เพราะแบรนด์มีอิทธิพลต่อคนมากกว่าที่คิด Brands for Good เครื่องมือที่ช่วยธุรกิจเปลี่ยนผู้บริโภคสู่พฤติกรรมที่ยั่งยืน | Techsauce

เพราะแบรนด์มีอิทธิพลต่อคนมากกว่าที่คิด Brands for Good เครื่องมือที่ช่วยธุรกิจเปลี่ยนผู้บริโภคสู่พฤติกรรมที่ยั่งยืน

เมื่อพูดถึงการที่ภาคธุรกิจตอบแทนคืนสู่สังคมนั้น ในยุคก่อนหน้านี้องค์กรต่าง ๆ อาจคุ้นเคยกับคำว่า CSR (Corporate Social Responsibility) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นไปที่การคืนกำไรสู่สังคม เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกกับผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) อีกทั้งยังเสริมภาพลักษณ์ให้กับองค์กรอีกด้วย

แต่ในทางกลับกันหากสิ่งที่องค์กรกำลังทำนั้น ไม่ว่าจะทุ่มงบประมาณไปมากเพียงใดก็ตาม แต่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนโดยรวมของสังคมได้ ก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์เท่าที่ควร ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับการที่เราตักน้ำใส่ตุ่มที่มีรูรั่ว 

บทความนี้ Techsauce จะพาไปรู้จักกับ Brands for Good เครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์สามารถนำความยั่งยืนเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและเป็นวงกว้างมากขึ้น ในการที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับองค์กรได้  

Brands For Good สำคัญกับแบรนด์อย่างไร ? 

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าความยั่งยืน ถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้ธุรกิจมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันอย่างที่มิอาจปฏิเสธได้ โดยในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าแบรนด์ระดับโลกต่างมีการขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งถือเป็นวิธีที่จะทำให้แบรนด์สามารถเติบโตได้ดี ไปพร้อมกับผู้บริโภคที่แบรนด์จะช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น และช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น

Brands for Good

Sustainable Brands (SB)  ได้มีการสำรวจแบรนด์ระดับโลก พบว่าแบรนด์มีความต้องการที่จะเข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น และฝั่งของผู้บริโภคนั้นกว่า 88% ต้องการที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมที่นำไปสู่การมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคเองต้องการที่จะให้แบรนด์ช่วยเปลี่ยนพวกเขาด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะช่วยกันทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น ในส่วนนี้เอง นักการตลาด จึงกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ดังนั้น  Brands for Good จึงเป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยนักการตลาดในการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ โดยแบรนด์สามารถลุกขึ้นมาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคได้ เนื่องจากแบรนด์มีระบบ (systems) และมีพลังในการสร้างเรื่องราว (stories) 

Brands for Good

แบรนด์จะทำให้ลูกค้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างไร ? 

ในที่นี้จะเป็นการหยิบยกข้อมูลจาก Pull Factor workshop ซึ่งเป็น Workshop ที่ทาง SB จัดทำขึ้นที่จะให้ทีมการตลาด ความยั่งยืน นวัตกรรม และทีมกลยุทธ์ทางธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันเพื่อปลดล็อกแนวคิด ทำให้แบรนด์มีพลังในการสร้างแรงบันดาลใจ และมีอิทธิพลในการกำหนดพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งการที่จะทำให้แบรนด์สามารถลุกขึ้นมาช่วยดึงให้ลูกค้าเปลี่ยนไปสู่พฤติกรรมที่ยั่งยืนได้นั้นจะต้องเริ่มทำความเข้าใจ 3 คำถามดังนี้ 

Brands for Good

คำถามที่หนึ่ง consumer needs 

ลูกค้าอยากได้อะไร? ที่ไม่ใช่แค่สินค้าแต่เป็นภาพรวมว่าผู้บริโภคต้องการอะไร โดยเข้าใจถึงความวิตกกังวลของพวกเขาด้วย จากการสำรวจของ SB พบว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเจนเนอเรชั่นใดก็ตามต่างมีความต้องการที่เหมือนกันอยู่ 7 ข้อ ได้แก่ Momentum , Belonging, Worth, Savvy, Rooted,Purpose และ Simplicity

Brands for Good

คำถามที่สอง sustainable behavior :

โลกอยากได้อะไรบ้าง? เมื่อพูดถึง CSR ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าคำนี้อาจจะมีแค่บางฝ่ายหรือผู้บริหารบางคนที่เข้าใจ แต่บางครั้งฝ่ายการตลาดอาจจะไม่เข้าใจจึงทำให้ ไม่สามารถเชื่อมโยงองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้  โดย SB ได้มีการจัดหมวดหมู่พฤติกรรมที่ผู้บริโภคที่ควรจะมีที่ช่วยสร้างสังคมที่ยั่งยืน 9 ประการดังนี้ 

Brands for Good

3 พฤติกรรมแรกจะอยู่ในเรื่องของเรื่องของ climate change 

  • Eat more plant เริ่มต้นจากกินผักให้มากขึ้น เพราะการกินผักจะช่วยลดแก๊สมีเทน 
  • Go renewable การใช้พลังงานทดแทน เช่น การเดินทางสามารถเปลี่ยนจากการขึ้นรถเมล์เป็นการขี่จักรยาน หรือเดินแทน
  • Go durable อย่าสิ้นเปลืองทรัพยากรโลก เวลาจะซื้อของอะไรให้ซื้อสิ่งที่ใช้ได้นานๆ ซื้อสิ่งที่ใช้แล้วคุ้มจริงๆ ซึ่งอาจจะ against กับเรื่องการตลาด ที่จะต้องขายให้มาก ซึ่งการทำเช่นนี้ไม่ได้เป็นการบอกให้หยุดขาย แต่ให้ขายแบบมีความรับผิดชอบมากขึ้น 

3 พฤติกรรมต่อมาเกี่ยวกับเรื่องการดูแลทรัพยากร

  • Reduce food and water waste ลดการสูญเสียของอาหาร ลดการใช้น้ำ 
  • Go circular เลือกหาซื้อ Product ที่เป็นรีไซเคิล หรืออะไรที่เช่าได้ก็เช่า อะไรที่แชร์ได้ก็แชร์ อะไรใช้ซ้ำได้ก็ใช้ซ้ำ เท่าที่เป็นไปได้
  • Go simple ไม่ต้องใช้อะไรที่มันยาก เช่น ใช้ครีมที่ไม่ยุ่งยาก ที่ไม่ต้องไปเพิ่มส่วนประกอบมากมายที่หาในชีวิตเดิมไม่ได้แล้ว

3 พฤติกรรมสุดท้ายจะเป็นในเรื่องของสังคม 

  • Expand equity and opportunity การซื้อของหาซื้อสิ่งที่เกี่ยวกับชุมชน ช่วยเหลือชุมชนผู้ประกอบการเล็กๆ เพื่อขยายโอกาสให้เขาได้เติบโต
  • Support woman and girls การช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก ซึ่งในประเทศไทยอาจจะไม่มีปัญหาเรื่องการเอาเปรียบผู้หญิงหรือเด็ก แต่ในส่วนอื่นของโลกเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งถ้าผู้หญิงหรือเด็กมีการสร้างแบรนด์อะไรออกมาก็ควรสนับสนุนเพื่อให้เขาได้มีงานทำ
  • Show up ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเราต้องแสดงออกให้เห็น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 

คำถามที่สาม brand equity : 

equity ของแบรนด์คุณคืออะไร ? ซึ่งสิ่งนี้จะหาคำตอบได้ก็ต่อเมื่อหาคำตอบของสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และสิ่งที่โลกต้องการได้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อธุรกิจสามารถหา 3 สิ่งที่สำคัญนี้ได้เรียบร้อย ต่อมาคือการหาจุดตรงกลาง ซึ่งนำไปสู่การแนวคิดในการทำ marketing campaign ที่จะเป็นตัวช่วยสร้างพฤติกรรมที่จะนำไปสู่ความยั่งยืน และยังคงสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อีกด้วย เนื่องจากเรื่องนี้เป็นกิจกรรมทางด้านการตลาดไม่ใช่กิจกรรมทางด้านสังคม

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่กำลังสร้างแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนสามารถเข้าร่วม Pull Factor workshop เพื่อนำไปสู่การทำการตลาดที่มีความหมายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าใจ purpose ของแบรนด์ได้ดีขึ้น และเมื่อเราลุกขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่ดี เป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตได้ ทาง SB เชื่อว่าเราก็จะสามารถนำพาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีสีสัน อย่างสร้างสรรค์และสนุกสนานได้ในที่สุด


ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Techsauce Live และเว็บไซต์ Techsauce


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึกวิกฤตน้ำกับ TCP เมื่อน้ำกำลังจะกลายเป็นของหายาก

วิกฤตน้ำทั่วโลกส่งผลกระทบหนักต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจ TCP เสนอแนวทางแก้ไขผ่าน Nature-based Solutions และกลยุทธ์บริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจไทยในยุคโลกร้อน...

Responsive image

David Capodilupo จาก MIT Sloan เปิดเหตุผลตั้งสำนักงานในไทย ต้นแบบสู้ Climate Change อาเซียน

David Capodilupo ผู้ช่วยคณบดีด้านโครงการระดับโลกของ MIT Sloan เผยเหตุผลที่สถาบันเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย เพื่อให้ไทยเป็นฮับอาเซียน ในการส่งเสริมการเรียนการสอน การวิจัยพัฒนา การแก้ปั...

Responsive image

SAF เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน อุปสรรค และโอกาสครั้งใหญ่ของไทย ถอดแนวคิด Yap Mun Ching ผู้บริหารด้านความยั่งยืนแห่ง AirAsia

การเดินทางทางอากาศ แม้จะเชื่อมโยงโลกเข้าด้วยกัน แต่ก็สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การลดคาร์บอนจึงเป็นภารกิจสำคัญของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก และเชื้อเพลิงการบินที่...