"ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่?" พลังแห่งการกล้าลงมือทำ และพยายามเพื่อให้ฝันเป็นจริง จากลิซ่า Blackpink | Techsauce

"ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่?" พลังแห่งการกล้าลงมือทำ และพยายามเพื่อให้ฝันเป็นจริง จากลิซ่า Blackpink

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เมื่อลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ปรากฏตัวบนพรมแดงของงานประกาศรางวัล Academy Awards ครั้งที่ 97 (Oscars 2025)

การปรากฏตัวของเธอในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะนอกจากจะเป็นศิลปินเคป็อปที่มีอิทธิพลระดับโลก ลิซ่ายังเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มล่าสุด "Alter Ego" ที่เพิ่งปล่อยออกมา และการก้าวเข้าสู่วงการแสดงเต็มตัวกับบทบาทในซีรีส์ดัง "The White Lotus 3" ทาง HBO ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม

จากเด็กสาวที่เติบโตในจังหวัดบุรีรัมย์ สู่การเป็นศิลปินอินเตอร์ที่โลดแล่นอยู่ในหลายวงการ ทั้งดนตรี แฟชั่น และการแสดง เธอเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของคนที่ไม่เคยหยุดพยายาม และกล้าที่จะฝันไกล

‘ความพยายาม’ กุญแจสำคัญ เมื่อรู้ว่าใจต้องการอะไร 

ลลิษา มโนบาล หรือที่ทั่วโลกรู้จักกันในชื่อ ลิซ่า เติบโตขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนจะย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่นำพาเธอไปสู่เวทีระดับโลก

เสียงเพลงและการเต้นเป็นส่วนหนึ่งของเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก “ป้าของฉันมีวงดนตรี พวกเขามีขาตั้งไมค์ และฉันมักจะเล่นกับมันเสมอ ฉันจะปรับระดับไมค์ให้พอดีกับตัวเอง แล้วก็เต้นและร้องเพลงตามลำพัง” ลิซ่าเล่าผ่านสารคดี Blackpink: Light Up the Sky บน Netflix “แม่เห็นแบบนั้น ก็เลยส่งฉันไปเรียนเต้นตั้งแต่ยังอยู่อนุบาล นั่นแหละ จุดเริ่มต้นของทุกอย่าง”

ก้าวแรกที่กล้าหาญ

ในปี 2010 ขณะที่อายุเพียง 13 ปี ลิซ่าออดิชั่นกับ YG Entertainment ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เธอไม่ใช่แค่เด็กสาวที่รักการเต้นและร้องเพลง แต่เธอคือคนเดียวจาก 4,000 คน ที่ได้รับเลือก

เธอย้ายไปเกาหลีใต้เพียงลำพังตอนอายุ 14 โดยไม่สามารถพูดภาษาเกาหลีได้เลย “พวกเขาบอกเด็กฝึกทุกคนว่า ‘ห้ามพูดภาษาอังกฤษกับลลิษา’” เธอเล่ากับ Billboard แต่แทนที่จะรู้สึกท้อแท้ เธอเลือกที่จะเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาอย่างหนัก จนสามารถพูดได้หลายภาษา และกลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีอิทธิพลระดับโลก

ช่วงเวลาฝึกหัดของเธอใน YG ไม่ง่ายเลย เธอต้องฝึกซ้อมเต้น ร้องเพลง และเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ทุกวันเป็นเวลาห้าปีเต็ม จนในที่สุด ลิซ่ากลายเป็นหนึ่งในสี่สมาชิกของ BLACKPINK ร่วมกับ จีซู, เจนนี่ และโรเซ่

BLACKPINK จากกลุ่มเด็กฝึกหัด สู่เกิร์ลกรุ๊ประดับโลก

BLACKPINK เปิดตัวในปี 2016 กับซิงเกิล “Boombayah” และ “Ddu-Du Ddu-Du” ในปี 2018 ที่สร้างประวัติศาสตร์ในวงการ K-pop ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินหญิงเกาหลีที่ติดอันดับสูงสุดบน Billboard Hot 100 ในเวลานั้น

จากนั้นพวกเธอก็ยังคงทำลายสถิติต่อเนื่อง อัลบั้ม The Album ในปี 2020 พุ่งขึ้นอันดับ 2 บน Billboard 200 และ Born Pink ในปี 2022 ทะยานขึ้นอันดับ 1 ทำให้ BLACKPINK กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มีอิทธิพลระดับโลก

กันยายน 2021 ลิซ่าตัดสินใจออกมาทำเพลงเดี่ยว “Lalisa” ซึ่งทำลายสถิติโลกด้วย 73.6 ล้านวิวใน 24 ชั่วโมงแรก เพลง “Money” ที่ปล่อยตามมา กลายเป็นเพลง K-pop เพลงแรกที่ทำยอดสตรีมทะลุ 1 พันล้านครั้งบน Spotify

แต่เส้นทางเดี่ยวของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ในช่วงปลายปี 2023 เธอเลือกเดินหน้าต่อด้วยตัวเอง และเปิดตัว บริษัทบริหารศิลปินของตัวเองชื่อ “Lloud”และเธอก็ทำมันจริงๆ กลางปี 2024 เธอปล่อยเพลง “Rockstar” ซิงเกิลเดี่ยวในรอบ 3 ปี ภายใต้สังกัด RCA Records และในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 เธอเปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดแรก “Alter Ego”

เมษายน 2025 เธอจะขึ้นเวที Coachella อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ในฐานะสมาชิก BLACKPINK แต่เป็น ลิซ่า ศิลปินเดี่ยว มันคือก้าวสำคัญที่พิสูจน์ว่าเธอไม่เคยหยุดพัฒนา และไม่เคยกลัวที่จะลองเส้นทางใหม่ๆ เพราะสำหรับเธอ…ถ้าหากไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่ ?

สิ่งที่ฉันอยากบอกก็คือ ให้แน่ใจว่าเรารู้ว่าเราต้องการอะไรจริงๆ แล้วทำมันไปเลย และถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่? ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้ว่าเราต้องการอะไร และมุ่งไปข้างหน้าให้สุด

อ้างอิง: teenvogue, biography

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จักภาวะหมดไฟ 3 ประเภทจากนักจิตวิทยา คุณกำลังเป็นแบบไหน

ภาวะหมดไฟ (Burnout)ไม่ใช่แค่ความเหนื่อยล้าทั่วไป แต่มันเป็นภาวะที่ซับซ้อนกว่านั้น มันเกิดขึ้นเมื่อเราฝืนตัวเองเกินขีดจำกัดเป็นเวลานาน จนร่างกายและจิตใจแทบไม่เหลือพลัง แต่ที่น่ากลัว...

Responsive image

4 สัญญาณอันตรายที่บอกว่าคุณกำลัง 'ทุ่มเท' ให้กับงานมากไป

ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลัง "ทุ่มเท" ให้กับงานมากเกินไปได้และมันอาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิด สำหรับคนที่ตั้งใจทำงาน อยากทำให้ดีที่สุด การ "ทุ่มเท" ให้งานมัน...

Responsive image

คนรุ่นใหม่แกล้งยุ่ง ต้านคำสั่งกลับเข้าออฟฟิศ ด้วยเทรนด์ "Task Masking"

Task Masking คือการแกล้งทำเป็นยุ่ง เพื่อให้ดูเหมือนว่ากำลังทำงานหนักในออฟฟิศ ทั้งที่จริง ๆ แล้วประสิทธิภาพหรือปริมาณงานที่ทำอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย เทรนด์นี้ถูกพูดถึงอย่างมากใน TikTo...