5 เทคนิคการเขียน Journal ที่ช่วยพัฒนาทักษะของผู้นำ | Techsauce

5 เทคนิคการเขียน Journal ที่ช่วยพัฒนาทักษะของผู้นำ

พัฒนาทักษะผู้นำไม่จำเป็นต้องราคาแพงเสมอไป…ผู้นำองค์กรระดับโลกต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า วิธีที่เรียบง่ายอย่างการอ่านหรือการเขียน ช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานของผู้นำได้เกือบครบทุกด้าน บทความนี้ Techsauce จึงจะพามารู้จักกับ 5 แนวทางเพื่อพัฒนาทักษะผู้นำผ่านการเขียน Journal

การเขียน Journal คืออะไร?

การเขียน Journal คือ การบันทึกเกี่ยวกับความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ และแนวคิดต่างๆ โดยไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ต่างจากไดอารี่ตรงที่ Journal อาจจะไม่ใช่การบันทึกเรื่องราวที่พบเจอในแต่ละวัน แต่มุ่งเน้นไปที่การสะท้อนความคิดและความรู้สึกของผู้เขียนมากกว่า

5 แนวทางเพื่อพัฒนาทักษะผู้นำผ่านการเขียน Journal

เมื่อการเขียน Journal มุ่งเน้นไปที่การสะท้อนความคิดและความรู้สึก มันจึงเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่ผู้เขียนสามารถใช้เวลาพูดคุยกับตัวเองมากที่สุด คล้ายกับการตกตะกอนทางความคิด จึงมีศักยภาพมากพอที่จะใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาผู้นำด้วย 5 แนวทางเหล่านี้

1.จดทุกสิ่งที่รบกวนจิตใจของคุณ

แนวทางนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยจัดระเบียบสมอง เพราะผู้นำหลายๆ คน ใน 1 วันต้องเจอเรื่องราวมากมาย หากปล่อยให้เรื่องเหล่านั้นตีกันอยู่ในหัว คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งที่คุณต้องทำและให้ความสำคัญมากที่สุดคืออะไร

ดังนั้น จดทุกสิ่งที่รบกวนจิตใจของคุณอยู่ ไม่ว่าจะงาน ประชุม หรือแม้แต่ชีวิตส่วนตัวลงบนกระดาษจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของสิ่งต่าง ๆ จากนั้นค่อยมานั่งทบทวนอีกครั้งว่ามีอะไรที่ลืมเขียนหรือพลาดไป เพื่อที่จะนำมาจัดลำดับความสำคัญในขั้นสุดท้าย

2.บันทึกกระบวนการคิดและการตัดสินใจ

แนวทางนี้คล้ายกับการทำบันทึก Lesson Learn ผ่านการจดบันทึกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่, ข้อมูลและทางเลือกที่เรามีในตอนนี้, วิธีการคิดและตัดสินใจที่เราใช้, และเหตุผลที่เราเลือกวิธีเหล่านั้น และผลลัพธ์ที่คาดหวัง

เมื่อเวลาผ่านไปให้ลองย้อนกลับมาอ่านบันทึกเหล่านี้ และลองเปรียบเทียบดูว่ากระบวนการคิดและการตัดสินใจในตอนนั้น ให้ผลลัพธ์ตามที่เราคาดหวังหรือไม่ หากไม่ก็ให้ลองหาจุดที่ทำพลาดไป เพื่อเรียนรู้จากการตัดสินใจในอดีตและนำมาปรับปรุงอนาคต

3.เขียนถึงภาพในอนาคตที่อยากมี

บางครั้งการนั่งจินตนาการถึงอนาคตอันสวยงาม หรือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อาจไม่ทำให้คุณเห็นภาพของมันชัดเจนมากขนาดนั้น แนวทางนี้จึงเป็นวิธีที่ช่วยขยายภาพในหัวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการบันทึกถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอธิบายวิธีการที่จะพาคุณไปสู่เป้าหมายนั้น

การทำแบบนี้นอกจากภาพในหัวจะชัดเจนขึ้น อาจช่วยให้คุณมองเห็นความเสี่ยงและความท้าทายที่ต้องเจอได้แต่เนิ่น ๆ และสามารถเตรียมตัวรับมือกับมันได้ทัน

4.บันทึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพื่อสะท้อนความรู้สึก

แนวทางนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้คุณเข้าใจตัวเองและรู้เท่าทันความรู้สึก ด้วยการบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เคยผ่านมาในชีวิต และในตอนนั้นคุณรู้สึกกับมันอย่างไร หลังจากนั้นลองไตร่ตรองดูอีกทีจากมุมมองในปัจจุบัน

เหมือนกับการถอยกลับไปมองสิ่งต่างๆ อย่างเป็นกลางมากขึ้น เพื่อที่จะรู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง และสามารถรับมือกับมันได้ดีกว่าเดิม

5.จดทุกอย่างที่คิดไม่ต้องสนถูกผิดแค่เขียนลงไป

ในช่วงเวลาที่เหนื่อยล้ามาก ๆ เราอาจจะไม่มีแม้แต่แรงที่ใช้คิดว่าเราเหนื่อยกับเรื่องอะไร แนวทางนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยเอาความคิดทั้งหมดที่วนเวียนอยู่ในหัวมาไว้ในกระดาษแทน

วิธีการเขียนก็ง่าย ๆ เริ่มเขียนจากสิ่งไหนก็ได้ที่อยู่ในหัวตอนนั้น ระบายมันลงไปเรื่อย ๆ เรื่องบางเรื่องที่เขียนลงไปอาจจะไม่ปะติดปะต่อกันก็ไม่เป็นไร แค่ปล่อยให้มันไหลลื่นไปจะช่วยให้จิตใจของคุณว่างจากเรื่องราวมากมายที่อัดแน่นอยู่ในหัว

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผู้บริหารจำนวนมากเขียนบันทึกทุกวันจนเป็นแหล่งสะสมข้อมูลเป็นร้อยเป็นพันรายการ จึงอยากแนะนำว่าหากใครต้องการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำควรฝึกการเขียนบันทึกให้เป็นกิจวัตรประจำวัน

อ้างอิง: inc

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 เคล็ดลับมองโลก จากผู้นำระดับท็อปที่ประสบความสำเร็จ

แม้ว่าจะไม่สูตรตายตัวที่จะประสบความสำเร็จแต่มี 5 อันดับที่ขาดไม่ได้ของเหล่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกตั้งแต่ Elon Musk , Jeff Bezos จนไปถึง Susan Wojcicki ถ้าอยากรู้ว่า...

Responsive image

5 คนที่ควรมีในชีวิต ถ้าคิดอยากประสบความสำเร็จ

เส้นทางสู่ความสำเร็จ เดินคนเดียวอาจไปถึงช้า จะดีกว่าไหมถ้ามีคนที่ใช่เคียงข้างไปด้วย บทความนี้จะชวนทุกคนตามหา 5 ความสัมพันธ์ที่เราควรมี เพื่อเส้นทางสู่ความสำเร็จ...

Responsive image

ถอด 4 บทเรียนธุรกิจ Taylor Swift ชื่อศิลปินที่มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท

Taylor Swift ไม่ใช่แค่ของชื่อศิลปินอีกแล้ว กลายเป็น Branding ที่มีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ความสำเร็จของ Taylor Swift ก็มีส่วนที่หยิบมาใช้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจได้เช่นเดียวกัน...