ทำความรู้จัก Gen Beta ผู้ไม่รู้จัก ‘โลกในยุคไร้ AI’ เจนเนอเรชั่นกำเนิดใหม่ของปี 2025 | Techsauce

ทำความรู้จัก Gen Beta ผู้ไม่รู้จัก ‘โลกในยุคไร้ AI’ เจนเนอเรชั่นกำเนิดใหม่ของปี 2025

ต่อจากนี้ Gen Alpha จะไม่ใช่กลุ่มที่เด็กที่สุดอีกต่อไป เพราะในปี 2025 ที่เราได้ก้าวเข้าสู่อย่างเป็นทางการ โลกได้ต้อนรับเจเนอเรชันใหม่ที่กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นั่นคือ Beta เมื่อเด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 เป็นต้นไปจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Gen Beta ซึ่งว่ากันว่าพวกเขาจะเติบโตในยุคที่ไม่เคยรู้จักโลกที่ปราศจาก AI

เจเนอเรชันเบตาจะมีลักษณะพิเศษอย่างไร? และพวกเขาจะมีบทบาทสำคัญขนาดไหนในอนาคต? บทความนี้ Techsauce จะพาทุกคนมาทำความรู้จักและเจาะลึกถึงเจเนอเรชันแห่งอนาคตนี้ไปพร้อมกัน !

Gen Beta คืออะไร ?

Gen Beta คือ ผู้ที่เกิดในช่วงปี 2025 - 2039 เด็กเหล่านี้ที่เกิดมาก็จะอยู่ในวัยที่เป็นลูกหลานของคนรุ่น Gen Y และ Gen Z ซึ่ง Mark McCrindle นักวิจัยทางสังคมและนักอนาคตวิทยาคาดว่าในปี 2035 คาดว่า Gen Beta จะมีสัดส่วน 16% ของประชากรโลก และจะมีชีวิตยืนยาวไปถึงศตวรรษที่ 22

นักอนาคตศาสตร์ยังคาดการณ์ว่าเจเนอเรชันนี้จะเติบโตมาในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตมากๆ และเป็นเจเนอเรชันที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง

การจัดกลุ่มเจเนอเรชันในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา

  • Gen Beta: 2025-2039
  • Gen Alpha: 2010-2024
  • Gen Z: 1997-2009
  • Millennials: 1981-1996

ทำไมถึงเรียกว่า Gen Beta ?

เหตุผลที่เรียกว่า "Gen Beta" มาจากตัวอักษรกรีก  โดยเป็นการสืบต่อจาก Gen Alpha ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า และการตั้งชื่อด้วยตัวอักษรกรีกนี้เป็นระบบใหม่ที่เริ่มต้นจาก Gen Alpha

McCrindle ชี้ว่าการตั้งชื่อนี้สะท้อนถึงวิธีที่เจเนอเรชันต่างๆ กำลังถูกหล่อหลอมจากโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดย Gen Beta เป็นตัวแทนของยุคที่เทคโนโลยีผสมผสานเข้ากับชีวิตประจำวันในระดับที่ลึกซึ้งกว่ายุคก่อนหน้า

เนื่องจาก Gen Beta จะเติบโตในยุคที่โลกดิจิทัลและโลกกายภาพผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ Gen Alpha ได้เห็นการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีอัจฉริยะและปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ Gen Beta จะอยู่ในยุคที่นวัตกรรมเหล่านี้ถูกรวมเข้ากับชีวิตประจำวันเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญเกือบทุกด้านของชีวิต อาทิ ในด้านการศึกษา อาชีพ การดูแลสุขภาพ และความบันเทิง

ลักษณะสำคัญของ Gen Beta คืออะไร ?

1. เชื่อมต่อกับโลกดิจิทัล แต่ยังเป็นตัวของตัวเอง

  • เจเนอเรชันเบตาจะสามารถหาสมดุลระหว่างการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านช่องทางดิจิทัล (staying connected) และการแสดงตัวตนหรือความเป็นตัวของตัวเอง (expressing themselves) ได้ดี
  • การเชื่อมต่อทางดิจิทัลจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตของพวกเขา ทั้งในด้านการสร้างมิตรภาพ การเรียนรู้ และการทำงาน

2. มีตัวตนที่ปลอดภัยในโลกออนไลน์

เด็กในเจเนอเรชันนี้ต้องเรียนรู้ที่จะใช้โลกดิจิทัลอย่างรอบคอบ โดยพ่อแม่มีบทบาทสำคัญในการช่วยแนะนำให้พวกเขาใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและมีความคิดสร้างสรรค์

3. เปิดใจกับความหลากหลาย

เจเนอเรชันนี้จะเติบโตในสังคมที่ยอมรับความแตกต่าง เช่น เชื้อชาติ ความเชื่อ และแนวคิดต่าง ๆ พวกเขาจะเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

สรุปง่ายๆ ก็คือ Gen Beta จะโตมากับโลกดิจิทัล มีความเป็นตัวของตัวเอง ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมีสติ และยอมรับความแตกต่างในสังคมได้ดี

อนาคตของ Gen Beta จะเป็นอย่างไร ?

เจเนอเรชันเบตา (Gen Beta) จะเติบโตในโลกที่ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาระดับโลกอื่น ๆ พวกเขาจะได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ในเจเนอเรชันมิลเลนเนียลและเจเนอเรชัน Z ซึ่งให้ความสำคัญกับความยั่งยืน สิ่งนี้จะหล่อหลอมให้เจเนอเรชันเบตาให้ความสนใจกับปัญหาโลก เช่น การดูแลสิ่งแวดล้อม และการคิดค้นวิธีแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์

ตามข้อมูลจาก Pew Research Center พบว่า 71% ของมิลเลนเนียลและ 67% ของเจเนอเรชัน Z เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศควรเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นสำหรับอนาคต ความคิดเช่นนี้อาจส่งต่อไปยังเจเนอเรชันเบตา ทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มที่ตระหนักถึงปัญหาโลกอย่างจริงจังและมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง

เจเนอเรชันนี้จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างประชากร เช่น อัตราการเกิดที่ลดลงและอายุขัยที่ยาวนานขึ้น ซึ่งทำให้ความสนใจเปลี่ยนจาก "ประชากรล้นโลก" ไปเป็น "ความยั่งยืนของประชากร"

ในอนาคต หลังจากเจเนอเรชันเบตา จะมีเจเนอเรชันแกมมา (Gen Gamma) ซึ่งจะเกิดระหว่างปี 2040 ถึง 2054 สังคมในยุคต่อไปจะต้องทำความเข้าใจความต้องการ ค่านิยม และความชอบของเจเนอเรชันเหล่านี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาจะนำมาในอนาคต

อ้างอิง: businessinsider, abcnews

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เริ่มปีใหม่ด้วย Life Audit เปลี่ยนความฝันเป็นแผนที่ชัดเจน

เริ่มต้นปีใหม่ให้มีความหมายด้วย Life Audit กระบวนการ 3 ขั้นตอนที่ช่วยสำรวจความต้องการที่แท้จริงของคุณ พร้อมวางแผนเป้าหมายอย่างมีระบบและได้ผลจริง...

Responsive image

อ่านตามผู้นำระดับโลก 20 หนังสือที่ Elon Musk, Jeff Bezos และ Bill Gates แนะนำให้อ่าน

ผู้บริหารระดับสูงหลายคนได้กล่าวว่า พวกเขาเรียนรู้บทเรียนสำคัญทางธุรกิจจากหนังสือ ซึ่ง Elon Musk, Jeff Bezos และ Bill Gates ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยทั้งหมดยังเห็นพ้องกันว่า การเรียนรู้...

Responsive image

5 ข้อแตกต่างที่ทำให้ Jensen Huang เป็นผู้นำใน 0.4% ด้วยพลัง Cognitive Hunger

บทความนี้จะพาทุกคนไปถอดรหัสความสำเร็จของ Jensen Huang ด้วยแนวคิด Cognitive Hunger ความตื่นกระหายการเรียนรู้ เคล็ดลับสำคัญที่สร้างความแตกต่างและนำพา NVIDIA ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับ...