พลิกโฉมการเกษตรแอฟริกา! เมื่อ AI กลายเป็น "เพื่อนคู่คิด" เกษตรกรรายย่อย

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี AI หลายคนอาจนึกถึงโมเดลภาษาขนาดใหญ่ในองค์กรยักษ์ใหญ่ หรือแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจในโลกตะวันตก แต่ในวันนี้ AI กำลังกลายเป็นตัวแปรสำคัญในพื้นที่ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง นั่นคือ "ไร่นา" ของเกษตรกรรายย่อยในทวีปแอฟริกา ที่ซึ่งเทคโนโลยีกำลังถูกนำมาใช้แก้ปัญหาปากท้อง ความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

เมื่อ AI ช่วยชีวิตไก่ในฟาร์มที่ห่างไกล

Edemanwan Eyo Bassey เกษตรกรมือใหม่ในพื้นที่ห่างไกลทางตอนใต้ของประเทศไนจีเรีย เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของไก่ในฟาร์มที่เริ่มเคลื่อนไหวเชื่องช้า "เหมือนกำลังจะเป็นอัมพาต" แต่ด้วยข้อจำกัดในการเข้าถึงเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญภาครัฐ เธอจึงหันไปพึ่งเทคโนโลยี

เธอพิมพ์คำถามที่ตรงไปตรงมาไปยัง Farmer.chat แชตบอตที่พัฒนาโดย Digital Green องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจากซานฟรานซิสโก "ทำไมไก่ของฉันถึงเดินแปลกๆ?"

AI วิเคราะห์อาการและวินิจฉัยว่าอาจเป็น "โรคนิวคาสเซิล" (Newcastle disease) ซึ่งเป็นการติดเชื้อไวรัสที่รุนแรงในสัตว์ปีก และยังแนะนำให้ใช้วัคซีน LaSota เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ผลลัพธ์คือเธอสามารถรักษาไก่และลดอัตราการตายในฟาร์มลงได้สำเร็จ นี่คือตัวอย่างเล็กๆ ที่สะท้อนภาพใหญ่ว่า AI กำลังกลายเป็น "เพื่อนคู่คิด" ที่จำเป็นสำหรับเกษตรกรในยุคที่สภาพอากาศแปรปรวนและความช่วยเหลือจากภาครัฐมีจำกัด

ไม่ใช่แค่แชตบอต แต่คือ Ecosystem ที่กำลังเติบโต

การเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้มีแค่แอปพลิเคชันเดียว แต่เป็น Ecosystem ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เล่นหลักที่น่าจับตา ได้แก่

  • Digital Green: เจ้าของ Farmer.chat ที่มีฐานผู้ใช้กว่า 50,000 คน ทั่วแอฟริกา จุดเด่นคือการรองรับภาษาท้องถิ่นอย่าง ภาษาเฮาซา (Hausa) และให้คำแนะนำที่ครอบคลุมตั้งแต่การกำจัดเพลี้ยอ่อนในต้นพริก ไปจนถึงการเลือกไก่สายพันธุ์ Noiler ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ และการพยากรณ์อากาศเพื่อเตรียมพร้อมให้ความอบอุ่นในเล้าไก่
  • PlantVillage: องค์กรจาก The Pennsylvania State University  ที่มีเครือข่ายเข้าถึงเกษตรกรถึง 15 ล้านคนต่อฤดูกาล ผ่านแชตบอตอัจฉริยะ Nuru โดยใช้เทคโนโลยี Large Language Models  (LLMs) ในการพัฒนา ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากภาพถ่ายเพียงภาพเดียว ตั้งแต่ระยะการเจริญเติบโตของพืช ประเภทดิน ไปจนถึงการดึงข้อมูลดาวเทียมเกี่ยวกับความชื้นในดินและการคายระเหยของน้ำ (Evapotranspiration) มาประกอบการทำเกษตรกรรม
  • Farmerline: Startup สัญชาติกานาที่ชูจุดเด่นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีโดยคนแอฟริกันเพื่อคนแอฟริกัน ผ่านแอปพลิเคชัน Darli AI ที่ตอบคำถามได้ถึง 27 ภาษา และมีสายด่วน AI สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

เบื้องหลังความแม่นยำ: พลังของ Data และความท้าทาย

Catherine Nakalembe นักวิทยาศาสตร์ภูมิสารสนเทศ (Geospatial Scientist) จาก NASA และ University of Maryland ชี้ว่าหัวใจของเทคโนโลยีนี้คือการผสานชุดข้อมูลมหาศาล (Big Data) ทั้งปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิ และสภาพพืชพรรณ เพื่อสร้างโมเดลคาดการณ์และให้คำแนะนำที่แม่นยำ

แต่ความท้าทายคือ "บริบทท้องถิ่น" Catherine Nakalembe ย้ำว่าหาก AI ขาดความเข้าใจในพื้นที่ อาจเกิดความผิดพลาดร้ายแรง เช่น การวินิจฉัยไร่โกโก้ว่าเป็นป่า หรือมองนาข้าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ดังนั้นการ ร่วมพัฒนา (Co-develop) กับเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจึงเป็นกุญแจสำคัญ เพราะเทคโนโลยีควรจะช่วยให้พวกเขาทำงานได้ดีขึ้น ไม่ใช่มาแทนที่ ความสำเร็จที่พิสูจน์แนวทางนี้คือแอปพลิเคชัน eLocust3 จาก PlantVillage ที่ใช้ข้อมูล GPS และภาพถ่ายจากเกษตรกรเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนที่ของฝูงตั๊กแตนในช่วงระบาดใหญ่ปี 2020-2021 ซึ่งช่วยปกป้องพืชผลมูลค่ามหาศาลถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ และรักษาชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรนับสิบล้านคน

จาก 1 สู่ 300 และการลดภาระภาครัฐ

AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในฟาร์มเดียว แต่กำลังสร้าง Network Effect ที่ขยายผลเป็นวงกว้าง:

  • การลดปัญหาคอขวดของภาครัฐ: ที่รัฐเบนเว ประเทศไนจีเรีย ซึ่งมีอัตราส่วนเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ต่อเกษตรกรที่น่าตกใจคือ 1 ต่อ 23,000 คน การเข้ามาของ Farmer.chat ทำให้ Veronica Igbana  ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการเกษตรแห่งรัฐเบนู ประเทศไนจีเรีย สามารถฝึกอบรมคนกว่า 170 คน ให้ใช้เครื่องมือนี้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งช่วยลดภาระงานของเธอลงได้อย่างมหาศาล
  • สร้างเครือข่ายในชุมชน: Justine Ong’ala เกษตรกรวัย 50 ปีในประเทศเคนยา ได้ใช้แอปพลิเคชัน PlantVillage เพื่อวินิจฉัยโรคใบด่างมันสำปะหลัง และรักษาพืชผลของเธอไว้ได้ แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ เธอนำความรู้นี้ไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านเกษตรกรที่ไม่มีสมาร์ทโฟนอีกกว่า 300 คนอีกด้วย

ความท้าทายบนเส้นทางสู่การเติบโต

แม้จะมีศักยภาพสูง แต่เส้นทางนี้ก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ความท้าทายสำคัญคือ "แหล่งทุน" โดยเฉพาะหลังจากการระงับความช่วยเหลือจากต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกระทบโดยตรงต่อโครงการที่ USAID เคยให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนด้วยเงินทุนถึง 39 ล้านดอลลาร์ ทำให้เครือข่ายบางส่วนต้องยกเลิกไป ตามคำกล่าวของ Annalyse McCloskey จาก PlantVillage ซึ่งตอนนี้กำลังมองหาแหล่งทุนใหม่ นอกจากนี้ยังมีประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมจากการใช้ทรัพยากรของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ต้องจับตามอง

Alloysius Attah ซึ่งเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Farmerline เชื่อว่า AI คือเครื่องมือที่จะ "ปลดล็อกศักยภาพ" ของทวีปแอฟริกา ซึ่งมีประชากรอายุน้อยที่สุดในโลกและมีที่ดินทำกินที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ถึง 60% ของโลก AI และแพลตฟอร์มทางการเงินกำลังทำให้ภาคเกษตรกรรมที่เคย "มีความเสี่ยงสูง" ในสายตานักลงทุน กลายเป็นธุรกิจที่โปร่งใสและคาดการณ์ได้มากขึ้น ช่วยให้เกษตรกร สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อซื้อระบบชลประทานล่วงหน้า และเตรียมพร้อมสำหรับตลาดโลก

Source: www.fastcompany.com

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำไมญี่ปุ่นรับมือภัยพิบัติได้ดีกว่าประเทศไหนในโลก? ถอดบทเรียนการออกแบบชีวิต เมือง และสังคมให้ไม่ล้มเมื่อโลกสั่น

ญี่ปุ่นรับมือภัยพิบัติได้อย่างโดดเด่นเพราะมี ‘วัฒนธรรมความยืดหยุ่น’ ที่ฝังอยู่ในชีวิตประจำวัน งานวิจัยของศาสตราจารย์ Miho Mazereeuw และหนังสือ Design Before Disaster เผยให้เห็นว่าก...

Responsive image

สตาร์ทอัพสวิสฯ พัฒนา ‘Aurin’ เปลี่ยนปัสสาวะเป็นปุ๋ยพรีเมียม จากเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียที่ ESA รับรอง

รู้จัก VunaNexus สตาร์ทอัพสวิสที่นำเทคโนโลยีอวกาศจาก ESA มาเปลี่ยนปัสสาวะให้เป็นปุ๋ย "Aurin" ช่วยลดมลพิษไนโตรเจนและสร้างระบบหมุนเวียนสารอาหารที่ยั่งยืนในอาคารสูง...

Responsive image

Solar Cell ย้อนกลับ? นวัตกรรมจาก Stirling Engine ปั่นไฟจากความเย็นยามค่ำคืน ไม่ง้อแดดและแบตเตอรี่

นวัตกรรม Stirling Engine ผสาน Radiative Cooling ผลิตพลังงานกลจากความเย็นยามค่ำคืน ไม่ง้อแสงอาทิตย์ ไม่ใช้แบตเตอรี่ ทางเลือกใหม่เพื่อการระบายอากาศในโรงเรือนและบ้านประหยัดพลังงาน...