Startup ด้านการศึกษา หนึ่งในธุรกิจที่มาแรงในยามวิกฤตโคโรน่า | Techsauce

Startup ด้านการศึกษา หนึ่งในธุรกิจที่มาแรงในยามวิกฤตโคโรน่า

วิกฤตการแพร่ระบาด COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายภาคส่วน ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวอย่างมากในสถาการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้เพื่อเอาตัวรอด นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานมาสู่โลกออนไลน์โดยสมบูรณ์แบบเพื่อรองรับการ work from home การให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน

ภาคการศึกษาเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน สถาบันการศึกษาทั่วโลกต้องปิดการเรียนการสอนในห้องเรียน ในประเทศไทยเองก็ได้มีมติ ครม. ประกาศเลื่อนเปิดเทอมไปจนถึงกรกฎาคมแล้ว 

จากโจทย์ใหญ่ 2 ข้อหลัก ในมุมขององค์กรที่ว่า จะทำอย่างไรให้พนักงานมีทักษะดิจิทัล (digital literacy) มากพอที่จะดำเนินงานต่อไปได้ไม่ติดขัด? และในมุมของสถาบันการศึกษาและผู้ปกครองที่ว่า จะทำอย่างไรให้การเรียนการสอนสามารถดำเนินต่อไปได้แม้นักเรียนจะต้องเรียนจากที่บ้าน? ทำให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับ Startup ด้านการศึกษา (EdTech) ในการนำเทคโนโลยีมาส่งเสริมการเรียนรู้ให้คนไทย ลดอุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูล ช่วยให้กิจกรรมต่าง ๆ สามารถดำเนินต่อไปได้

Startup ด้านการศึกษา (EdTech - Education Technology Startup) คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษา สร้างรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ ๆ ให้คนทุกช่วงวัย ซึ่งจะเข้ามา disrupt การศึกษารูปแบบเดิม เช่น ไม่ต้องนั่งฟังคุณครูบรรยายในห้องเรียนอีกต่อไป เพราะนักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านเครื่องมือและแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ส่วนคุณครูก็ผันบทบาทไปเป็น facilitator หรือผู้ที่คอยอำนวยความสะดวกในการเรียนการสอนแทน ทำให้คุณครูสามารถเอาใจใส่นักเรียนแต่ละคนแบบ 1-1 ได้มากขึ้น

ในยามวิกฤตเช่นนี้ เราเชื่อว่า EdTech จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาคุณภาพและเพิ่มอัตราการเข้าถึงการศึกษาให้กับประเทศ ถึงแม้ห้องเรียนจะต้องปิดตัวไปชั่วคราว แต่เราก็เชื่อในศักยภาพของคุณครูไทยว่าสามารถดำเนินการสอนต่อไปได้ และถ้าหากมีเครื่องมือที่ดีมาช่วย ยิ่งทำให้การเรียนรู้ได้ผลดียิ่งขึ้น เอาชนะข้อจำกัดที่มี การเรียนรู้ไม่ได้จบอยู่แค่เพียงในห้องเรียน แต่จะต้องกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning)

ณ ตอนนี้คือเวลาอันดีดีที่จะสร้างนวัตกรรมเพื่อช่วยการศึกษา และนี่คือโอกาสใหม่ ๆ เกิดขึ้นสำหรับ EdTech

#1 พฤติกรรมผู้เรียนเปลี่ยนแปลงไป โรงเรียนพร้อมใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

เดิมทีคุณครูและโรงเรียนหลายแห่งไม่เคยทำการเรียนการสอนผ่านช่องทางออนไลน์มาก่อน และไม่ได้คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่มีระบบและอุปกรณ์รองรับ การจะเชิญชวนให้คุณครูที่ไม่เคยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มาลองใช้สื่อการสอนออนไลน์ เป็นเรื่องยากมาก เพราะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมจากความคุ้นชินเดิม อีกทั้งยังมีภาระงานหนัก ไม่มีเวลามาเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ เราได้พูดคุยกับ EdTech หลายรายในไทยก็ได้พบเจอว่ามีอุปสรรคมากมายและต้องใช้เวลานานในการสร้างความร่วมมือกับโรงเรียน

แต่ ณ ตอนนี้ อุปสรรคเหล่านั้นได้ถูกทลายไปแล้วเกินครึ่ง ด้วยสถานการณ์ที่จำเป็นเช่นนี้ คุณครูหลายท่านก็ได้ปรับตัวแล้วด้วยการปรับวิธีการสอนและเรียนรู้วิธีการใช้เทคโนโลยี ใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่าง Zoom, Google Classroom ในการสอนเด็ก ๆ หรือ LINE ในการสื่อสารกับผู้ปกครอง ใครที่มาเริ่มทำ EdTech ตอนนี้จะมีข้อได้เปรียบเพิ่มขึ้น อีกทั้งนี่ยังเป็นโอกาสอันดีในการสร้างความสัมพันธ์กับโรงเรียน โดยการช่วยโรงเรียนหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในยามวิกฤต ร่วมทำงานใกล้ชิดกับคุณครูในการออกแบบนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการ สร้างฐานผู้ใช้กลุ่มแรก ยิ่งถ้าเปิดให้ทดลองใช้งานฟรีและเก็บ feedback ไปพัฒนาไปด้วยยิ่งดี

#2 เมื่อตลาดเปลี่ยน เกิดตลาดใหม่ ทั้งกลุ่มโรงเรียน กลุ่มผู้ปกครอง กลุ่มองค์กร

COVID-19 ทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน อย่างในช่วงนี้เอง คนหลายล้านคนต้องทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้าน สอนลูกที่บ้าน เกิดกลุ่มตลาดใหม่ ๆ ที่ป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่น่าสนใจ คือ 

  • กลุ่มโรงเรียน และมหาวิทยาลัย ซึ่งถูกบังคับเป็น 4.0 ไปโดยอัตโนมัติ ทุกโรงเรียนและมหาวิทยาลัยมีการสอน ออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะยังติดขัดอยู่บ้างในช่วงแรก และอาจต้องใช้บริการเสริมอื่น ๆ จาก EdTech ในอนาคต หลาย ๆ EdTech จึงใช้เวลานี้ในการเร่งโต ยกตัวอย่างในอินเดียและตะวันออกกลาง เหล่า EdTech Startup ต่างก็เสนอให้บริการฟรีแก่ผู้ใช้  เช่น Byju’s จากอินเดีย ซึ่งเป็นแอพสื่อการเรียนรู้ที่มีมูลค่าสูงถึง 8 พันล้านเหรียญ ก็ได้ประกาศให้นักเรียนตั้งแต่เกรด 1-12 ในโรงเรียน สามารถดาวน์โหลด learning program ฟรี จนถึงสิ้นเดือนเมษายน ซึ่งนั่นทำให้ตัวเลขผู้ลงทะเบียนสูงขึ้นถึง 60% โดยแอพนี้มีผู้ใช้งานถึง 42 ล้านคน
  • กลุ่มผู้ปกครองเองก็สำคัญไม่แพ้กัน จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสูงจากกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องการทำ Homeschool ให้ลูกที่บ้าน เดิมที กลุ่มผู้ปกครองที่สนใจ Homeschool มีจำนวนไม่มากนักในประเทศไทย ผู้ปกครองส่วนมากมักยุ่งกับการทำงาน และมองว่าการเรียนรู้ของลูกเป็นหน้าที่หลักของคุณครูและโรงเรียน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองทำงานจากที่บ้าน มีเวลาให้ลูกมากขึ้น หันมาสนใจมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ของลูกมากขึ้น ทำให้บทบาทของผู้ปกครองในภาคการศึกษาได้เปลี่ยนแปลงไป มีงานวิจัยออกมาว่าบทบาทผู้ปกครองมีผลกับระดับความตั้งใจเรียนของเด็ก ๆ มาก การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเรื่องดี นำไปสู่โอกาสของ EdTech ในการพัฒนานวัตกรรมช่วยผู้ปกครองสอนลูก เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยกิจกรรมที่สนุกและได้ความรู้ เช่น การเล่นเกมส์ การชมสื่อการ์ตูนเพื่อการศึกษา การทดลองวิทยาศาสตร์ที่บ้าน
  • กลุ่มองค์กร หลายองค์กรหันมาให้ความสนใจกับ digital literacy และการการ reskill upskill บุคลากรมากขึ้น เดิมมีเพียงกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มที่โฟกัสเรื่อง Digital Transformation แต่จากวิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้แม้กระทั้งองค์กรเก่าแก่แบบดั้งเดิมก็ต้องหันมาใช้เทคโนโลยีในการทำงาน รวมถึงการเทรนพนักงาน ซึ่งเดิมจะเน้นการจัดสอน จัดอบรม ก็เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบออนไลน์มากขึ้น มีเครื่องมือออนไลน์ที่สามารถช่วยสร้าง engagement สื่อสารภายในองค์กรได้ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้จำนวนผู้ใช้ในตลาดการเรียนรู้สำหรับพนักงานองค์กรมีขนาดเพิ่มขึ้น

#3 นักลงทุนหันมาสนใจลงทุน EdTech กันมากขึ้น

จากเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว ผนวกกับกระแส Digital Disruption ที่จะทำให้คนจำนวนมากต้องพัฒนาทักษะใหม่ ๆ reskill สายงาน เป็นผลให้นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจกับ EdTech Startup มากขึ้น

นักลงทุนบางรายไม่ได้สนใจ EdTech มาก่อน แต่จากการระบาดของ COVID-19 ครั้งนี้ ทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงพลังของ EdTech ซึ่งมันไม่ได้มีเพียงเพื่อไว้ใช้แค่ช่วงวิกฤตนี้ แต่หลังจากนี้จะมีการใช้แบบแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำให้เทคโนโลยีการศึกษามีความสำคัญมากมากขึ้นแบบทวีคูณ หน่วยงานวิจัยด้านการศึกษา HolonIQ ได้คาดการณ์ว่าตลาดการศึกษาทั่วโลกจะมีขนาด 10 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ($10 Trillion Dollar) ภายในปี 2030 และตลาดที่จะเติบโตมากที่สุดคือทวีปเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีประชากรจำนวนมาก และมีการใช้ smartphone ในอัตราที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

เทรนด์เหล่านี้ได้ดึงดูดให้นักลงทุนกลุ่มใหม่ ๆ เริ่มหันมามอง EdTech มากยิ่งขึ้น ยิ่งการศึกษาเป็นรากฐานของสังคม หากนวัตกรรมดีจริง ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาได้จริง ยิ่งมีผู้ใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความเสี่ยงของเงินลงทุนต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่น เพราะมีฐานผู้ใช้ที่แน่นแฟ้น ต่างจากอุตสาหกรรมที่ต้องแข่งขันทำการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ใช้

ร่วมผลักดันผู้คว้าโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น 

วิกฤติใหม่แม้ลำบาก แต่จะเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งตอนนี้ประเทศเรากำลังต้องการ ความคิดใหม่ โจทย์ใหม่ ไอเดียใหม่ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ปัจจุบัน เราอยากใช้วิกฤตนี้ปรับเปลี่ยนอะไร และอยากให้อะไรที่เปลี่ยนไป มาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ร่วมกัน

นี่คือโอกาสสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ นอกจากจะเป็นโอกาสธุรกิจแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือสังคมอีกด้วย ไม่มีช่วงเวลาไหนเหมาะสมเท่านี้อีกแล้วในการ transform และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับสังคมและประเทศไทย เพราะข้อดีของวิกฤตช่วงนี้คือ ไม่ว่าคุณจะคิดไอเดีย หรือนวัตกรรมอะไรก็ตาม หากมีประโยชน์ต่อส่วนรวม ทุกคนพร้อมใจต้อนรับและให้การสนับสนุน

หากคุณมีไอเดียนวัตกรรมเพื่อการศึกษา ขอเชิญสมัครเข้าร่วมโครงการ Education Disruption Hackathon 2 งานแข่งขันพัฒนานวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและลดความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย จะเป็นนวัตกรรมรูปแบบใดก็ได้ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเทคโนโลยี ขอเพียงว่าสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมได้จริง เราต้องการร่วมผลักดันผู้ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ช่วยพัฒนาประเทศชาติ เป็นโอกาสที่คุณจะได้ทำไอเดียของคุณให้เป็นจริง พร้อมลุ้นรับโอกาสการสนับสนุนและเงินทุนจาก โครงการ StormBreaker Venture สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.disruptignite.com/hackathon และ https://www.facebook.com/DisruptUniversity/ 

ผู้เขียน:

  • จันทนารักษ์ ถือแก้ว (ยุ้ย) Managing Director - Disrupt & StormBreaker Venture 
  • ณรัณภัสสร์ ฐิติพัทธกุล (แพท) Accelerator Manager - Disrupt & StormBreaker Venture, Investment Manager - 500 TukTuks


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ถอด 4 บทเรียนธุรกิจ Taylor Swift ชื่อศิลปินที่มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท

Taylor Swift ไม่ใช่แค่ของชื่อศิลปินอีกแล้ว กลายเป็น Branding ที่มีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ความสำเร็จของ Taylor Swift ก็มีส่วนที่หยิบมาใช้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจได้เช่นเดียวกัน...

Responsive image

“อยากได้อะไร ก็แค่พูดตรงๆ” เคล็ดลับความสำเร็จจาก Sam Altman

Sam Altman CEO ของ OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT แนะนำ วิธีช่วยให้คุณได้ในสิ่งต้องการ และทำได้ง่ายๆ...

Responsive image

มรดกแนวคิด Steve Jobs ที่ส่งต่อถึง Tim Cook เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ Apple

Tim Cook ยกหนึ่งคำสอนล้ำค่าในการทำงานจาก Steve Job ที่ทำให้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก ในด้านการส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ภายในองค์กร นั่นก็คือ ‘ทุกคนสามารถสร้าง...