4 วิธีเลี้ยงลูก ให้เก่งแบบ Bill Gates ตามคำแนะนำของนักจิตบำบัด

“ลูกจะเป็นอะไรก็ได้ที่ลูกอยากเป็น” พวกเรามักจะบอกลูกสาวอย่างนั้น แต่หลายครั้งการกระทำของเรามักสวนทางกับสิ่งที่พูด

การศึกษาพบว่าผู้ปกครองมักมีแนวโน้มที่จะเลี้ยงลูกสาวแตกต่างจากลูกชาย และหนึ่งในสิ่งที่แตกต่างก็คือ การใช้คำพูด

รายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Behavioral Neuroscience นักวิจัยพบว่าผู้ปกครองจะใช้ภาษาเชิงสุภาพและเชิงวิเคราะห์กับเหล่าลูกสาว (เช่น “much (มาก)” และ “better (ดีกว่า)”) ในขณะที่การใช้ภาษากับลูกชาย พวกเขาจะใช้คำที่เกี่ยวกับการแข่งขัน (เช่น “win (ชนะ)” และ “top (จุดสูงสุด)”)

คำพูดเหล่านี้ทำให้เด็กผู้หญิงรู้สึกว่าพวกเธอควรทำตัวเรียบร้อยและทำตามกฎระเบียบ แม้จะดูเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่มันจะเป็นการกีดกันไม่ให้เด็กผู้หญิงโตขึ้นมาเป็นผู้หญิงที่มีสภาพจิตใจเข้มแข็ง

การเลี้ยงเด็กผู้หญิงให้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่

Amy Morin นักจิตบำบัดและผู้เขียน “13 Things Mentally Strong Women Don’t Do.” พูดถึงปัญหาพวกนี้ในหนังสือว่า เพราะพวกเราเลี้ยงเด็กผู้หญิงแตกต่างจากเด็กผู้ชาย ดังนั้นพวกเราจึงมีส่วนในการสร้างนิสัยที่ไม่ดีซึ่งอาจจะไปจำกัดศักยภาพของพวกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ และนิสัยเหล่านี้เริ่มต้นขึ้นในวัยเด็ก

แต่ถ้าหากคุณต้องการเลี้ยงเด็กผู้หญิงที่จะกลายเป็น Bill Gates คนต่อไปล่ะ นี่คือ 4 สิ่งที่คุณสามารถทำได้ ถ้าคุณต้องการจะเลี้ยงเด็กผู้หญิงให้มีสภาพจิตใจเข้มแข็ง

สนับสนุนให้แหกกฎ

ในการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์กับ BBC Gates พูดว่าตอนเขาอายุ 12 ปี ผู้ปกครองมักจะพาเขาไปเจอนักจิตวิทยา

“ผมรู้สึกต่อต้านอยู่หน่อยๆ” เขากล่าว “ผมเริ่มที่จะสงสัยตั้งแต่เนิ่นๆ ว่ากฎของพวกเขา (พ่อแม่) สมเหตุสมผลไหม แล้วต้องทำตามตลอดหรือเปล่า ดังนั้นเมื่อผมไม่ทำตามบรรยากาศในบ้านก็จะตึงๆ หน่อย” 

ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่ Gates จะเป็นคนชอบแหกกฎ จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเด็กที่แหกกฎตอนอายุ 12 ปี มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวย อาจจะเป็นเพราะว่าเด็กพวกนี้ไม่กลัวที่จะเปลี่ยนแปลงและกล้าที่จะสร้างหนทางใหม่ขึ้นมา

คุณควรสอนลูกสาวให้รู้ว่าบางกฎมีไว้แหก ควรสอนให้ลูกสาวเห็นว่าเธอสามารถที่จะแหกบรรทัดฐานทางเพศและทำสิ่งที่แตกต่างได้ เด็กผู้หญิงที่ตั้งคำถามกับกฎบางข้อและรู้ว่ามันเป็นเรื่องโอเคที่จะแหกกฎ จะมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต

สอนลูกสาวให้คำนวณความเสี่ยง

การลงมือทำอะไรที่มีความเสี่ยงสูงมักจะได้รับการสรรเสริญ ในขณะที่มันได้ผลสำหรับบางคน แต่ก็มีหลายคนที่ที่ล้มเหลว แต่ Gates เป็นคนที่ไม่ใช้แนวคิด “ถ้าจะทําอะไรก็ทําให้เต็มที่ไป หรือไม่งั้นก็กลับบ้านไปซะ” กลับกันเขาโฟกัสว่า จะทำอย่างไรให้บริษัทเติบโตทีละเล็กทีละน้อยเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดอันใหญ่หลวง

คุณควรสอนลูกสาวให้รู้จักคำนวณความเสี่ยง ยิ่งไปกว่านั้น ควรสอนให้ลูกสาวรู้ว่าระดับความเสี่ยงที่แท้จริงไม่เกี่ยวข้องกับระดับความกลัวของเธอ (มันคือข้อผิดพลาดที่หลายคนเคยทำ) ตัวอย่างเช่น การออกไปนำเสนอหน้าชั้นเรียน มันดูเหมือนจะน่ากลัว แต่ก็เสี่ยงน้อยกว่าการขับรถอยู่ดี

คุณควรสอนให้คำนวณความเสี่ยงจากการลงมือทำ เช่นเดียวกันกับความเสี่ยงที่มาจากการไม่ลงมือทำ สิ่งนี้จะช่วยให้เธอกล้าตัดสินเมื่อเจอกับความกลัว และเป็นการผลักดันให้เธอก้าวข้ามอุปสรรคไปได้

ล้อมรอบไปด้วยคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอ

คนที่คุณจะให้มาอยู่รอบๆ ลูกสาวมีอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้างแรงบันดาลใจให้เธอ ควรเปิดโอกาสให้เธอได้รู้จักกับคนที่มีความสามารถ มีความมั่นใจและเป็นแรงบันดาลใจให้เธอกล้าที่จะสร้างสิ่งแตกต่างบนโลกใบนี้ 

Bill Gates คือคนที่ประกาศตัวเองว่าเป็นอินโทรเวิร์ต ที่มีความฝันอยากจะเป็นครูคณิตศาสตร์ แต่ Paul Allen ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมานานและเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจท้าให้เขาเข้าวงการโปรแกรมมิ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นตำนานของเจ้าตัวในวันนี้

ส่งเสริมให้ลูกสาวเรียนคณิตและวิทยาศาสตร์

วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ กลายเป็นยาขมสำหรับเด็กหลายคน ผู้ปกครองต่างบอกให้เด็กผู้หญิงพยายามเรียนวิชาเหล่านี้ให้มากขึ้น การกระทำนี้อาจจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจพวกเธอได้ 

จะดีกว่าไหมหากเราทำให้ลูกสาวสนุกกับการเรียนมากขึ้น หรือว่าช่วยสร้างความหมายกับการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ด้วยการบอกว่า พวกเธอไม่ต้องเป็นนักคณิตศาสตร์หรือนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ แต่การเรียนรู้วิชาเหล่านี้สามารถช่วยเธอในชีวิตได้หลายแง่มุมในอนาคต 

เช่น ช่วยให้เธอเป็นคนที่แก้ปัญหาเก่ง และยังช่วยให้เธอเข้าใจโลกได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับรากฐานธุรกิจและการจัดการเงิน

ความจริงที่น่าเศร้าคือเด็กผู้หญิงจำเป็นต้องเพิ่มความรู้ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จริงๆ ช่องว่างความสำเร็จระหว่างเพศทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาจริงๆแล้วมันกว้างมาก จาก “State of Science Index” 

ในปี 2019 รายงานว่า บริษัท 3M ทำการสำรวจ 14,025 คน ทั่วโลกซึ่งนับว่าเป็นจำนวน 14 ประเทศ เพื่อสำรวจความคิดเห็นต่อวิทยาศาสตร์และทักษะ STEM ทั่วโลก ผู้หญิงเกือบ 2 ใน 3 แสดงความไม่ค่อยมั่นในในความรู้วิทยาศาสตร์ (หลายคนก็พูดว่า พวกเธอ “ไม่รู้อะไรเลย” ในวิชานี้) ในขณะที่ผู้ชายจำนวนครึ่งหนึ่งรู้สึกไม่มั่นใจเช่นกัน

แปลและเรียบเรียงจาก : CNBC 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ส่องวิธีคิดแบบ นิธิฟู้ดส์ หา The New ROI อย่างไรให้เจอโอกาสในวิกฤต จนยอดขายทะลุ 500 ล้าน

บนเวที FoodX Forum 2025 คุณสมิต ทวีเลิศนิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด และอุปนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย ได้ขึ้นมาแชร์ Insight แบบ Eclusive ถึงเบื้องหลังการเติบโต 30...

Responsive image

Fei-Fei Li เตือน! อนาคตเป็นของคนที่ ‘กล้าเสี่ยง’ ยุคนี้ Safe Zone คือจุดที่อันตรายที่สุด

Fei-Fei Li ผู้ร่วมก่อตั้ง World Labs และศาสตราจารย์จาก Stanford University หรือที่รู้จักกันในนาม ‘เจ้าแม่แห่งวงการ AI’ ได้ออกมาเปิดเผยเคล็ดลับสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในยุคที่เทคโนโล...

Responsive image

วิจัยชี้ Gen Z เตรียมพร้อมเกษียณ ได้ดีกว่ารุ่น Baby Boomers นี่คือรุ่นที่จะรอดตอนแก่มากที่สุด

ผลวิจัย Vanguard เผย Gen Z เตรียมพร้อมเกษียณดีกว่า Baby Boomer! เจาะปัจจัยทำไมคนรุ่นใหม่ถึงได้เปรียบ ทั้งระบบออมอัตโนมัติและเวลา พร้อมความเสี่ยงที่ต้องระวัง...