งานไม่เคยจบในที่ทำงาน ตามกลับมาบ้านด้วยเสมอ ปัญหาของชาว Hybrid Working ต้องแก้ยังไง?

เมื่อเราเข้าสู่ยุคดิจิทัล ข้อดีคือความเร็ว การติดต่อสื่อสารสะดวก แต่ความสะดวกนี้กลายเป็นทำลายเส้นแบ่งระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน  เพราะงานไม่เคยจบแค่ในที่ทำงาน แต่ตามกลับมาบ้านด้วยเสมอ บทความนี้ Techsauce จึงได้รวบรวม

 “How to ทิ้งงานไว้ที่ออฟฟิศ และทวงคืนชีวิตที่มีคุณภาพมาไว้ให้คุณแล้ว”

How to ทิ้ง : ทิ้งงานไว้ที่ออฟฟิศ และทวงคืนชีวิตที่มีคุณภาพ

“หลังเลิกงานคือเวลาของเรา” เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้งานมาครอบงำเวลาส่วนตัวของคุณ แม้งานบางประเภทจะไม่สามารถตัดขาดจากมันได้ 100% แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การจัดสรรเวลา เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณได้เรียงลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำในแต่ละช่วงเวลาแล้ว ยังช่วยให้เพื่อนร่วมงานเคารพเวลาของคุณอีกด้วย โดยมี 4 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

Step 1: กำหนดเวลาเลิกงาน

ในปัจจุบันรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก บริษัทส่วนใหญ่เริ่มปรับตัวให้มีการทำงานแบบ Hybrid Working หรือ Flexible Hours ซึ่งดูเหมือนจะให้อิสระพนักงานได้ออกแบบชั่วโมงการทำงานของตนเอง แต่ก็เป็นดาบ 2 คมที่ทำหลาย ๆ คนไม่สามารถตัดขาดจากงานได้เพราะเวลาเลิกงานไม่ชัดเจน

สำหรับคนที่ทำงานแบบ 9 to 5 หรือใช้รูปแบบชั่วโมงการทำงานทั่วไปที่เข้างาน 9:00 เลิกงาน 17:00 อาจมองว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ แต่ความจริงแล้วคำว่า ‘กำหนดเวลาเลิกงาน’ หมายถึง การกำหนดให้ตนเองและเพื่อนร่วมงานรู้ว่าช่วงเวลาไหนคือช่วงเวลาที่เราจะหยุดพูดคุยเรื่องงาน

Step 2: จัดตารางงานให้ชัดเจน

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คนส่วนมากตัดขาดจากงานไม่ได้นั้นมาจาก ‘ความวิตกกังวล’ เช่น กลัวว่าจะลืมตอบอีเมลสำคัญ หรือทำงานบางอย่างตกหล่นไป ส่งผลให้ในหัวยังคงคิดถึงแต่เรื่องงานอยู่ตลอด แม้นั่นจะเป็นเวลาพักผ่อนแล้วก็ตาม

ดังนั้น การจัดตารางงานให้ชัดเจนจะช่วยให้ตัวเรารับรู้ว่าในแต่ละวันต้องจัดการอะไรบ้าง เมื่อเห็นสิ่งที่ต้องทำเป็นรูปธรรมมากขึ้น ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลและยังช่วยให้สามารถวางแผนการทำงานให้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งก่อนเลิกงานคุณก็สามารถกลับทบทวนตารางงานเพื่อตรวจสอบว่ามีรายการไหนตกหล่นหรือไม่

Step 3: สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน

งานจบ แต่คนไม่จบ หลายๆ ครั้งปัญหาก็มาจากเพื่อนร่วมงานที่ไม่เคารพเวลาส่วนตัวของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นโทรหรือแชทมาคุยงานทั้งที่รู้ว่านั่นคือเวลาเลิกงานแล้ว และแม้ว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของเพื่อร่วมงานได้ แต่เราสามารถสื่อสารกับพวกเขาถึง ‘ขอบเขตเวลา’ ที่ชัดเจนได้

ตัวอย่างเช่น เราอาจแจ้งเขาว่า “ปกติแล้วเวลาเลิกงานคือ 18:00 หากติดต่อมาหลังช่วงเวลานั้นจะได้รับการตอบกลับอีกทีคือหลัง 9:00 ของวันพรุ่งนี้นะ” หรือถ้าไม่สะดวกใจที่จะพูดออกไป ก็แสดงออกด้วยการกระทำแทน เช่น การไม่ตอบกลับหรือโต้ตอบกับเพื่อนร่วมงานเลยตั้งแต่ 18:00-9:00 ของวันรุ่งขึ้น

หรือหากมีงานที่ต้องติดต่อพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะกำหนดแนวทางในการติดต่อที่ไม่รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป เช่น “หลัง 18:00 สามารถติดต่อมาได้นะ แต่ให้ส่งเป็นอีเมลแทน เว้นแต่จะมีเรื่องด่วนจริงๆ ค่อยโทรหรือแชทส่วนตัวมา” แนวทางเหล่านี้ช่วยให้เพื่อนร่วมงานรับรู้และเคารพเวลาส่วนตัวของคุณมากขึ้น

Step 4: ทำงานในเวลางาน

ให้มันจบที่ออฟฟิศ! หลาย ๆ คนชอบทำงานหลังเลิกงานหรือตอนกลางคืนมากกว่า เพราะเป็นเวลาที่รู้สึกสงบและไม่มีใครรบกวน แต่การทำแบบนี้ก็อาจทำให้คุณใช้เวลาเกือบทั้งวันอยู่กับงานและไม่มีเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนเลย ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือการพยายามทำงานให้เสร็จในเวลางาน โดยแนวทางข้อนี้สามารถทำร่วมกับการจัดตารางงานให้ชัดเจนได้ (Step 2) เพื่อช่วยให้เห็นภาพรวมของงานที่ต้องทำในแตละวัน

แต่หากมีงานที่จำเป็นจะต้องทำหลังเลิกงานจริง ๆ สิ่งที่ควรทำก็คือการกำหนดระยะเวลาที่คุณจะใช้ทำงาน เช่น คุณให้เวลาตัวเองทำงานได้ตั้งแต่ 20:00-21:00 น. เท่านั้น หลังจากเวลานั้นจะเป็นเวลาพักผ่อนของคุณ เมื่อทำแบบนี้การทำงานก็จะมีขอบเขตมากขึ้นและไม่กินเวลาส่วนตัวของคุณในตอนคืนมากเกินไป

แม้ในปัจจุบันมีกระแสมากมายที่บอกว่าคนจะประสบความสำเร็จจะไม่มี Work Life Balance แต่อีกมุมหนึ่งอยากให้มองว่า ‘เวลาและสุขภาพ’ คือสิ่งเดียวที่ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากมายแค่ไหนก็ซื้อมันคืนมาไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนและใช้เวลากับคนสำคัญในครอบครัวด้วย

อ้างอิง: hbr.org

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ถอดบทเรียนจาก Steve Jobs ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยแนวคิด “ไม่ลดคน ไม่ตัดงบ”

ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2008 หลายบริษัทเลือกที่จะลดขนาดองค์กร ปลดพนักงาน และตัดงบประมาณเพื่อลดความเสี่ยง แต่ Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple กลับสวนกระแส ด้วยแนวคิดที่ว่า “จะเดินหน้...

Responsive image

CEO Shopify ชี้ AI ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทักษะที่ทุกคนต้องมีในองค์กร

บันทึกภายในของ Tobi Lütke ซีอีโอของ Shopify กลายเป็นที่จับตาอย่างมากในวงการเทคโนโลยีและการลงทุน เนื่องจากเขาประกาศชัดว่า “การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ” คือความสามารถพื้นฐานที่พนักง...

Responsive image

Bill Gates เผย 3 อาชีพที่ AI ยังแทนที่ไม่ได้

Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ได้ออกมาให้ความเห็นว่า AI จะเข้ามาแทนที่งานหลายอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์ยังเป็นคนกำหนดว่าต้องการให้ AI ทำอะไร และงานไหนควรให้มนุษย์ทำ จาก...