ดาต้าเซ็นเตอร์ยุค AI จะเป็นอย่างไร? เจาะลึกเทรนด์ ความท้าทาย และโอกาสในปี 2025 | Techsauce

ดาต้าเซ็นเตอร์ยุค AI จะเป็นอย่างไร? เจาะลึกเทรนด์ ความท้าทาย และโอกาสในปี 2025

โลกกำลังเข้าสู่ยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาคือความต้องการในการประมวลผลข้อมูลที่มหาศาล ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมๆ ไม่สามารถรองรับความต้องการนี้ได้อีกต่อไป จึงเกิดเป็นยุคใหม่ของดาต้าเซ็นเตอร์ที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับเทคโนโลยี AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ดาต้าเซ็นเตอร์ยุค AI จะเป็นอย่างไร?  เจาะลึกเทรนด์ ความท้าทาย และโอกาสในปี 2025

AI ดันลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์

บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในสหรัฐฯ เตรียมลงทุนครั้งใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินลงทุนจะสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่ง Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon ก็ได้ออกมากล่าวว่า "ยิ่งความต้องการใช้งานเติบโตเร็วเท่าไหร่ เราก็ต้องเร่งลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ เครือข่าย และฮาร์ดแวร์มากขึ้นเท่านั้น"

บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หันมาลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงาน

เมื่อความต้องการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก บรรดาบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จึงหันมาลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์จะเพิ่มขึ้นจาก 460 เทราวัตต์ชั่วโมงในปี 2022 เป็นมากกว่า 1,000 เทราวัตต์ชั่วโมงภายในปี 2026 ซึ่งตัวเลขนี้เทียบเท่ากับการใช้พลังงานทั้งประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

การลงทุนด้านพลังงานของ Big Tech

พลังงานนิวเคลียร์

  • Microsoft จับมือกับ Constellation เตรียมเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island อีกครั้ง เพื่อป้อนพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์ (กันยายน 2024)
  • Google ทำข้อตกลงกับ Kairos Power เพื่อรับพลังงานนิวเคลียร์จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) สูงสุด 500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มใช้งานภายในปี 2030
  • Amazon ลงนามข้อตกลงกับ ENERGY NORTHWEST และ Dominion Energy เพื่อสนับสนุนการติดตั้ง SMR ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2024

พลังงานฟิวชัน

  • Google ลงทุนใน Commonwealth Fusion Systems
  • Microsoft มีเป้าหมายที่จะซื้อไฟฟ้าจากพลังงานฟิวชันของ HELION ในปี 2028

ด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพ

  • Meta ร่วมมือกับ Sage Geosystems เพื่อนำพลังงานความร้อนใต้พิภพ 150 เมกะวัตต์ มาใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ เริ่มในปี 2027
  • Google พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพขนาด 3.5 เมกะวัตต์ เพื่อป้อนพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์ในเนวาดา

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือประสิทธิภาพด้านพลังงาน

นอกเหนือจากการหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ แล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ทำให้เกิดโอกาสมากมายในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์แบบใหม่ (Processor Architecture) เทคโนโลยีระบายความร้อน และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Cooling) ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก

และภายในปี 2026 องค์กร 38% คาดว่าจะใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลวในดาต้าเซ็นเตอร์ของตน เพิ่มขึ้นจาก 20% ในปี 2024 และเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลวจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

การลงทุนและการเป็นพันธมิตร คือกุญแจสู่ความสำเร็จ ?

บริษัทที่ลงทุนและสร้างความร่วมมือในด้านนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะมีความได้เปรียบในการขยายขีดความสามารถด้าน AI ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับดาต้าเซ็นเตอร์ควรจับตาตลาดเหล่านี้เพื่อหาโอกาสในการเติบโต

สุดท้าย AI กำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งในด้านการลงทุน การใช้พลังงาน และเทคโนโลยีต่างๆ บริษัทที่ปรับตัวได้เร็วและมองเห็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงนี้ จะเป็นผู้ที่ได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคต

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Physical AI คืออะไร เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง ?

เจาะลึก Physical AI เทคโนโลยีที่ทำให้หุ่นยนต์เรียนรู้และโต้ตอบกับโลกจริงได้ ค้นพบอนาคตของ AI ที่มีร่างกายและความฉลาดในการตัดสินใจ...

Responsive image

ทรัมป์ - AI - เศรษฐกิจไทย 2025 สมรภูมิร้อนต้องรู้ สู้ความผันผวน

สรุปคอนเทนต์จากงาน Director’s Briefing 1/2025 ที่จัดขึ้นโดย Thai IOD ในช่วง Panel Discussion: Trump, AI and Thai Economy in 2025 and Beyond ภายใต้ธีมงาน Future Economy 2025: Powere...

Responsive image

รู้จัก Jurassic World ตำนานแฟรนไชส์ภาพยนตร์ยอดนิยม สู่ประสบการณ์จริงสุดอิมเมอร์ซีฟในกรุงเทพฯ

บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับโลกของ Jurassic World โลกภาพยนตร์ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล ก่อนสัมผัสประสบการณ์จริงอันน่าเหลือเชื่อในไตรมาสที่สองของปี 2025...