10 เทรนด์ 2024 จาก Gartner ที่ Technology Provider ต้องจับตา | Techsauce

10 เทรนด์ 2024 จาก Gartner ที่ Technology Provider ต้องจับตา

Gartner เผย 10 เทรนด์ที่ผู้ให้บริการเทคโนโลยี (Technology Provider) ต้องจับตามองในปี 2024 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง 

10 เทรนด์ที่ผู้ให้บริการเทคโนโลยีต้องจับตามองในปี 2024 

A diagram of a company's company's growth 
Description automatically generated

หมายเหตุ: ขนาดวงกลมของแต่ละแนวโน้มแสดงถึงความสัมพัทธ์การหยุดชะงักของแนวโน้มที่กำหนด โดยสัมพันธ์กับแนวโน้มอันดับต้น ๆ อื่น ที่มา: การ์ทเนอร์ (กุมภาพันธ์ 2567)

1. เปลี่ยนจาก Growth At All Costs สู่ Efficient Growth 

ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การใช้จ่ายด้านไอทีเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลกระทบเชิงบวกให้กับบริษัทเทคโนโลยี ทำให้บริษัทเหล่านี้เติบโตได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงต้นทุนโดยรวม หรือใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "Growth At All Costs" ที่ยึดมั่นในแผนผลิตภัณฑ์ องค์กร และการจ้างงาน โดยคาดการณ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง

แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นในหมู่ผู้ซื้อ และยังมีการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเงินลงทุน ที่เปลี่ยนให้นักลงทุนหันไปมุ่งเน้นการเติบโตของผลกำไร นักวิเคราะห์การ์ทเนอร์จึงมองว่าผู้ให้บริการเทคโนโลยีควรให้ความสำคัญกับ การสร้างการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ 

กลยุทธ์การเติบโตที่มีประสิทธิภาพ หรือ Efficient Growth Strategies ตอกย้ำถึงคุณค่าการเติบโตในรูปแบบผลกำไรในปัจจุบันที่แข็งแกร่งพร้อมมอบโอกาสสร้างรายได้ใหม่ๆ ในอนาคต

2. ความสัมพันธ์ใหม่ของผู้ให้บริการไอทีระดับองค์กร 

ความต้องการทางธุรกิจและทางเทคนิคที่เพิ่มขึ้นทำให้องค์กรไอทีต้องขยายการให้บริการที่มากขึ้น ลึกขึ้นและมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะลดทอนความสามารถองค์กร สิ่งนี้ส่งผลต่อผู้บริหารด้านผลิตภัณฑ์ของบริษัทเทคโนโลยีในการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ และโอกาสในการสร้างรายได้ทั่วทั้งองค์กร ซึ่งรวมถึงการขยายบทบาทของผู้ให้บริการที่เพิ่มขึ้นภายในองค์กรไอทีและส่วนงานธุรกิจ อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการและองค์กรที่มุ่งเน้นผลลัพธ์เป็นหลัก และความสัมพันธ์ระดับ Tier 1 ทั่วองค์กร

3. ธุรกิจเพื่อความยั่งยืนจะเติบโตยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมาความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและการจัดการผลกระทบด้าน ESG (Environment Social Governance) ในองค์กร เน้นให้ความสำคัญอยู่ด้านเดียว เพื่อลดความเสี่ยงภายในองค์กร และเป็นการปฏิบัติไปตามข้อกำหนดเท่านั้น จากนี้ผู้บริหารด้านผลิตภัณฑ์ต้องปรับเปลี่ยน โดยให้ความสำคัญเป็นสองเท่าและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเกิดใหม่แบบองค์รวมเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน

4. การใช้ AI ต้องปลอดภัย และใช้อย่างรับผิดชอบ 

การพัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของเทคโนโลยี GenAI กระตุ้นให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงและวิธีการจัดการกับปัญหาที่เพิ่มขึ้น อาทิ แหล่งที่มาของคอนเทนต์ที่ AI สร้าง และปัญหา AI เกิดภาพหลอน (สร้างเนื้อหาเท็จออกมา) 

ผู้บริหารผลิตภัณฑ์จะต้องสร้างโซลูชันที่รวมหลักการด้านความปลอดภัยโดยเน้นไปที่ความโปร่งใสของโมเดล ความสามารถในการตรวจสอบแบบย้อนกลับ การตีความและสามารถอธิบายได้ รวมถึงการยอมรับประเด็นด้านกฎระเบียบและการปฏิบัติตามกฎที่จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาด GenAI ด้วยการสร้างความไว้ใจให้คนใช้งาน 

5. กลยุทธ์การขายและการตลาดที่ล้าสมัย กินใจคนซื้อไม่ได้ 

ช่วงสามปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสังเกตเห็นผลกระทบเชิงลบในช่องทางการขายมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ซื้อรายใหม่ ๆ ขัดแย้งกับโมเดลการเข้าสู่ตลาด หรือ Go-To-Market (GTM) ที่ล้าสมัย หากไม่มีการปรับแนวทางการขายและการตลาดเพื่อตรวจจับและตอบสนองต่อการมองโลกในแง่ร้ายของผู้ซื้อ บริษัทเทคโนโลยีจะมองเห็นการดำเนินงานโมเดล GTM ของตนเองลดลงทั้งจากมุมมองภายในและภายนอก

6. สร้างโมเดล AI ที่มีความรู้เฉพาะเจาะจง 

แม้ว่าโมเดลสำหรับใช้งานทั่วไปของ AI จะทำงานได้ดีกับชุดแอปพลิเคชัน GenAI ที่หลากหลาย แต่ก็อาจใช้ไม่ได้กับเคสการใช้งานในระดับองค์กรจำนวนมากที่ต้องใช้ข้อมูลโดเมนเฉพาะ 

ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีจะต้องสำรวจโมเดลที่มุ่งเน้นด้านอุตสาหกรรม ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้เฉพาะโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทฯ ที่ไม่ทำเช่นนั้นจะเผชิญกับต้นทุนเพิ่มขึ้นและความซับซ้อนในการสร้างสรรค์ และการใช้ประสิทธิภาพจากโมเดล AI  

7. สร้างประสบการณ์ด้านการตลาดส่วนบุคคล 

เทรนด์การใช้งานมาร์เก็ตเพลสดิจิทัลที่มีความเฉพาะกลุ่มและพิเศษกำลังเกิดขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อจัดการกับความซับซ้อนด้านการจัดหา นำไปใช้ และผสมผสานโซลูชัน โดยการ์ทเนอร์คาดการณ์ไว้ว่า ในปี 2568 การโต้ตอบการขายระหว่างซัพพลายเออร์และผู้ซื้อราว 80% จะเกิดขึ้นผ่านช่องทางดิจิทัล

Technology Provider ที่ไม่เสนอบริการผ่านมาร์เก็ตเพลสดิจิทัลแบบเฉพาะบุคคลจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการค้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตน 

8. อุตสาหกรรรมคลาวด์ช่วยเพิ่มการเติบโต 

ผู้ให้บริการ ไฮเปอร์สเกลเลอร์ ผู้ขายซอฟต์แวร์อิสระ (ISV) และ SaaS กำลังหันมาใช้โซลูชันเฉพาะเพื่อส่งมอบผลลัพธ์ของลูกค้าที่จะขับเคลื่อนการเติบโตให้แก่บริษัท การ์ทเนอร์คาดว่า ภายในปี 2570 ผู้ให้บริการเทคโนโลยีมากกว่า 50% จะใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อุตสาหกรรมเพื่อมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจ เพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2566 ที่มีน้อยกว่า 5%

9. PLG และ Value Converge สำหรับ Hybrid GTM

การเติบโตที่นำโดยผลิตภัณฑ์ หรือ Product-led-growth (PLG) มุ่งเน้นไปที่การแสดงคุณค่าต่อผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ สร้างสัญญาณความตั้งใจที่ทีม GTM สามารถใช้กับผู้ซื้อกลุ่มใหม่ ๆ ได้ แต่บริษัทส่วนใหญ่ที่ใช้ PLG GTM เริ่มตระหนักว่า ในกรณีส่วนใหญ่ การเคลื่อนไหว GTM แบบบริการตนเอง 100% นั้นไม่สามารถเชื่อถือได้ เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผู้ขายจะต้องมีส่วนร่วมในการแปลงข้อตกลง ผู้ซื้อต้องการมูลค่าทางธุรกิจและผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ สำหรับเริ่มธุรกิจใหม่หรือการขยายธุรกิจที่มีอยู่ เพื่อผสมผสานกลยุทธ์ PLG เข้ากับการจัดการคุณค่าพร้อมริเริ่มโครงการด้วยกลยุทธ์ GTM แบบไฮบริด 

10. การตลาดและการขายที่แม่นยำ 

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว อาทิ GenAI การซื้อผ่านดิจิทัล และเมตาเวิร์สกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ให้บริการเทคโนโลยีทำการตลาดและขายเทคโนโลยี โดยผู้ให้บริการที่ล้มเหลวในการนำแนวทางใหม่มาใช้จะเผชิญกับดีลที่มีคุณภาพโดยรวมลดลง รวมถึงสูญเสียความเกี่ยวข้องและการเติบโตที่จำกัดอยู่ภายในบัญชีที่จัดตั้งขึ้น

มร.เอริค ฮันเตอร์ รองประธานบริหารของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ผู้ให้บริการเทคโนโลยีแทบทุกรายต่างวาง Generative AI หรือ GenAI ไว้เป็นวาระสำคัญทางด้านเทคนิคและผลิตภัณฑ์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนการวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการเติบโตของผู้ให้บริการ ไปจนถึงการใช้เป็นเครื่องมือในชีวิตประจำวันของผู้ร่วมงาน แม้ GenAI จะมีศักยภาพต่อการปรับเปลี่ยนของผู้ให้บริการ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลที่ผู้นำเทคโนโลยีต้องเผชิญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีจุดที่สร้างความท้าทายใหม่ ๆ อยู่ในแผนการเติบโต อาทิ ประเด็นการหลอมรวมด้านการตลาดและการขาย รวมถึงปัจจัยด้านความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ที่เปิดกว้างต่อผู้ให้บริการเทคโนโลยี”

ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีและในระยะยาวของปัญหาเหล่านี้ทำให้ผู้บริหารที่ดูแลผลิตภัณฑ์ต้องสร้างสมดุลระหว่างโอกาสระยะสั้นและความได้เปรียบระยะยาว รวมถึงกำหนดกลยุทธ์ที่มีพื้นฐานมาจากการฟื้นตัวหรือภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ การ์ทเนอร์ได้รวบรวมแนวโน้มสำคัญในปี 2567 ที่สะท้อนปัจจัยทั้งสองนี้ (ดูภาพที่ 1)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สองวิธีเรียกคืนอำนาจบริหารจากบริษัทตัวเอง ถกประเด็นน่ารู้จากซีรีส์ Queen of tears

เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร ...

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...