Invisible e-waste ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่คนมองข้าม | Techsauce

Invisible e-waste ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่คนมองข้าม

นอกเหนือจากขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่าง แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคยแล้ว ยังมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มองไม่เห็นหรือ Invisible e-waste ที่กำลังสร้างผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

Invisible e-waste ภัยเงียบที่มาพร้อมกับผลกระทบมากมาย

จากการศึกษาครั้งใหม่ของสถาบันฝึกอบรมและการวิจัยแห่งสหประชาชาติ (UNITAR) พบว่า Invisible e-waste มีจำนวนสูงถึง 9 พันล้านกิโลกรัมต่อปี หรือเป็น 1 ใน 6 ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็น สายไฟที่ไม่ได้ใช้ แปรงสีฟันไฟฟ้า เสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วย LED บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เล็ก ๆ รวมถึงชุดรถแข่งของเล่น ของเล่นที่มีเสียง โดรน และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนถือเป็น Invisible e-waste ทั้งสิ้น ซึ่งเกิดเป็นขยะถึง 7.3 พันล้านชิ้นต่อปี ซึ่งสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มักถูกมองข้ามเหล่านี้ก่อให้เกิดความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอย่างมาก

ปัญหาในการกำจัด Invisible e-waste อยู่ตรงส่วนประกอบที่เป็นวัสดุอันตรายซึ่งส่งผลกระทบกัยสิ่งแวดล้อม เช่น ตะกั่วหรือปรอทที่สามารถปนเปื้อนลงนํ้าและดินหากกำจัดด้วยการฝังกลบ รวมถึงแบตเตอรี่ลิเทียม ที่มาจากบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง มีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้หากกำจัดผิดวิธี อีกทั้งแบตเตอรี่ลิเทียม ยังเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงยุโรปไปสู่ยุคพลังงานสะอาด

รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ โลกสูญเสียกว่า 9.5 พันล้านดอลลาร์ จากการไม่รีไซเคิล Invisible e-waste ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหล็ก ทองแดง และทองคำ ที่สามารถนำกลับมาใช้ซํ้าได้ จากรายงานของ WEEE Forum สมาคมนานาชาติที่รวบรวมข้อมูลด้านขยะอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า ในปี 2019 สายเคเบิลทองแดงที่ถูกทิ้งสามารถรีไซเคิลได้ถึง 950 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่พันรอบโลกได้มากถึง 107 ครั้ง 

จัดการกับ Invisible e-waste ด้วยกฎหมาย

ความพยายามในการต่อสู้กับวิกฤตนี้เกิดขึ้นในยุโรปกว่าสองทศวรรษผ่านกฎหมาย Extended Producer Responsibility หรือ EPR ระบบที่การขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบ การใช้ซํ้า จนไปถึงการบำบัด เพื่อให้ผู้ผลิตตระหนักถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร 

แต่อัตราการรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกมีเพียง 17% เท่านั้น จากการที่หลาย ๆ ประเทศยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย EPR  จึงมีการเรียกร้องให้เพิ่มความตระหนักรู้ เช่นเดียวกับการให้ความสำคัญกับมลพิษจากพลาสติก เพื่อแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

International E-Waste ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้และสามารถจัดการกับ Invisible e-waste ด้วยความรับผิดชอบ เป็นส่วนสำคัญต่ออนาคตที่ยั่งยืน รักษาสภาพแวดล้อมและทรัพยากรอันมีค่าเพื่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป

อ้างอิง: interestingengineering, theverge, thaiplastics


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

One Bangkok จับมือ 5 สถาบันการเงินชั้นนำ รับดีล Green Loan สูงสุดในประวัติการณ์เพื่อพัฒนาโครงการ

One Bangkok ประกาศลงนามสัญญาสินเชื่อสีเขียวระยะยาวเพื่อพัฒนาโครงการมูลค่า 5 หมื่นล้านบาทร่วมกับ 5 สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศ...

Responsive image

เจาะลึกวิกฤตน้ำกับ TCP เมื่อน้ำกำลังจะกลายเป็นของหายาก

วิกฤตน้ำทั่วโลกส่งผลกระทบหนักต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจ TCP เสนอแนวทางแก้ไขผ่าน Nature-based Solutions และกลยุทธ์บริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจไทยในยุคโลกร้อน...

Responsive image

David Capodilupo จาก MIT Sloan เปิดเหตุผลตั้งสำนักงานในไทย ต้นแบบสู้ Climate Change อาเซียน

David Capodilupo ผู้ช่วยคณบดีด้านโครงการระดับโลกของ MIT Sloan เผยเหตุผลที่สถาบันเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย เพื่อให้ไทยเป็นฮับอาเซียน ในการส่งเสริมการเรียนการสอน การวิจัยพัฒนา การแก้ปั...