ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คำถามที่ได้ยินบ่อยที่สุดในโลกการทำงานคือ AI จะมาแย่งงานเราหรือเปล่า ? เพราะจากข่าวสารมากมาย การ Layoff ที่เกิดขึ้นหลายระลอกใหญ่ รวมถึงการประกาศวิสัยทัศน์การทำงานแบบ AI Frist ของหลายบริษัททั่วโลก สิ่งเหล่านี้สร้างความไม่สบายใจให้ใครหลายๆ คนมาตลอด
แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับซับซ้อนกว่านั้น เพราะในขณะที่เทคโนโลยีกำลังเข้ามาทำงานแทนคนในหลายส่วน มันก็ได้สร้างอาชีพใหม่ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
เป็นอาชีพที่ไม่ได้มีอยู่ในตำราเรียนหรือประกาศรับสมัคร และหนึ่งในนั้นคือ AI Automation Engineer ตำแหน่งที่เกิดขึ้นเพราะองค์กรเริ่มเข้าใจว่า การใช้ AI ให้ได้ผลจริง ไม่ใช่แค่ติดตั้งระบบหรือสมัครแพลตฟอร์ม แต่ต้องมีคนที่เข้าใจทั้งคนและเทคโนโลยีอยู่ตรงกลาง

บทความนี้ Techsauce จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ AI Automation Engineer ตำแหน่งงานใหม่ล่าสุด ที่เกิดจากการแย่งงานของ AI
AI Automation Engineer คือคนที่เข้าไปอยู่กับทีมงานในแต่ละแผนก เช่น HR การตลาด ฝ่ายขาย หรือฝ่ายปฏิบัติการ แล้วมองหาว่ากระบวนการทำงานตรงไหนซ้ำซ้อน ใช้เวลามากเกินไป หรือต้องอาศัยการสื่อสารหลายรอบ
จากนั้นตำแหน่งนี้ก็จะต้องใช้เครื่องมือ AI อย่าง Zapier, ChatGPT, Airtable หรือ Cursor มาช่วยสร้างระบบอัตโนมัติที่ทำให้การทำงานง่ายขึ้นและแม่นยำขึ้น
โดยเป้าหมายในการทำงานของพวกเขาไม่ใช่แค่ทำให้ระบบทำงานแทนคน แต่คือการคืนเวลาให้คน เพื่อไปโฟกัสกับสิ่งที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ กลยุทธ์ และการตัดสินใจที่มีมนุษยธรรมมากขึ้น
หลายคนอาจคิดว่าการเป็น AI Automation Engineer ต้องเขียนโค้ดเก่ง ต้องจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่เข้าใจระบบข้อมูลในเชิงลึก แต่ความจริงแล้วไม่จำเป็นเลย เพราะอาชีพนี้ไม่ได้เริ่มจากคนที่รู้เทคโนโลยี
แต่เริ่มจากคนที่รู้ปัญหาในงานจริงๆ ต่างหาก คนที่มาทำตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่เริ่มจากความหงุดหงิดในสิ่งเล็กๆ ที่ต้องทำซ้ำๆ ทุกวัน เช่น
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม AI Automation Engineer รุ่นแรกๆ หลายคนมาจากสายงานอย่าง HR การตลาด หรือฝ่ายอบรม เพราะพวกเขาไม่ใช่คนที่รู้เทคโนโลยีที่สุด แต่เป็นคนที่รู้ปัญหาในงานของตัวเองดีที่สุด และใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในมือแปลงมันให้กลายเป็นระบบที่ช่วยให้ทั้งทีมทำงานได้ฉลาดขึ้น
ในมุมขององค์กร บทบาทของ AI Automation Engineer สำคัญมาก เพราะหลายบริษัทอยากใช้ AI แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ขาดคนที่เข้าใจทั้งกระบวนการทำงานจริงและศักยภาพของเทคโนโลยี คนกลุ่มนี้จึงเปรียบเหมือนล่ามระหว่างมนุษย์กับ AI ที่แปลแนวคิดธุรกิจให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติที่ใช้งานได้จริง
มีตัวอย่างจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกกำลังตอกย้ำว่า บทบาทนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์ แต่กำลังกลายเป็นโครงสร้างใหม่ของทีมงานยุค AI เช่น
ผลลัพธ์เหล่านี้มีจุดร่วมเดียวกัน คือเกิดจากคนที่ไม่ได้เขียนโค้ดเก่งที่สุด แต่เข้าใจงานของตัวเองอย่างลึกซึ้ง และรู้ว่า AI จะเข้ามาช่วยตรงไหนถึงจะสร้างผลลัพธ์ได้จริง
เพราะทุกองค์กรต่างกำลังต้องการคนที่สามารถผสมผสานความเข้าใจในงานจริงกับความรู้เรื่องเทคโนโลยี และแปลงสิ่งนั้นให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่วัดได้ ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าจะเริ่มยังไง ลองมองหางานเล็กๆ ที่คุณต้องทำซ้ำทุกสัปดาห์ เช่น การเขียนรายงานประจำวัน การตอบอีเมลซ้ำๆ หรือการกรอกข้อมูล
แล้วลองใช้เครื่องมือ AI มาช่วยในขั้นตอนนั้นหนึ่งอย่าง วัดผลว่าใช้เวลาน้อยลงแค่ไหน ถ้ามันเวิร์ก ลองต่อยอดไปยังงานต่อไป สิ่งเหล่านี้อาจเปิดโอกาสให้คุณค่อยๆ กลายเป็น AI Automation Engineer คนแรกในทีมของคุณ และสร้างอนาคตของการทำงานในตำแหน่งใหม่ๆ ก่อนคนอื่นก็ได้
อ้างอิง: fastcompany
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด