นับตั้งแต่ Jurassic Park เปิดตัวในปี 1993 โลกภาพยนตร์ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล ภาพยนตร์ที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และจินตนาการอย่างลงตัว ได้พาผู้ชมก้าวเข้าสู่ยุคไดโนเสาร์อีกครั้ง จากภาพยนตร์ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม และกลายเป็นต้นกำเนิดของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ไดโนเสาร์ที่ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆ ทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

และในปี 2025 นี้ ความตื่นเต้นครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้นกับ "Jurassic World: The Exhibition" ที่เตรียมเปิดตัวในกรุงเทพฯ จุดหมายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะพาคุณสัมผัสอาณาจักร Jurassic ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่านฉากจำลองที่สมจริง เทคโนโลยี Animatronics ล้ำสมัย และกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟสุดตื่นเต้น เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางย้อนเวลาสู่ยุคไดโนเสาร์ครั้งยิ่งใหญ่ บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับโลกของ Jurassic World ก่อนสัมผัสประสบการณ์จริงอันน่าเหลือเชื่อในไตรมาสที่สองของปี 2025

จาก Jurassic Park สู่ Jurassic World แฟรนไชส์เปลี่ยนโลกภาพยนตร์

ย้อนกลับไปในปี 1993 โลกได้รู้จักกับ Jurassic Park ภาพยนตร์ที่เปลี่ยนโฉมวงการภาพยนตร์ไปตลอดกาล กำกับโดย Steven Spielberg และอิงจากนวนิยายของ Michael Crichton ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องของมหาเศรษฐี John Hammond ที่สร้างสวนสนุกไดโนเสาร์โดยใช้เทคโนโลยีโคลนนิ่ง แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามแผน แต่เมื่อระบบรักษาความปลอดภัยล้มเหลว เหล่าไดโนเสาร์ก็หลุดออกมา เปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นฝันร้าย และตามมาด้วยเรื่องวุ่นๆ มากมาย

ภาพยนตร์ Jurassic Park ถือเป็นนวัตกรรมครั้งสำคัญของวงการภาพยนตร์ ด้วยการผสมผสาน CGI และ Animatronics ที่ล้ำสมัยในยุคนั้น ทำให้ไดโนเสาร์มีชีวิตขึ้นมาอย่างสมจริง หนังประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล กวาดรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.3 หมื่นล้านบาท และกลายเป็นภาพยนตร์ต้นแบบให้กับหนังแนว SciFI-ผจญภัยในยุคต่อมา

หลังจากนั้น แฟรนไชส์ไดโนเสาร์ได้ขยายออกไปด้วย The Lost World: Jurassic Park (1997), Jurassic Park III (2001) และแม้ว่าเรื่องราวของไดโนเสาร์จะถูกพักไว้หลายปี แต่กระแสความนิยมไม่เคยจางหายไป

และในปี 2015 แฟรนไชส์นี้ได้คืนชีพอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่อง Jurassic World (2015) ที่ตั้งอยู่บนแนวคิดว่า "ถ้า Jurassic Park เปิดให้บริการจริง... มันจะเป็นอย่างไร?" ในครั้งนี้ สวนสนุกไดโนเสาร์ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างเต็มรูปแบบ บนเกาะ Isla Nublar แต่ด้วยความโลภของมนุษย์ การทดลองไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่อย่าง Indominus Rex กลับกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่บนเกาะสวนสนุกแห่งนี้ ภาพยนตร์ทำรายได้ทะลุ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.4 หมื่นล้านบาท และกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล

ความสำเร็จของ "Jurassic World" นำไปสู่ภาคต่อ Jurassic World: Fallen Kingdom (2018) และ Jurassic World: Dominion (2022) ซึ่งปิดฉากเรื่องราวของสวนสนุกไดโนเสาร์ และก้าวสู่โลกที่มนุษย์ต้องอยู่ร่วมกับไดโนเสาร์

จากภาพยนตร์ สู่ประสบการณ์จริงด้วย Jurassic World: The Exhibition

เพื่อเติมเต็มความฝันของแฟน ๆ ทั่วโลก "Jurassic World: The Exhibition" จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อพาผู้ชมก้าวเข้าสู่โลก Jurassic อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยถูกจัดไปแล้วหลกหลายพื้นที่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นประเทศอิตาลี สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย เป็นต้น

"Jurassic World: The Exhibition" ไม่ใช่แค่นิทรรศการเดินชมไดโนเสาร์ แต่เป็นการผจญภัยที่ผสมผสานความสนุกและการเรียนรู้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยอิงจากภาพยนตร์ทั้งหมดที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมหลายล้านคนทั่วโลก 

ผู้เข้าชมจะได้เดินทางสู่ Isla Nublar ในฐานะ VIP และสัมผัสฉากต่างๆ จากภาพยนตร์อย่างใกล้ชิด พบกับ Brachiosaurus ขนาดใหญ่ยักษแหวกว่ายในทุ่งหญ้า หรือเผชิญหน้ากับ Velociraptor แสนจะฉลาด ที่รอคอยอยู่ในมุมมืด หรือแม้แต่ Tyrannosaurus Rex ที่น่าเกรงขาม ที่จะทำให้คุณต้องขนลุก 

นอกจากนี้ในนิทรรศการ ยังมีการนำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา DNA ของไดโนเสาร์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย

ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: Jurassic World: The Exhibition กรุงเทพฯ

และในปีนี้ ประเทศไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์จากภาพยนตร์ในตำนานอย่างใกล้ชิดเมื่อ Jurassic World: The Exhibition กำลังจะเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงเทพมหานคร ภายในไตรมาสที่สองของปี 2025 นี้

โดยหมุดหมายถูกปักลงที่ Asiatique The Riverfront ด้วยทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และบรรยากาศคึกคัก แถมยังไม่มีคู่แข่งที่เป็นแหล่งบันเทิงขนาดใหญ่ในย่านนี้ จึงทำให้โครงการดังกล่าวน่าจับตามองเป็นอย่างมาก

"Jurassic World: The Exhibition" ในกรุงเทพฯ ไม่ใช่เพียงแค่งานอีเวนต์ แต่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของโลกความบันเทิง ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ AWC, NEON และ Universal Live Events & Location Based Entertainment ที่พร้อมจะสร้างความตื่นเต้นให้แฟน ๆ และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการบริการในกรุงเทพฯ

"เราตื่นเต้นที่ได้นำ Jurassic World: The Experience มาสู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา และเราเชื่อว่าการจัดแสดงครั้งนี้จะยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงแบบอิมเมอร์ซีฟในประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้น" นายรอน ตัน ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม NEON กล่าว

Jurassic World: The Exhibition กรุงเทพฯ เตรียมสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยพื้นที่จัดแสดงขนาด 6,000 ตารางเมตร ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นเกาะ Isla Nublar มาพร้อมกับทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างบรรยากาศการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร

พบกับ Animatronics ไดโนเสาร์เวอร์ชันล่าสุดที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย รวมถึง Jurassic Café กับเมนูธีมไดโนเสาร์สุดพิเศษ และ Jurassic River Adventure การผจญภัยแบบอิมเมอร์ซีฟริมน้ำสุดตื่นเต้น ที่จะพาคุณล่องไปในโลกของ Jurassic มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่นี้และสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจจากภาพยนตร์ยอดนิยมเรื่องนี้ไปตลอดกาล

อ้างอิง: assetworldcorp-th, misirli.co.uk, roundroomlive