รู้จัก 6 ระดับ ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ส่องรายใหญ่อยู่ระดับไหนบ้าง | Techsauce

รู้จัก 6 ระดับ ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ส่องรายใหญ่อยู่ระดับไหนบ้าง

เราอาจเคยได้เห็นภาพจินตนาการของรถยนต์ไร้คนขับจากภาพยนตร์แนวไซไฟ การ์ตูนแห่งโลกอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนนั่งสามารถสั่งการได้ด้วยระบบผู้ช่วยเสมือนอัจฉริยะให้ขับไปยังที่ต่าง ๆ ในตอนนั้นเองมองว่ารถยนต์ประเภทนี้เหมือนของวิเศษที่เหลือเชื่อ จนกระทั่งการมาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมนี่เอง ได้เสกสรรเรื่องราวในจินตนาการให้ค่อย ๆ เป็นจริงขึ้นมา ทุกวันนี้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติถูกพัฒนาไปไกลกว่าที่คิด เราได้เห็นรถยนต์หลากหลายรุ่นออกมา และคนในประเทศต่าง ๆ เริ่มใช้งานมากขึ้น 

อย่างไรก็ดี นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการพัฒนา มาดูกันดีกว่าว่า เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้จะไปได้สุดถึงการไม่มีคนขับเลยได้หรือไม่ และตอนนี้บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่อยู่จุดไหนกันแล้วบ้าง โดย SAE International (Society of Automotive Engineers) องค์กรดูแลมาตรฐานด้านวิศวกรรมเกี่ยวกับการขนส่งได้จำแนกขีดความสามารถของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไว้ 6 ระดับ โดยสามอันดับแรก ผู้ขับยังต้องควบคุมตัวรถยนต์อยู่ แต่ทว่าตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไปนั้น รถยนต์สามารถขับเคลื่อนเองได้อัตโนมัติ 

ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

  1. ระดับ 0 No Automation - รถยนต์ไม่มีคุณสมบัติที่คอยอำนวยความสะดวกสบายในการขับรถ อาจจะมีเพียงระบบที่คอยช่วยเหลือคนขับในกรณีฉุกเฉิน เช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ที่จะช่วยเตือนการชนรถ ส่วนนี้จะพบได้ในรถยนต์ทั่วไปที่มีราคาสูง

  2. ระดับ 1 Driver Assistance - รถยนต์จะใช้เซนเซอร์และกล้องในการควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะทางอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ควบคุมความเร็วรถไม่ให้ใกล้กับคันก่อนหน้าจนเกินไป โดยจะพบได้ในรถยนต์ของ Mercedes-Benz ในทศวรรษที่ 1990 ภายหลังในทศวรรษที่ 2000 Honda ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ได้พัฒนาเทคโนโลยีควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในเลนถนน (Lane Keep Assistant) 

  3. ระดับ 2 Partial Automation - เป็นขีดความสามารถที่ปรากฎอยู่ในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติยุคปัจจุบัน มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีระดับที่ 1 เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งควบคุมระยะทางอัตโนมัติ และควบคุมเส้นทางการเดินของรถให้อยู่ในเลน ทั้งนี้ เทคโนโลยี ADAS จะพบได้ในระบบ Autopilotของ Tesla และ ระบบ Cadillac Cruise ของ General Motor

  4. ระดับ 3 Conditional Automation -  ครั้งนี้รถยนต์เคลื่อนที่เองได้ในระยะไกล สามารถควบคุมการเลี้ยว เร่งความเร็วและลดความเร็วได้ตามสถานการณ์ โดยอาศัยเรดาร์ เซนเซอร์ และข้อมูลจากสภาพแวดล้อมภายนอกมาประมวลผลและตัดสินใจทันที แต่ถ้าหากคนนั่งเผชิญเหตุการณ์ที่ซับซ้อนและเสี่ยงอันตราย ก็สามารถกลับมาควบคุมพวงมาลัยตามเดิมได้ บริษัทที่พัฒนาประสิทธิภาพรถยนต์ให้ได้ระดับ 3 คือ Audi บริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ซึ่งปรากฎในรุ่น A8 (2018) Audi ได้เผยว่าใช้หน่วยประมวลผลจาก Intel เพื่อสร้างระบบรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง

  5. ระดับ 4 High Automation - รถยนต์ขับเคลื่อนเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถควบคุมความเร็ว การเลี้ยวในทางที่คดเคี้ยวมากขึ้น เร่งความเร็ว และสามารถรับรู้เหตุการณ์ไม่ปกติและป้องกันได้อย่างทันท่วงที เช่น มีคนเดินตัดหน้ารถ หรือมีรถคันอื่นวิ่งย้อนศร อย่างไรก็ดี รถยนต์ระดับนี้ยังทำได้ในพื้นที่ที่จำกัด เช่นสภาพแวดล้อมในเมืองที่กำหนดความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 30 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บริษัทที่ผลิตรถยนต์ระดับที่ 4 จึงเป็นไปเพื่อบริการร่วมโดยสาร (Ridesharing)  ตัวอย่างเช่น Waymo บริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับภายใต้ Google และ Alphabet ได้เปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา และไม่นานมานี้ Volvo ได้จับมือกับ Baidu เพื่อร่วมลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับระดับที่ 4 มาใช้ในตลาดรถยนต์แท็กซี่ไร้คนขับในจีน คาดการณ์ว่าจะส่งมอบรถในปี 2021 นี้ 

  6.  ระดับ 5 Full Automation - รถยนต์ขับเคลื่อนเองอย่างสมบูรณ์ ห้องโดยสารจะไม่มีพวงมาลัยไว้ในการควบคุม ในส่วนนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา คาดการณ์ว่าหากบริษัทส่วนใหญ่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับระดับที่ 4 ได้เสร็จสมบูรณ์เมื่อไร ระดับที่ 5 ก็จะตามมาในอีกไม่นาน 

อนาคตของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ 

แน่นอนว่าเจ้าใหญ่ในวงการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติทั้ง Tesla, Mercedes-Benz, General Motors, BMW, หรือ Apple เองอาจจะออกรถยนต์ไร้คนขับประสิทธิภาพสูงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ต่อให้มีกล้องและเรดาร์เพื่อควบคุมการขับเคลื่อนอย่างดีเพียงใด ก็ยังมีข้อกังวลด้านความปลอดภัยจากหลายฝ่าย เพราะรถยนต์เหล่านี้ผ่านสนามมาน้อยเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป คนขับยังคงต้องให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนน นอกจากนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับยังคงต้องรอการอนุมัติจากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ถึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ 

อ้างอิงจาก CAR Magazine

 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เปิดกลยุทธ์ธุรกิจยุคใหม่ พลิกข้อมูล สู่ขุมทรัพย์ด้วย analyticX ด้วยพลัง Telco Data Insights และ GenAI

ยุคนี้ใคร ๆ ก็พูดถึง Data แต่จะใช้ Data อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากคือกุญแจสำคัญ! ในสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "Unlocking Data-Driven Decisions with Telecom Data Insights" ที่จั...

Responsive image

‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ด้านความยั่งยืน หนุน SMEs เปลี่ยน Vision เป็น Action

บทสัมภาษณ์ คุณอัมพร ทรัพย์จินดาวงศ์ และคุณพณิตตรา เวชชาชีวะ เกี่ยวกับ ‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ที่เข้ามาช่วย SMEs เริ่มดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างเข้าใจและไม...

Responsive image

Intel พลาดอะไรไป ? ทำไมถึงต้องเปลี่ยน CEO กะทันหัน ? ถอดบทเรียนราคาแพงจากยุค Pat Gensinger

การ ‘เกษียณ’ อย่างกะทันหันของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโอ Intel ในต้นเดือนธันวาคม สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการเทคโนโลยี หลายฝ่ายมองว่าเป็นการบีบให้ออกจากบอร์ดบริหาร อันเนื่องมาจากผล...