TCP Sustainability Forum 2024 ชูเรื่อง 'น้ำ' ทรัพยากรที่ธุรกิจต้องเร่งจัดการให้เร็วที่สุด | Techsauce

TCP Sustainability Forum 2024 ชูเรื่อง 'น้ำ' ทรัพยากรที่ธุรกิจต้องเร่งจัดการให้เร็วที่สุด

กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเวที 'TCP Sustainability Forum 2024' งานประชุมด้านความยั่งยืนที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือของพันธมิตรในกลุ่มอุตสาหกรรมและเครื่องดื่ม เพื่อรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนของประเทศและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยงานนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ธีมงานคือ 'Water Resilience in a Changing Climate' โดยชูแนวคิด ‘ความยืดหยุ่นและการปรับตัวเร็ว’ พร้อมทั้งประกาศเดินหน้า 3 แผนงานเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกและสร้างความเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายความยั่งยืนในอัตราที่เร็วขึ้น เพราะ 'วิกฤตน้ำ' ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังสร้างความเสียหายต่อผู้คนและการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก 

TCP Sustainability Forum 2024

TCP Sustainability Forum 2024 ที่จัดขึ้นในธีม Water Resilience  in a Changing Climate จึงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง 'น้ำกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัวของภาคธุรกิจ' โดยมีนักวิชาการ นักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญ มาร่วมระดมสมอง ยกระดับศักยภาพธุรกิจ ลดความเสี่ยงทางธุรกิจที่อาจเกิดจากการขาดแคลนน้ำและความท้าทายด้านทรัพยากรน้ำอื่นๆ ในอนาคต พร้อมกันนี้ ยังเป็นงานที่สนับสนุนให้องค์กรเร่งปรับปรุงการดำเนินการตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยเสริมสร้างความสมบูรณ์และยืดหยุ่นของน้ำ รวมถึงตอกย้ำให้ธุรกิจสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่แหล่งน้ำที่มีความเปราะบางร่วมด้วย

สาระสำคัญที่ซีอีโอ กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวในงาน TCP Sustainability Forum 2024

คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เกริ่นถึงสภาพภูมิอากาศที่ต่างไปจากเดิมว่า “การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อรูปแบบการตกของฝน การละลายของธารน้ำแข็ง ความรุนแรงของภัยแล้ง ผลกระทบเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลแค่อุตสาหกรรม แต่ส่งผลต่อผู้ที่ทำการเกษตร เพิ่มความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติและผลกระทบด้านน้ำ โดยเฉพาะประเทศที่มีเกษตรกรรมเป็นพื้นฐานอย่างประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อ GDP ทางเศรษฐกิจของประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อโลก ในขณะที่โลกมีความต้องการใช้น้ำมากขึ้นทุกปี”

ต่อมาคุณสราวุฒิกล่าวถึงรายงาน Fast Forward ของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ปี 2566 เพื่อชี้ให้เห็นประเด็นด้านการใช้น้ำในอนาคตว่า 

ภายในปี 2573 ปริมาณน้ำสะอาดที่โลกมีอยู่กับความต้องการใช้น้ำจะมีสัดส่วนต่างกันถึง 40% และสถานการณ์มีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น

สำหรับประเทศไทยซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งมาตลอด และปัญหาซ้ำซากเหล่านี้ก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งขยายวงกว้างแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเป้าหมายด้านความยั่งยืน นี่จึงเป็นโจทย์สำคัญของภาคธุรกิจไทย ผู้ประกอบการไทย ในการเร่งลงมือทำเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านน้ำ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งสำคัญไม่แพ้สถานการณ์ ‘โลกเดือด’

'น้ำ' วาระสำคัญที่ภาคธุรกิจต้อง 'เร่งลงมือทำให้เร็วที่สุด'

TCP Sustainability Forum 2024

Water Resilience หรือ ความยืดหยุ่นด้านทรัพยากรน้ำ จะเป็นกลยุทธ์สำคัญในการรับมือกับภาวะขาดแคลนน้ำแบบเฉียบพลัน รุนแรงและไม่แน่นอน ที่เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งปัจจุบันไม่ใช่แค่ Climate Change แต่เป็น Climate Crisis เพราะน้ำมีผลกับชีวิตความเป็นอยู่ในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาคสุขภาพจากการอุปโภคบริโภค ภาคพลังงานที่เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้า ภาคเกษตรที่เกี่ยวกับการผลิตอาหาร ภาคการผลิตที่เกี่ยวกับโรงงานผลิตสินค้า และในฐานะที่ TCP เป็นองค์กรที่ใช้น้ำเป็นวัตถุดิบหลัก การจัดการน้ำอย่างยั่งยืนจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัท”

คุณสราวุฒิบอกว่า กลุ่มธุรกิจ TCP ตระหนักถึงปัญหาด้านน้ำ และในฐานะขององค์กรที่ใช้น้ำเป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต จึงตั้งเป้าหมายที่จะ ส่งคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต หรือ Net Water Positive ภายในปี 2573 โดยกำหนดแนวทางเอาไว้หลากหลายรูปแบบ 

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจ TCP มีผลิตภัณฑ์ 6 กลุ่ม รวม 10 แบรนด์ และเกือบทั้งหมดเป็นแบรนด์เครื่องดื่ม ได้แก่

  • กลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน - กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส และวอริเออร์ 
  • กลุ่มเครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์ - สปอนเซอร์ 
  • กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงก์ - แมนซั่ม และไฮ่! X DHC 
  • กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม - เพียวริคุ และริคุ 
  • ผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวัน - ซันสแนค 
  • กลุ่มหัวเชื้อเครื่องดื่ม - เรดบูลรสดั้งเดิม 

ปรับตัวให้เข้ากับ Water Resilience และ Business Resilience ในแบบของ TCP

คุณสราวุฒิกล่าวว่า “หัวใจสำคัญเวลาพูดถึง Water Resilience คือการจะอยู่รอดอย่างไรในวันที่เราเจอวิกฤตน้ำ เป็นเรื่องการรับมือกับอนาคต เพราะน้ำเป็นทรัพยากรที่สำคัญมากกับระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าหากทรัพยากรน้ำของธุรกิจ เศรษฐกิจ หรือประเทศ มีความยืดหยุ่น ก็จะสามารถต้านทานความเปลี่ยนแปลงได้ดี ซึ่งก็คือ Business Resilience ที่ทำให้ธุรกิจเกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือกับความท้าทายตั้งแต่วันนี้ วันที่เราต้องแข่งกับเวลา และต้องปรับตัวให้เร็วกว่าโลกที่กำลังหมุนไป”

จากนั้นกล่าวต่อถึงเรื่องการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามเป้าหมายของกลมธุรกิจ TCP 'ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า' โดยใช้กลยุทธ์ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Caring) ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างมาก 4 ด้าน ดังนี้

  1. Product Excellence การพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค (Unmet Needs) และส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยปัจจุบันทำได้ 72.25% และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพ 80% ในปี 2569

  2. Circular Economy การดำเนินตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ตั้งเป้าหมายพัฒนาบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ให้สามารถรีไซเคิล 100% ภายในปี 2567 ซึ่งปัจจุบันทำได้ 93% อีก 7% คือกลุ่มสแนค และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะทำได้สำเร็จ ขณะเดียวกัน ยังมีการนำร่องใช้ขวด rPET กับแบรนด์แมนซั่มในปีนี้ พร้อมเดินหน้าเป็นองค์กร Zero Waste to Landfill ทั้งที่โรงงานปราจีนบุรีและสำนักงานใหญ่อย่างต่อเนื่อง

  3. Low Carbon Economy การมุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ บริษัทตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ปัจจุบันสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 10% และขณะนี้มีการใช้พลังงานหมุนเวียนกว่า 80%

  4. Water Sustainability การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (Net Water Positive) ภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายแล้วในขณะนี้ โดยสามารถคืนน้ำสู่ธรรมชาติสะสมได้ถึง 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าปริมาณน้ำที่ใช้ตลอดกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ทำให้ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้ 24% เมื่อเทียบกับปี 2562 และบริษัทยังนำมาตรฐานสากลเรื่องการจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำอย่าง Alliance Water Stewardship หรือ AWS มาใช้เป็นกรอบการดำเนินงาน เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มธุรกิจ TCP จะดูแลและบริหารจัดการน้ำทั้งภายในและภายนอกโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

คุณสราวุฒิเล่าเพิ่มเกี่ยวกับการดำเนินแผนงานใน 3 ด้านของกลุ่มธุรกิจ TCP เพื่อสร้างเป้าหมาย Net Water Positive ให้โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม ได้แก่ 

  • 1) ด้านการจัดการน้ำแบบฟื้นฟู เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศทางน้ำให้กลับสู่สภาพเดิม หรือดีกว่าเดิม 
  • 2) ด้านการใช้น้ำหมุนเวียนแบบ 100% เพื่อนำทรัพยากรน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์และเกิดประโยชน์สูงสุด และ 
  • 3) ด้านการใช้นวัตกรรมที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ มุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกต่อทรัพยากรน้ำ พร้อมส่งเสริมเรื่อง 'การสร้างคนด้วยการศึกษา' ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนแผนงานด้านความยั่งยืน ทั้งภายในองค์กร ชุมชน และระดับประเทศ

ปิดท้ายด้วยการสรุปความท้าทายด้านน้ำของประเทศไทยว่ามี 2 เรื่อง

  1. การทำความเข้าใจเรื่องน้ำอย่างเป็นระบบ - เข้าใจก่อนว่า ปัญหาอยู่ที่เรื่องอะไรกันแน่
  2. การมองหาหนทางใหม่ๆ ในการปรับตัว รับมือความท้าทายด้านน้ำในปัจจุบันและในอนาคต - ทั้งด้านนโยบายภาครัฐ ชุมชน ครัวเรือน ภาคธุรกิจ รวมถึงทุกคน

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

One Bangkok จับมือ 5 สถาบันการเงินชั้นนำ รับดีล Green Loan สูงสุดในประวัติการณ์เพื่อพัฒนาโครงการ

One Bangkok ประกาศลงนามสัญญาสินเชื่อสีเขียวระยะยาวเพื่อพัฒนาโครงการมูลค่า 5 หมื่นล้านบาทร่วมกับ 5 สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศ...

Responsive image

เจาะลึกวิกฤตน้ำกับ TCP เมื่อน้ำกำลังจะกลายเป็นของหายาก

วิกฤตน้ำทั่วโลกส่งผลกระทบหนักต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจ TCP เสนอแนวทางแก้ไขผ่าน Nature-based Solutions และกลยุทธ์บริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจไทยในยุคโลกร้อน...

Responsive image

David Capodilupo จาก MIT Sloan เปิดเหตุผลตั้งสำนักงานในไทย ต้นแบบสู้ Climate Change อาเซียน

David Capodilupo ผู้ช่วยคณบดีด้านโครงการระดับโลกของ MIT Sloan เผยเหตุผลที่สถาบันเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย เพื่อให้ไทยเป็นฮับอาเซียน ในการส่งเสริมการเรียนการสอน การวิจัยพัฒนา การแก้ปั...