สรุปดราม่าตลอดปี 2018 ของ Facebook หรือนี่คือจุดจบของ Mark Zuckerberg

สรุปดราม่าตลอดปี 2018 ของ Facebook หรือนี่คือจุดจบของ Mark Zuckerberg

  • ลำดับเหตุการณ์ปัญหาของ Facebook ตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2018
  • รวบรวมกระแสวิพากวิจารณ์จากองค์กรภายนอกและผู้ใช้งาน
  • เกาะติดประเด็นหลักที่ Facebook เผชิญ ' Cambridge Analytica' 

เรียกว่าเป็นประเด็นเดือดของวงการ Social media เมื่อในต้นปีที่ผ่านมาหลังจากที่ Mark Zuckerberg ได้ออกมายอมรับว่าข้อมูลของผู้ใช้งาน Facebook ได้เกิดการรั่วไหลโดย Cambridge Analytica ซึ่งเป็นบริษัททำการวิจัยที่มีความสามารถโดดเด่นในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลทางจิตวิทยา โดยมีจุดประสงค์ในการนำข้อมูลไปใช้ในทางการเมือง เช่น การหาเสียงในการเลือกตั้งให้กับผู้นำของสหรัฐหลากหลายท่าน จากเหตุการณ์นั้นเองส่งผลให้ Facebook ประสบปัญหาติดต่อกันอย่างยาวนาน

2013Aleksandr Kogan หนึ่งในทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cambridge ได้ดึงข้อมูลผู้ใช้งานของ Facebook นับ 300,000 รายและข้อมูลของเพื่อนๆ ผู้ใช้งานจากการสร้างแอปฯ ทายลักษณะบุคลิกภาพให้ผู้ใช้งานผ่าน Facebook

2014 - หลังทราบข่าว Facebook เข้มงวดกับมาตราการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานมากขึ้น และระวังการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานจากแอปฯ ลักษณะใกล้เคียงกับของ Kogan นอกจากนี้ยังได้ระงับการใช้งานแอปฯ ของ Aleksandr Kogan

2015 - ต่อมามีการรายงานจากสื่อหลายสำนักว่า  Aleksandr Kogan ได้ทำการส่งต่อข้อมูลไปยัง Cambridge Analytica ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายเผยแพร่ข้อมูลของผู้ใช้งานของ Facebook จึงเริ่มดำเนินการไปยัง Aleksandr Kogan และ Cambridge Analytica ให้ยุติการใช้ข้อมูล หลังจากนั้นมีข่าวว่าข้อมูลของผู้ใช้งานถูก Cambridge Analytica นำไปใช้ในการสมัครเลือกตั้งของ Donald Trump ในปี 2016

ม.ค. 2018

  • Facebook สู้ข่าวปลอมด้วยการปรับลดโฆษณาจากบริษัทและผู้ประกอบการออกจาก 5% เหลือ 4% ปรับปรุง News feed ให้้ผู้ใช้สามารถจัดการกับความน่าเชื่อถือได้
  • Facebook ตัดสินใจลด Reach ของ News feed การโฆษณาและโพสต์ของเพจต่างๆลงเนื่องจากทำให้ผู้คนพบเห็นข้อมูลการแชร์ของคนใกล้ตัวน้อยลง
  • เผยตัวเลขผลประกอบการในปี 2017 เป็นที่น่าพึงพอใจและเติบโตขึ้นอย่างมากแต่เวลาการใช้งานแอพฯลดลงถึง 50 ล้านชั่วโมงต่อวันจากการปรับเปลี่ยน News feed ในช่วงที่ผ่านมา

มี.ค. 2018

  • Facebook ประสบปัญหาข่าวลือยาวนับสัปดาห์เกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยในการใช้งาน Facebook จนเกิด #deletefacebook จากสื่อหลายสำนัก
  • Facebook กระทบหนักหุ้นตกเกือบ 7% หลังเหตุการณ์มีเหตุการณ์ Cambridge Analytica นำข้อมูลผู้ใช้งานไปใช้ หรือประมาณ 3.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  • Facebook โดนปรับ 369,705 เหรียญสหรัฐเหตุทำการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตช้าลง 4.5 เท่า
  • Mark zuckerberg ชี้แจงเหตุ Cambridge Analytica นำข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนไปใช้
  • Facebook ชี้แจงและขอโทษผู้ใช้งานผ่านสื่อต่างๆ

เม.ย 2018

  • Facebook เปิดเผยว่า Cambridge Analytica ได้เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งาน Facebook ถึง 87 ล้านคน

พ.ค. 2018

  • ประเทศปาปัวนิวกีนีเตรียมพิจาราณางดใช้ Facebook ในประเทศเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยบนโลกออนไลน์
  • Facebook ปรับบอร์ดบริหารครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี โดย Mark Zuckerberg ยังคงนั่งเป็น CEO ของ Facebook ดูภาพรวมของทั้งองค์กรอยู่ดังเดิม แต่มีการปรับโครงสร้างองค์กรโดยแบ่งออกเป็น 3 ทีมใหญ่ ได้แก่ ทีม Family of Apps, ทีม New Platforms and Infrastructure และทีม Central Product Services มี David Marcus ที่เดิมเป็นหัวหน้าทีม Messenger ย้ายไปรับผิดชอบงานด้านเทคโนโลยี Blockchain ด้วย

มิ.ย. 2018

  • กระแส New York Time โจมตี Facebook กรณีความปลอดภัยของผู้ใช้งาน แต่ Facebook ได้ออกมาโต้แย้ง
  • Facebook เกิด Bug ทำให้โพสต์ของผู้ใช้งานนับ 14 ล้านคนเป็นโพสต์สาธารณะ

ก.ค. 2018

  • Facebook หุ้นตกหนักถึง 20% กรณีผู้ใช้งานลดลงจากเหตุการณ์ Cambridge Analytica

ก.ย. 2018

  • ผู้ก่อตั้ง Instagram ลาออกจาก Facebook คาดเกิดจากปมขัดแย้งแนวทางการทำงาน

ต.ค. 2018

  • เหล่านักลงทุนต้องการให้ Mark Zuckerberg ออกจากตำแหน่งบอร์ดผู้บริหาร Facebook จากสาเหตุการบริหารและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

พ.ย. 2018

  • ผู้ใช้งาน Facebook 81,000 บัญชีถูกแฮกข้อมูลส่วนตัวและนำไปใช้ทางธุรกิจ

ธ.ค. 2018

นี่คือเหตุการณ์ดราม่าที่เกิดขึ้นทั้งหมดของ Facebook เราคงต้องมาลุ้นกันว่าปีหน้า Facebook จะสามารถกลับมายืนหยัดอย่างเข้มแข็งอีกครั้งหรือ Facebook จะยังต้องกัดฟันสู้กับสารพัดปัญหาอย่างไม่ขาดสายต่อไปเรื่อยๆ Mark zuckerberg จะพาบริษัทของเขาเดินหน้าไปในทิศทางใด เรามาติดตามกันต่อไป

 

อ้างอิง BBC1, BBC2, BBC3, BBC4, Fortune, Techcrunch1Techcrunch2TheStreet, CNBC1, CNBC2, CNBC3, NBCNews1, Time, REUTERS, THEVERGE, skynews, TheNewYorkTime, Techspot, TheStandard , WIRED, TheGuardian1TheGuardian2,  CNN,

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...

Responsive image

กระทรวง AI : เมื่อ AI อันตรายเกินกว่าจะปล่อยไว้ โลกเร่งออกกฎควบคุม

AI กลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกควบคุมด้วยกฎหมาย และต้องถูกจับตาดูโดยหน่วยงานของรัฐบาลอย่าง ‘กระทรวง AI’ ที่มีอำนาจ และความสำคัญไม่แพ้หน่วยงานอื่น ๆ แต่ทำไม AI ต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาล ? กร...