หนึ่งในปัจจัยหลักต่อการเติบโตสำหรับ Ecosystem ของ Startup ไทย คือบทบาทของบรรดา Accelerator พี่เลี้ยงคนสำคัญของ Startup ที่จัดตั้งขึ้นโดยหลายๆ องค์กรในตลอดหลายปีที่ผ่านมา คอยช่วยเหลือ Startup ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะให้ความรู้ที่จำเป็น โอกาสในการสร้างคอนเน็คชั่น หรือการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จะช่วยให้ Startup สามารถ Scale ได้อย่างก้าวกระโดด
ในไทยเองโดยภาพรวมแล้วยุคแรกๆ ของ Accelerator การจัดโปรแกรมจะค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับ Startup หลากหลาย Industry ซึ่งยังมีข้อกำจัดหลายๆ อย่างทั้งสำหรับตัว Startup และ Accelerator เอง กล่าวอย่างง่ายคือเมื่อโปรแกรมมีการเปิดกว้างมาก สิ่งที่ Startup จะได้จากโครงการก็อาจจะไม่ตรงจุดโฟกัสในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ลึกมากพอ ขณะที่ทาง Accelerator เองก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์โครงการที่ตรงตามเป้าหมายมากนัก
แต่หากมองออกไปในทิศทางของ Ecosystem ในต่างประเทศที่เติบโตและแข็งแกร่งกว่าในบ้านเรา จะเห็นภาพว่า Accelerator ในประเทศเหล่านั้นจะคิดบนฐานว่า ‘ไม่มีใครเก่งและเชี่ยวชาญไปเสียทุกเรื่อง’ จึงเลือกเจาะจงไปที่ความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง เน้นลงลึกไปใน Industry นั้นๆ เช่น Accelerator ที่เน้นสาย Deep Tech, Health Tech หรือ Agriculture Tech เป็นต้น ซึ่งจุดเด่นของ Accelerator รูปแบบนี้คือการที่โฟกัสของโปรแกรมมีความชัดเจนสำหรับ Startup ที่มาเข้าร่วม โอกาสในการเจอ Mentor หรือคอนเน็คชั่นทางธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มมีเทรนด์แบบนี้เข้ามาเปลี่ยนแปลง Accelerator ในไทย
แต่หากมองออกไปในทิศทางของ Ecosystem ในต่างประเทศที่เติบโตและแข็งแกร่งกว่าในบ้านเรา จะเห็นภาพว่า Accelerator ในประเทศเหล่านั้นจะคิดบนฐานว่า ‘ไม่มีใครเก่งและเชี่ยวชาญไปเสียทุกเรื่อง’ จึงเลือกเจาะจงไปที่ความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง
ด้วยความที่โปรแกรมมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้กิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในโปรแกรมเองก็ต้องมีโฟกัสที่ชัดเจนขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน
Accelerator กับหน้าที่ให้การเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับ Startup เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆ ความรู้ที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จไปจนถึงการ Scale ได้อย่างรวดเร็วนั้นมีองค์ประกอบที่ผู้ประกอบการต้องเข้าใจแก่นแท้อยู่ไม่น้อย และคำถามสำคัญคือโปรแกรมเทรนนิ่งจะถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นได้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน สิ่งที่ Startup ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับนั้นตรงจุดและสัมผัสจับต้องได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นกิจกรรมเทรนนิ่งที่น่าสนใจในปัจจุบันจึงเน้นไปที่การ ‘เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง’ มากขึ้น และต้องเชื่อมโยงกับการออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมกับ Startup นั้นๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเข้าใจและเรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้งโดยอาศัยกิจกรรมเป็นเครื่องมือสร้างประสบการณ์เสมือนจริงซึ่งจะนำมาไปสู่ผลลัพธ์ที่จับต้องได้มากกว่านั่นเอง
การมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่าง Startup ในโครงการที่อยู่ใน Industry ที่เกี่ยวข้องกัน โดยที่แต่ละ Startup ก็มีความสามารถและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป การได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันเป็นทีม แลกเปลี่ยนความคิด เต็มไปด้วยโอกาสที่จะพบเพื่อนร่วมทีมที่อาจกลายเป็นพันธมิตรในการทำสิ่งต่างๆ ร่วมกันได้ในระยะยาว ซึ่งการมีพาร์ทเนอร์ที่สามารถแชร์จุดแข็งและเติมเต็มกันและกัน เป็นปัจจัยสำคัญที่จะต่อยอดไปเป็นการร่วมมือสู่ความสำเร็จในอนาคต
Mentor ที่เชี่ยวชาญใน Industry นั้นๆ ก็จะช่วยเปิดให้เห็นการเรียนรู้ได้ลึกและกว้างขึ้น ช่วยให้ Startup ยืนอยู่บนจุดแข็งของตัวเองเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่สร้างความแตกต่างในการแข่งขันทางธุรกิจ ค้นพบและรู้จักกับศักยภาพเฉพาะตัวให้มากขึ้น ไปจนถึงคำแนะนำวิธีในการพัฒนาจุดแข็งให้ทรงประสิทธิภาพ ตระหนักถึงจุดอ่อนที่พึงระวัง พร้อมเรียนรู้ทัศนคติสำคัญซึ่งเป็นกุญแจของ Founder ที่ประสบความสำเร็จ
สำหรับ Startup ที่กำลังมองหาโปรแกรม Accelerator รูปแบบใหม่ ตอนนี้บริษัท I.P. Trading เจ้าของผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของผู้คนมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อย่าง Vixol, Hygiene, Dance และ Focus ร่วมกับ HUBBA Thailand จัดโครงการ Startup Accelerator เฟ้นหา Startup ที่มีความหลงใหลในนวัตกรรม มีไอเดียและความสามารถมาเข้าร่วมในโครงการที่มีชื่อว่า HUBBA Accelerator Powered by I.P. Trading เพื่อต่อยอดไปสู่ความร่วมมือในระยะยาว และส่งมอบนวัตกรรมใหม่ๆ ออกไปพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้โจทย์ 3 ข้อ HASSLE FREE HOME CARE นวัตกรรมที่ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น PERSONAL WELLNESS พัฒนาความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีขึ้น ด้วยโซลูชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม CONSUMER BRANDS EXPERIENCE เชื่อมแบรนด์กับผู้บริโภคให้ใกล้กันมากขึ้น เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้บริโภค
นอกเหนือจากโอกาสและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ Startup ที่มาเข้าร่วมโครงการจะได้รับ หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของโปรแกรม Accelerator ครั้งนี้คือกิจกรรม Bootcamp เพื่อพัฒนาวิธีคิดทางธุรกิจผ่านการลงมือทำกิจกรรมเวิร์กชอปในโครงการที่จะจัดขึ้นโดย Investible ทีมจัดโปรแกรมเทรนนิ่งจากออสเตรเลีย โดยความแตกต่างของ Bootcamp จาก Investible กับโปรแกรมเทรนนิ่งธุรกิจทั่วไปคือจุดเด่นด้านการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่เป็น Physical Activities จัดขึ้นในพื้นที่ที่จะพาผู้เข้าร่วมโครงการหลีกหนีไปจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน เพื่อที่จะสามารถโฟกัสกับการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน และยังมีกิจกรรมเสริมศักยภาพที่สำคัญอย่าง The Number Game เพื่อเรียนรู้โมเดลและกลยุทธ์ด้านการเงิน รวมถึงกิจกรรม Angel Pitch เพื่อนำเสนอธุรกิจและรับฟังความเห็นจากนักลงทุนต่างชาติ รวมระยะเวลาทั้งหมดในโปรแกรม 12 สัปดาห์
ดูรายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการ 'HUBBA Accelerator powered by I.P. Trading' ได้ที่ www.hubbathailand.com/hubba-accelerator ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 นี้เท่านั้น
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด