวลผลอย่าง AI ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพในการใช้ข้อมูลสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไต้หวันเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจของการนำ Civic Tech เข้ามามีส่วนสำคัญในการสร้างให้เกิดส่วนร่วมทางการเมืองจากภาคประชาชน จากแต่เดิมที่มีช่องว่างอยู่มากระหว่างภาครัฐกับประชาชน หรือแม้กระทั่งในรัฐเองก็ยังมีช่องว่างระหว่างหน่วยงานหรือกระทรวงต่างๆ แต่โดยการใช้เทคโนโลยีมาผสานช่องว่างนั้นจะช่วยเพิ่มพลังภาคประชนในการทำงานร่วมกับรัฐ และนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง

รวมพลังชุมชน g0v ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเพื่อประชาชน

หนึ่งในแรงขับเคลื่อนประชาธิปไตยในไต้หวันที่สำคัญคือ g0v กลุ่ม Civic Tech ที่รวมโปรแกรมเมอร์ นักออกแบบ NGOs ข้าราชการ ไปจนถึงภาคพลเมืองทั่วไป ร่วมกันผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง มีการจัด hackathon หรืองานสัมนาระดับนานาชาติเป็นประจำ จุดประสงค์คือการสร้างให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาล และสร้างความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างจริงจัง เพื่อผลักดันให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการใช้ทักษะที่มีอยู่ การเสนอไอเดีย หรือในแง่ของการสนับสนุนเงินทุน

การตั้งชื่อโดยใช้เลข 0 แทนตัว o ใน g0v นั้น เป็นสัญลักษณ์ของการใช้วิธีคิดแบบเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้กับรัฐบาลที่มีการจัดการบริหารแบบดั้งเดิม

โปรเจค Government Budget Visualization สร้างแผนภูมิ Bubble เข้าใจง่ายเห็นภาพว่ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง

จากปกติที่ตัวเลขงบประมาณจากภาครัฐจะถูกนำเสนอในรูปแบบไฟล์เอกสารสกุล PDF กว่าร้อยหน้า โปรเจค Government Budget Visualization จาก g0v ใช้พลังของ ‘การทำให้เห็นภาพ’ ช่วยให้ภาคประชาชนสามารถเห็นภาพได้อย่างง่ายว่ารัฐใช้จ่ายงบประมาณไปกับอะไรบ้าง สามารถเปรียบเทียบได้อย่างสะดวกกับทิศทางการใช้งบประมาณในอดีต หรือเปรียบเทียบการใช้งบประมาณระหว่างกระทรวงต่างๆ ไปจนถึงเครื่องมือในการให้ feedback สามารถตั้งคำถามกับการใช้งบประมาณได้โดยตรง

จากปกติที่ตัวเลขงบประมาณจากภาครัฐจะถูกนำเสนอในรูปแบบไฟล์เอกสารสกุล PDF กว่าร้อยหน้า โปรเจค Government Budget Visualization จาก g0v ใช้พลังของ ‘การทำให้เห็นภาพ’ ช่วยให้ภาคประชาชนสามารถเห็นภาพได้อย่างง่ายว่ารัฐใช้จ่ายงบประมาณไปกับอะไรบ้าง

vTaiwan.tw แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างข้อกฏหมาย

แพลตฟอร์มที่เปิดให้ภาคประชาชนสามารถเรียนรู้การทำงานของรัฐบาล เปิดโอกาสให้สามารถทำความเข้าใจและนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการกำหนดข้อกฏหมาย เคสตัวอย่างที่ดีซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทของ vTaiwan ต่อการมีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะจากภาคประชาชนคือเรื่องของ Uber ที่จะเข้ามาในไต้หวัน มีการถกเถียงกันบนแพลตฟอร์มจากความเห็นที่แตกต่างจนสามารถหาข้อสรุปที่มีผลทางกฏหมายร่วมกันในสังคมได้

Pol.is เครื่องมือสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ที่สามารถบูรณาการความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จนหาข้อตกลงร่วมกันได้

พื้นที่ออนไลน์สำหรับการสำรวจความคิดเห็น เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้ใน vTaiwan.tw เพื่อสร้างบทสนทนาข้อถกเถียงในประเด็นสาธารณะต่างๆ ทุกคนสามารถสร้างแอคเคาท์เพื่อจะโพสต์คอมเมนท์ และสามารถโหวตเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคนอื่นๆ ได้

สิ่งที่ทำให้ Pol.is, มีความพิเศษกว่าพื้นที่สนทนาออนไลน์ทั่วไปคือการที่เราไม่สามารถตอบกลับความคิดเห็นของใครได้ สิ่งที่ทำได้มีเพียงการโพสต์เสนอความคิดเห็นของตัวเอง และกดโหวตเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคนอื่น มันจึงลดโอกาสที่จะเกิดการถกเถียงที่ไม่สร้างสรรค์ อีกประเด็นคือการโหวตเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่แตกต่างกันจะถูกสร้างเป็น Map ให้เห็นภาพง่ายๆ ทำให้สามารถรวมกลุ่มผู้ที่มีความคิดเห็นคล้ายคลึงกันและกลุ่มความเห็นตรงกันข้ามได้แม้จะมีการแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลังจากนั้นคนจะเริ่มเสนอความเห็นที่จะได้รับการโหวตจากทั้งสองฝ่ายที่แบ่งแยกกัน เป็นการค่อยๆ ลดช่องว่างของความแตกต่างจนได้ข้อสรุปร่วมกันในที่สุด

การแสดงภาพที่ทำให้เห็นอย่างชัดเจนถึงกลุ่มความคิดเห็นที่แตกต่างกัน

เบื้องหลังสำคัญ Audrey Tang แฮ็คเกอร์อัจฉริยะผู้ผันตัวมาเป็นรัฐมนตรีดิจิทัล และนำเข้าวัฒนธรรมโปร่งใสขั้นสุดสู่รัฐบาล

หนึ่งในบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังประชาธิปไตยที่วิวัฒน์ด้วยเทคโนโลยีของไต้หวันคือ Audrey Tang รัฐมนตรีดิจิทัลซึ่งมีคุณสมบัติหลายอย่างที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเลือดความเป็นนักประชาธิปไตย Tang แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าเป็นผู้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างรัฐบาลและกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางสังคม โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักในการประสานความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย

สามารถอ่านบทสัมภาษณ์เรื่องทัศนคติของ Audrey Tang ต่อเทคโนโลยีและประชาธิปไตยได้ ที่นี่

แต่เดิมประชาธิปไตยคือการปะทะกันของสองฝั่งขั้วที่ยึดถือคุณค่าต่างกัน แต่ในปัจจุบันประชาธิปไตยคือการสนทนาแลกเปลี่ยนกันระหว่างคุณค่าที่หลากหลาย

Tang เป็นรัฐมนตรีผู้ผลักดันความโปร่งใสขั้นสุดโดยเริ่มจากตัวเขาเองที่จะตอบคำถามต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ออนไลน์สาธารณะเท่านั้น รวมถึงการพัฒนาโปรเจคต่างๆ ที่จะสร้างส่วนร่วมจากภาคประชาชน โดยเฉพาะการสร้างพื้นที่สนทนาที่จะใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยเพิ่มศักยภาพการสนทนา คอนเซปต์คือคนจำนวนหลักล้านคนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังคุณค่าที่แตกต่างและความรู้สึกของกันและกันได้ ซึ่ง Tang มองว่าการรับฟังกันและกันคือหัวใจสำคัญของประชาธิปไตย ดังนั้นจากแต่เดิมประชาธิปไตยคือการปะทะกันของสองฝั่งขั้วที่ยึดถือคุณค่าต่างกัน แต่ในปัจจุบันประชาธิปไตยคือการสนทนาแลกเปลี่ยนกันระหว่างคุณค่าที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยอุดมการณ์ทางประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ผนวกกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับประชาธิปไตยนั่นเอง

ขณะที่โดยส่วนใหญ่คนมักจะมองเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่เชื่อมโยงกับภาคธุรกิจ แต่สำหรับ Tang นั้นเทคโนโลยีสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะได้เสมอ Tang สรุปวิสัยทัศน์ของเขาที่มีต่อเทคโนโลยีต่างๆ ไว้ว่า

internet of things = Internet of beings

virtual reality = shared reality

machine learning = collaborative learning

user experience = human experience

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในแวดวงประชาธิปไตยของไต้หวันที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและเปิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับสังคม โดยเฉพาะสำหรับภาคการเมืองการปกครองที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงสร้างทางสังคมสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อผลประโยชน์ของทุกคนในสังคมได้อย่างมหาศาล

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เรื่องเล่าจาก Tim Cook “...ผมไม่เคยคิดเลยว่า Apple จะมีวันล้มละลาย”

Apple ก้าวเข้าสู่ยุค AI พร้อมรักษาจิตวิญญาณจาก Steve Jobs สู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดย Tim Cook มุ่งเปลี่ยนโฉมเทคโนโลยีอีกครั้ง!...

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...

Responsive image

ทำไม Fastwork ขาดทุนเกือบทุกปี ? ฟังเหตุผลของ CK Cheong

Fastwork เป็นอีกหนึ่งชื่อธุรกิจที่มาแรงในช่วงเวลานี้ ด้วยความไวรัลบนโลกออนไลน์ของผู้บริหาร CK Cheong (ซีเค เจิง) ที่มักทำคลิปให้ทัศนะเรื่องการเงิน การใช้ชีวิต และธุรกิจ แต่กลับถูกต...