เจาะแนวคิด 2 นักธุรกิจหญิงไทย ติดโพลนักธุรกิจหญิงสุดแกร่งปี 2023 ของ Forbes | Techsauce

เจาะแนวคิด 2 นักธุรกิจหญิงไทย ติดโพลนักธุรกิจหญิงสุดแกร่งปี 2023 ของ Forbes

สองนักธุรกิจหญิงไทยติดโพล รายชื่อ 20 นักธุรกิจหญิงผู้ทรงอิทธิพลในเอเชีย ปี 2023 ที่จัดโดย นิตยสาร Forbes รวมนักธุรกิจที่สามารถเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก วันนี้ Techsauce จะพามารู้จักกันว่าเป็นใคร และแต่ละคนมีมุมมองการดำเนินธุรกิจภายใต้ความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

ปิยจิต รักอริยะพงศ์ CEO ของ Sappe

“ทำไมคนไทยสร้างแบรนด์ไปแข่งขันในเวทีสากลไม่ได้?”

คำถามที่คุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ นักธุรกิจหญิงไทยวัย 48 ปีพยายามหาคำตอบ เธอเริ่มต้นจากการเข้ามาสานต่อธุรกิจเครื่องดื่มของครอบครัวจากพี่ชายในปี 2012 โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันแบรนด์ Sappe ให้ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และสร้างรายได้เพิ่มเป็น 2 เท่า (ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท) ภายในปี 2026

ภายใต้การบริหารของเธอ ในปี 2015 แบรนด์ Sappe สามารถขยายตลาดส่งออกมากขึ้นเป็น 2 เท่าหรือกว่า 98 แห่ง และกลยุทธ์ที่คุณปิยจิตใช้ขยายตลาดก็คือ การนำสินค้าเข้าสู่ตลาดใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป และทำการตลาดออนไลน์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ทันสมัย

ปัจจุบันรายได้ของ Sappe กว่า 83% มาจากการขายสินค้าให้กับลูกค้าในต่างประเทศ ในส่วนนี้เกือบครึ่งหนึ่งมาจากประเทศฝั่งเอเชีย (รายได้ส่วนใหญ่มาจากเครื่องดื่มหลัก 3 ชนิด ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำ Mogu Mogu และว่านหางจระเข้ และ Beauti Drink พร้อมคอลลาเจน) และในอนาคตเธอก็หวังว่าจะสามารถขยายตลาดไปฝั่งยุโรปได้

คุณปิยจิตค้นพบว่า แท้จริงแล้วประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติและผลิตภัณฑ์คุณภาพดีมากมาย ซึ่งเธอเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามันสามารถทำให้แบรนด์ไทยมีศักยภาพมากพอที่จะไปแข่งขันในระดับสากล เช่นเดียวกับแบรนด์ใหญ่อื่น ๆ ได้

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ “ผู้พลิกชีวิตดุสิตให้เติบโต”

หนึ่งในบริษัทโรงแรมและรีสอร์ตยักษ์ใหญ่ของไทยอีกแห่ง ซึ่งคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ เรียกได้ว่าเป็น “ผู้พลิกชีวิตดุสิตให้เติบโต” นับตั้งแต่เธอเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ Dusit International ในปี 2016 จากที่เคยมีโรงแรมและรีสอร์ตอยู่ 27 แห่งใน 8 ประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 340 แห่งใน 20 ประเทศ

และหลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ดุสิตก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก สูญเสียรายได้มหาศาล เนื่องจากการท่องเที่ยวหยุดชะงัก แต่วิกฤตในครั้งนี้ก็เป็นโอกาสที่คุณศุภจีเล็งเห็นว่า นอกจากธุรกิจโรงแรมแล้ว ดุสิตเองก็มีศักยภาพในเรื่องของการผลิตอาหาร และการจัดเลี้ยง จนเกิดเป็น Dusit Foods

คุณศุภจีมีเป้าหมายที่นำ Dusit Foods เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในต้นปี 2025 และคาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะสามารถทำกำไรได้ภายในปี 2024 

นอกจากนี้คุณศุภจีกำลังขับเคลื่อนโครงการมูลค่า 46 พันล้านบาทของกลุ่มธุรกิจ Hospitality ของไทย (มีมูลค่าตลาดกว่า 7 พันล้านบาทมากกว่ามูลค่าบริษัทดุสิตถึง 6 เท่า) โดยเป้าหมายโครงการ คือ การพัฒนาโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เก่า ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสสมัยใหม่ในชื่อ Dusit Central Park ที่มีทั้งโรงแรม บ้านหรู ร้านค้า และสำนักงาน อยู่ใจกลางกรุงเทพ คาดว่าโครงการนี้จะเสร็จในปี 2025

นี่ก็คือ 2 นักธุรกิจหญิงชาวไทยผู้ทรงอิทธิพลของ Forbes Asia 2023 ที่ดำเนินธุรกิจด้วยความ เชื่อมั่นในทรัพยากรของไทย และถ่ายทอดมันออกมาในรูปแบบที่ทันสมัย รวมถึงยัง มองหาโอกาสใหม่ ๆ จากธุรกิจเดิม เพื่อฟื้นฟูบริษัทหลังผ่านวิกฤต ซึ่งทั้ง  2 มุมมองนี้ธุรกิจก็สามารถนำไปปรับใช้ในการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส และสร้างธุรกิจให้สำเร็จท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้

อ้างอิง: forbes

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 เทรนด์หางานปี 2025 ที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้

ปี 2025 โลกของการทำงานเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาท แต่พฤติกรรมของคนทำงานและแนวโน้มของบริษัทก็เปลี่ยนไปด้วย การสมัครงานไม่ใช่แค่การส่งเรซูเม่แล้วรอเรียกส...

Responsive image

Bill Gates แนะนำ 'The Coming Wave' หนังสือ AI ที่ควรอ่าน ทำนายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกการทำงาน

Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft แนะนำหนังสือ "The Coming Wave" เขียนโดย Mustafa Suleyman ซีอีโอของ Microsoft AI ซึ่งเขายกให้เป็นหนังสือ AI ที่สำคัญที่สุดและอยากให้ทุกคนอ่าน เพื่อเต...

Responsive image

The Puzzle Principle เคล็ดลับของไอน์สไตน์ที่จะทำให้คุณฉลาดขึ้น

เรียนรู้หลักการ The Puzzle Principle ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์และแนวคิดจาก Adam Grant ที่ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เปิดใจกว้าง และทำให้คุณฉลาดขึ้น พร้อมตัวอย่างงานวิจัยที่ยืนยันผลลัพ...