'เมืองไม้' ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากไม้ทั้งเมือง เริ่มสร้างที่สต็อกโฮล์ม | Techsauce

'เมืองไม้' ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากไม้ทั้งเมือง เริ่มสร้างที่สต็อกโฮล์ม

ที่สต็อกโฮล์ม เมืองหลวงของสวีเดน มีเขตอุตสาหกรรมเก่าของเมืองที่เต็มไปด้วยซากโรงงานเก่า และลาดจอดรถ นักพัฒนาเมืองเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่สามารถนำมาพัฒนาต่อได้ จึงผุดไอเดียที่จะสร้าง ‘เมืองไม้’ ที่ใหญ่ที่สุดของโลก 

ซึ่งเป็นเมืองต้นแบบที่จะใช้ไม้ในการสร้างเมืองทั้งเมือง เพราะต้องการ สนับสนุนการใช้วัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการใช้เหล็กและคอนกรีตที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนจำนวนมาก ในกระบวนการผลิต

Annica Ånäs CEO ของ Atrium Ljungberg บริษัทที่พัฒนาโครงการเมืองไม้ กล่าวว่า “พวกเราอยากแสดงให้เห็นว่าวิทยาการความรู้และเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้จริง” กลยุทธ์หลักของโครงการ คือ การพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ที่แต่ละส่วนเชื่อมต่อถึงกัน เป็นย่านชุมชนแห่งหนึ่งที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทำให้ผู้คนชื่นชอบและอยากมาอยู่อาศัยที่นี่ แทนที่จะสร้างอาคารเพียงแค่หลังเดียว

‘เมืองไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ มีอะไรบ้าง

สำหรับโครงการเมืองไม้เป้าหมายหลักที่นักพัฒนาวางเอาไว้ คือ การพัฒนาเขตอุตสาหกรรมเก่าให้กลายเป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งในย่านนี้ก็จะประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่อยู่อาศัย 2,000 ยูนิต และออฟฟิศกว่า 7,000 แห่ง 

การที่นักพัฒนาวางแผนสร้างออฟฟิศมากกว่าพื้นที่อยู่อาศัยเนื่องจากบริเวณใกล้เคียงโครงการมีบ้านมากกว่าออฟฟิศอยู่แล้ว และเมืองสต็อกโฮล์มก็มีปัญหาของความไม่สมดุลระหว่างที่อยู่อาศัยกับสถานที่ทำงาน หลาย ๆ คนอาศัยอยู่ทางตอนใต้ แต่ที่ทำงานส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง 

การพัฒนาพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นออฟฟิศจะช่วยเพิ่มสมดุลและลดเวลาที่ผู้คนต้องเดินทางไปทำงานได้ นอกจากนี้จะมีการสร้างรถไฟใต้ดินสายใหม่ในพื้นที่แห่งนี้ด้วย เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางเข้าไปยังใจกลางเมือง ซึ่งแนวคิดเรื่องความสะดวกและการเดินทางเป็นสิ่งที่นักพัฒนาเมืองให้ความสำคัญอย่างมาก โดยตั้งชื่อแนวคิดนี้ว่า ‘เมือง 15 นาที’

เมือง 15 นาที คืออะไร

 

จากเป้าหมายหลักที่โครงการต้องการให้แต่ละส่วนของเมืองเชื่อมต่อถึงกันได้ ทำให้นักพัฒนาต้องการทำให้ผู้อยู่อาศัยในเมืองนี้สามารถหาทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ในบริเวณใกล้ ๆ บ้าน จึงกลายมาเป็นแนวคิด ‘เมือง 15 นาที’ ที่มีสถานที่สำคัญที่ผู้คนต้องไปในแต่ละวัน เช่น ที่ทำงาน โรงเรียน ร้านค้า และสวนสาธารณะ อยู่บริเวณใกล้เคียงสามารถเดินไปได้ในระยะทางสั้น ๆ หรือขี่จักรยานไปก็ได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลามาก

ใช้ไม้สร้างทั้งเมืองจะยั่งยืนจริงเหรอ ?

หลาย ๆ คนคงเริ่มสงสัยว่าการลดการใช้คอนกรีตและเหล็ก เพราะต้องการลดการปล่อยคาร์บอน แต่ตัดไม้จำนวนมากมาสร้างเมืองทั้งเมืองมันจะยั่งยืนและดีต่อโลกจริง ๆ เหรอ ? 

บริษัทที่พัฒนาเมืองไม้มีความตั้งใจอย่างมากที่จะผลักดันการใช้วัสดุก่อสร้างที่ทั้งยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

วัสดุที่โครงการเลือกใช้เป็นไม้ชนิดพิเศษ ที่เรียกว่า Mass Timber Construction เป็นไม้ประเภทที่นำมาใช้เพื่อเป็นวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะ ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งน้ำหนักเบา ขนส่งง่าย ประหยัดเวลาในการก่อสร้าง เพราะสามารถประกอบขึ้นรูปนอกไซต์ก่อสร้างและส่งตรงไปเพื่อติดตั้งที่หน้างานได้เลย นอกจากนี้ยังแข็งแรงทนทานได้รับมาตราฐานความปลอดภัยเดียวกันกับเหล็กและคอนกรีตอีกด้วย

ไม้ประเภทนี้มาจากป่าแบบสมัยใหม่ (Modern Forestry) ซึ่งเป็นป่าที่มีการจัดการต้นไม้เป็นวัฏจักร ปลูก > ตัด > เติบโต หมายถึงเมื่อปลูกต้นไม้ว่าถึงช่วงอายุที่สามารถเก็บเกี่ยวไปใช้งานได้ ต้นไม้ต้นนั้นก็จะถูกตัด และหลังจากนั้นก็จะมีต้นไม้ต้นใหม่ถูกปลูกขึ้นมาทดแทน ซึ่งทำให้การตัดไม้มาใช้งานไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมนั่นเอง

ในปัจจุบันการใช้ไม้มาทดแทนเหล็กและคอนกรีตก็มี New European Bauhaus (โครงการมุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียวของสหภาพยุโรป) ร่วมสนับสนุนด้วย เพราะนอกจากลดการปล่อยก๊าซพิษแล้ว ยังพบว่าอาคารไม้ช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ เพราะไม้ช่วยให้อากาศภายในอาคารสะอาดทำให้หายใจได้สะดวก รวมถึงดูดซับก๊าซคาร์บอนในอากาศได้ตลอดอายุการใช้งานอีกด้วย

นอกจากนี้โครงการเมืองไม้ก็ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในเมือง รวมถึงผลักดัน Eco-System ของเมือง เช่น พลังงานหมุนเวียน การกำจัดของเสีย เป็นต้น โดยโครงการนี้จะเริ่มต้นสร้างในปี 2025 และคาดว่าจะเสร็จในปี 2027 ซึ่งทีมพัฒนาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ความรู้ใหม่ ๆ จากกระบวนการสร้างโครงการนี้ เพื่อนำไปปรับใช้กับโครงการพัฒนาเมืองยั่งยืนในอนาคตต่อไป

อ้างอิง: cdsmith, fastcompany, news.cision

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สรุป 35 ความเสี่ยงจาก Global Risks Report 2025 ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

เจาะลึก Global Risks Report 2025 โดย World Economic Forum วิเคราะห์ 35 ความเสี่ยงระดับโลกที่สำคัญ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยี พร้อมแนวโน้มสำคัญในปี 2025, 2027 แ...

Responsive image

บางจาก ได้สินเชื่อรายแรกในไทย 6,500 ล้านบาทเพื่อพัฒนา SAF จากธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี มอบสินเชื่อ 6,500 ล้านบาท สนับสนุนบางจากฯ พัฒนาโครงการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) แห่งแรกในไทย ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุด 80% เพื่อเป้าหมาย Net Zero 20...

Responsive image

One Bangkok จับมือ 5 สถาบันการเงินชั้นนำ รับดีล Green Loan สูงสุดในประวัติการณ์เพื่อพัฒนาโครงการ

One Bangkok ประกาศลงนามสัญญาสินเชื่อสีเขียวระยะยาวเพื่อพัฒนาโครงการมูลค่า 5 หมื่นล้านบาทร่วมกับ 5 สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศ...