นอกจากเทคโนโลยีสำคัญอย่าง AI แล้ว คลาวด์คอมพิวติ้ง ถือเป็นอีกหนึ่งหัวหอกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต การผสานพลังของ AI และคลาวด์ จะก่อให้เกิดศักยภาพมหาศาลในการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเศรษฐกิจ และการเงิน
งาน Singapore Fintech Festival 2024 มีการพูดคุยถึงความสำคัญของ AI และคลาวด์โดย Dowson Tong ผู้บริหารด้าน Cloud จาก Tencent ที่ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเติบโตของเทคโนโลยีคลาวด์ในตอนนี้
แม้แนวคิดเรื่องคลาวด์จะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปี 1960s แต่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนำมาสู่การแข่งขันของผู้ให้บริการรายใหญ่เช่น AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure ที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับตลาด และคาดการณ์ว่าจะเติบโตแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอนาคต Dowson Tong มองว่าคลาวด์ไม่ใช่แค่พื้นที่เก็บข้อมูลบนท้องฟ้า แต่เป็นรากฐานสำคัญของนวัตกรรม รองรับเทคโนโลยีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น AI, วิดีโอสตรีมมิ่ง, บล็อกเชน หรือแม้แต่ Quantum Computing
Tencent เองได้พิสูจน์ความสำเร็จในการใช้ประโยชน์จากคลาวด์ โดยเริ่มต้นจากบริษัทส่งข้อความ สู่การเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานให้กับธนาคารด้วยเทคโนโลยี Cloud Native ซึ่งช่วยลดต้นทุนต่อธุรกรรมได้อย่างมีนัยสำคัญ
Cloud Native คือแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานบนคลาวด์โดยเฉพาะ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและปรับขนาดได้ตามต้องการของคลาวด์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ระบบนิเวศของ WeChat เช่น WeChat Pay และ Red Packet ยังเป็นตัวอย่างของการผสานรวมเทคโนโลยีกับวัฒนธรรม สร้างนวัตกรรมทางการเงินที่เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพ รวมถึง VooV บริการประชุมออนไลน์ที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดเชื่อมต่อกันได้ทั่วโลกด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
ในส่วนของ AI นั้น Tencent เชื่อว่าคลาวด์เป็นแพลตฟอร์มที่ขาดไม่ได้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาและใช้งาน AI ซึ่ง Tencent กำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาและลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ โดยมี Availability Zones (AZ) มากกว่า 26 แห่งนอกประเทศจีน รวมถึงในสิงคโปร์ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดเอเชีย
เมื่อถามถึงสิ่งที่หลายคนกังวลอย่าง หากระบบคลาวด์ที่ใช้อยู่ล่ม จะส่งผลให้ระบบอื่นๆ ล่มตามไปด้วย ทาง Tencent มองว่า ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการทำโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่น เช่น การตั้งศูนย์ข้อมูลในหลายๆ เมืองเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดคิด
นอกจากนี้ Tencent มองว่ากลยุทธ์ Multi-cloud และ Hybrid cloud เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า รวมถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ Quantum Computing ที่อาจส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการเข้ารหัสในปัจจุบัน
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ Quantum Computing ซึ่งแม้จะมีศักยภาพสูง แต่ก็อาจเป็นภัยคุกคามต่อมาตรฐานการเข้ารหัสในปัจจุบัน Tencent ตระหนักถึงความเสี่ยงนี้และกำลังพัฒนาโซลูชั่นเพื่อรับมือ เช่น การพัฒนาการเข้ารหัสแบบ Post-Quantum Cryptography เพื่อรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลในอนาคต
กลยุทธ์ของ Tencent ในการเป็นมากกว่าผู้ให้บริการคลาวด์ แต่เป็นผู้สร้างระบบนิเวศ ด้วยการลงทุน การสร้างพันธมิตร และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ครอบคลุม ตั้งแต่ Cloud Native, AI ไปจนถึง Quantum Computing แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาว และความพร้อมในการเป็นผู้นำในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
การให้ความสำคัญกับ Multi-cloud และ Hybrid cloud สะท้อนถึงความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า และการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ Tencent ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น การแข่งขันในตลาด การพัฒนาเทคโนโลยี และการปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
อ้างอิง : งาน Singapore Fintech Festival 2024 หัวข้อ AI and Cloud: Powering the economies of tomorrow
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด