การเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐาน (Financial Inclusion) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นได้เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคน ลดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่ง จากผลสำรวจของ The Global Economy ในปี 2017 พบว่ากว่าครึ่งหนึ่งในภูมิภาคแทบไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ แม้แต่การสมัครบัญชีเงินฝาก โดยเฉพาะในกัมพูชาและพม่าที่สัดส่วนของผู้ถือบัญชีเงินฝากทั้งหมดอยู่ที่ 17.80% และ 25.61% ตามลำดับ
Ascend Money จึงผุดไอเดียเพื่อมาแก้ pain-point ต้องการผลักดันให้คนเข้าถึงการเงินได้ง่ายทุกที่ ทุกเวลา เพียงใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเท่านั้น จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ ของไทยที่มีชื่อคุ้นหูกันดีนั่นก็คือ TrueMoney Wallet
จากนวัตกรรมดังกล่าวที่ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญต่อวงการการเงินในไทย และขยายธุรกิจเพื่ออำนวยความสะดวกโดยมอบโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันชาวอาเซียนในทุกมิติ ทำความรู้จักกับ Ascend Money และเส้นทางธุรกิจตลอดระยะเวลา 8 ปี กว่าจะเป็น FinTech Company ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Ascend Money ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 เดิมเป็น Business Venture ในทรู ก่อนที่จะ spin off มาเป็นหนึ่งธุรกิจในแอสเซนด์ กรุ๊ป ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ในปีถัดมา Ascend Money เล็งเห็นโอกาสในการทำ Digital Payment เนื่องจากในช่วงเวลานั้น ตัวเลือกการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมีน้อยมาก และส่วนใหญ่คนจะพึ่งพาสถาบันการเงินดั้งเดิมเป็นหลัก แต่ถึงกระนั้นเอง กลุ่มสถาบันการเงินดังกล่าวก็มีจุดบริการได้ไม่ทั่วถึง และทำธุรกรรมได้ในเวลาจำกัด ส่งผลให้หลายคนต้องเสียโอกาสในการเข้าถึงการเงิน และต้องพึ่งการเงินนอกระบบที่ไม่ได้รับประกันความปลอดภัยเท่าไรนัก
ด้วยเหตุนี้ Ascend Money ได้พัฒนา Digital Payment Platform ที่มาอุดช่องโหว่ทางการเงิน โดยมีข้อดีก็คือมีโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวก็ทำธุรกรรมได้หลากหลายโดยไม่ต้องสัมผัสเงินสด (Cashless Payment) ตัวอย่างเช่น จ่ายค่าสินค้าและบริการ จ่ายค่าโดยสาร และบิลอื่น ๆ อีกทั้งรับประกันความปลอดภัยผ่านการยืนยันตัวตน ออกมาเป็น TrueMoney Wallet ผลิตภัณฑ์การชำระเงินออนไลน์ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ก็คือสามารถใช้จ่ายแทนเงินสดกับร้านค้าต่าง ๆ รวมไปถึงเติมเงินในชีวิตประจำวัน อาทิ โดยสาร ค่าโทรศัพท์ แม้ว่าแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet รุ่น 1.0 จะมีผู้ใช้งานในไทย 5,000 รายในปีแรก แต่ตัวบริการสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี จึงได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดและเติบโตแบบ hypergrowth จนมีผู้ใช้หลายล้านในเพียง 3-4 ปีถัดมา
ในช่วงเริ่มต้น Ascend Money ให้ความสำคัญว่า บริการทางการเงินต้องเข้าถึงง่ายและสะดวกสบาย จึงเร่งพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินให้ครอบคลุมการใช้จ่ายในทุก ๆ ด้าน อาทิ Wecard, P2P, Mobile Top-up และต่อมาเจาะกลุ่มผู้ใช้งานไปที่ร้านค้าสะดวกซื้อในเครือซีพีอย่าง 7-Eleven ที่มีสาขากว้างขวางทั่วทุกภูมิภาค ให้บริการของ TrueMoney Wallet เป็นอีกตัวเลือกของการใช้จ่าย นอกจากนี้ อีกกลยุทธ์หนึ่งของ Ascend Money คือการเข้าถึงพาร์ทเนอร์ผู้ค้าและผู้ประกอบการรายย่อยให้ได้มากที่สุด ซึ่งรวมถึงร้านค้าออฟไลน์และออนไลน์กว่า 200,000 จุด โดยจุดสำคัญที่ทำให้ TrueMoney Wallet เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดก็คือการได้รับการสนับสนุนด้านเครือข่าย ecosystem จากเครือเจริญโภคภัณฑ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจาก Ant Financial ที่เข้ามาลงทุนร่วมกับทางเครือตั้งแต่ปี 2016
จากประเทศไทย มองไกลไปยังอาเซียน Ascend Money ได้วิเคราะห์ว่า จุดร่วมที่คนไทยและประเทศสมาชิกในภูมิภาคมีต่อปัญหาด้านการเงินก็คือ การไม่มีบัญชีธนาคาร อาศัยช่องทางการส่งเงินนอกระบบที่คิดค่าธรรมเนียมสูง และไม่มีหลักประกันรองรับว่าผู้ใช้จะได้รับเงินตามจริง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทางการเงินทั้งภูมิภาค บริษัทฯ จึงค่อย ๆ ขยายธุรกิจไปประเทศต่าง ๆ เริ่มจากเมียนมาร์ในปี 2557 อินโดนีเซียและกัมพูชาในปี 2558 เวียดนามกับฟิลิปปินส์ในปี 2559 ตามลำดับ โดยเริ่มจากการรับสมัครผู้ประกอบการรายย่อย เช่น เจ้าของร้านโชห่วย หรือร้านค้าในชุมชน เพื่อมาเป็น TrueMoney Agent หรือตัวแทนรับชำระที่ใกล้เคียงกับเคาท์เตอร์บริการ ซึ่งจะมาช่วยรับเติมเงินมือถือ หรือจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคตามที่ลูกค้าต้องการ ทำให้สะดวกเพราะเป็นร้านค้าในท้องถิ่นที่เข้าถึงง่าย รวมไปถึงการเปิดให้บริการ TrueMoney Wallet ในหลายประเทศ ซึ่งผลตอบรับล้วนน่าพึงพอใจ ปัจจุบัน ผู้ใช้งาน TrueMoney ก้าวกระโดดที่ 50 ล้านรายทั่วภูมิภาค ปริมาณการทำธุรกรรม (TPV) สูงกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีตัวแทน TrueMoney Agents กว่า 88,000 รายทั่วภูมิภาค
ควบคู่ไปกับการขยายตัวทางธุรกิจ แอสเซนด์ มันนี่ ยังได้ขยายบริการทางการเงินแบบดิจิทัลบน TrueMoney Wallet เพิ่มเติม เช่น เงินกู้ บริการฝากเงิน ประกันภัย และการลงทุน โดยเฉพาะการช่วยเหลือให้คนที่ไม่มีรายได้ประจำและธุรกิจรายย่อยที่ไม่มี Credit Scoring เข้าถึงแหล่งเงินทุนและสร้างความมั่นคงทางการเงินได้
จนถึงปี 2564 นับได้ว่าประจวบครบ 8 ปีพอดีที่ Ascend Money ได้อยู่คู่กับคนไทยและอาเซียน และมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงชีวิตและวิถีการใช้จ่ายกว่าหลายล้านคนให้ดีขึ้น แต่ Ascend Money ยังคงเดินหน้าเร่งเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง และต้องการเป็นผู้นำการขับเคลื่อนให้สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) และบริการทางการเงินให้ทุกคน จึงนำมาสู่การเปิดระดมทุนเพื่อขยายแพลตฟอร์มแห่งโอกาส และได้ระดมทุนรอบล่าสุดเป็นจำนวนเงินกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแรงสนับสนุนมาจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ Ant Group โดยมีนักลงทุนรายใหม่ Bow Wave Capital มาร่วมด้วย ซึ่งทำให้บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ มีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แน่นอนว่า การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยต่อยอดการเดินทางให้กับธุรกิจ ในการขยายแพลตฟอร์มและบริการทางการเงินที่หลากหลายและเข้าถึงคนอีกหลายล้านที่เหลือในภูมิภาค ซึ่งจะตอกย้ำ Ascend Money ในฐานะ Fintech Company สัญชาติไทยในเวทีระดับภูมิภาคได้อย่างเต็มภาคภูมิ
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด