ทักษะ AI ไม่มีไม่ได้แล้ว สำรวจพบใครใช้ AI เป็น เงินเดือนเพิ่ม อนาคตสดใส | Techsauce

ทักษะ AI ไม่มีไม่ได้แล้ว สำรวจพบใครใช้ AI เป็น เงินเดือนเพิ่ม อนาคตสดใส

ทักษะ AI วันนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว ใครเก่ง AI นายจ้างไทยยินดีจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้ 41% ด้านคนทำงานเร่งพัฒนาทักษะ หวังสร้างงาน สร้างอาชีพให้ดีขึ้น  

รายงาน Accelerating AI Skills: Preparing the Asia-Pacific Workforce for Jobs of the Future ฉบับล่าสุด ที่จัดทำโดย Amazon Web Service (AWS) และ Access Partnership ได้สำรวจการใช้งานและทักษะด้าน AI ของพนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 15,000 คน รวมถึงความเห็นจากนายจ้าง 5,000 คน โดยมีสาระสำคัญน่าสนใจดังนี้ 

ใครใช้ AI เป็น ได้เงินเดือนเพิ่ม อนาคตสดใส 

นายจ้างในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยินดีจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้พนักงานที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญด้าน AI แม้ไม่ได้อยู่แผนก IT เช่น แผนก R&D (41%) การขายและการตลาด (39%)  Business operation (39%) การเงิน (37%) กฎหมาย (33%) และทรัพยากรบุคคล (33%) สำหรับพนักงานในแผนก IT ที่ใช้ AI เป็นบริษัทยินดีให้เงินเพิ่มถึง 44% 

ส่วนด้านคนทำงาน 93% เชื่อว่าการมีทักษะ AI จะส่งผลเชิงบวกต่ออาชีพการงาน ทั้งในแง่ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ความพึงพอใจในงานเพิ่มขึ้น และมีความก้าวหน้าในอาชีพ 4 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถามจึงอยากพัฒนาทักษะด้าน AI และแยกตามช่วงอายุได้ดังนี้ Gen Z (87%), Millennial (88%), Gen X (79%) ส่วนด้าน Baby Boomer 68% เผยว่าจะเรียนคอร์สเพิ่มทักษะ AI หากนายจ้างเสนอให้เรียน 

สำหรับประเทศไทย จากการสำรวจนายจ้างพบว่ายินดีเพิ่มเงินเดือนให้คนมีทักษะ AI ถึง 41% มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากอินเดีย (54%) 

นายจ้างหวังสูง AI เข้ามายกระดับการทำงาน

จากการสำรวจ นายจ้างหวังว่าผลิตภาพขององค์กรจะเพิ่มขึ้น 51% จากการใช้  AI เช่น ทำให้งานซ้ำซากเป็นอัตโนมัติ (64%), ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานและผลลัพธ์ (60%) และปรับปรุงการสื่อสาร (59%) 

ภายในปี 2571 องค์กรส่วนใหญ่จะใช้ AI

92% ของนายจ้างคาดว่าภายในปี 2571 องค์กรของตัวเองจะต้องใช้ AI ขับเคลื่อน และ 91% เชื่อว่าแผนก IT จะได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยหากเจาะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมจะเห็นว่าภาค IT เป็นผู้นำในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ โดย 97% คาดว่าจะใช้ AI ภายในปี 2571 ตามมาด้วยการธนาคารและบริการทางการเงิน (95%) และ ภาครัฐ (91%)

Generative AI จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในอีก 5 ปีข้างหน้า 

นายจ้าง 9 ใน 10 ในภูมิภาคนี้ (93%) และพนักงาน (90%) คาดว่าจะใช้ Generative AI ทำงานภายในห้าปีข้างหน้า

สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องช่วยกันเพิ่มทักษะ AI 

นายจ้าง 79% มองว่าการจ้างงานผู้มีทักษะและเชี่ยวชาญด้าน AI เป็นความสำคัญอันดับแรก แต่ 75% ไม่สามารถหาคนคนนั้นได้ นอกจากนั้นส่วนใหญ่ (79%) ของนายจ้างยังไม่รู้ว่าจะใช้โปรแกรมฝึกทักษะ AI ให้พนักงานยังไง 

ด้านฝั่งคนทำงาน 71% ไม่รู้ว่าทักษะ AI ที่พวกเขาต้องมีคืออะไร และ 74% ยังขาดความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมเพิ่มทักษะที่กำลังเรียนอยู่ แสดงให้เห็นช่องว่างของสิ่งที่คาดหวังกับความพร้อมของแรงงานในปัจจุบัน โดยสำหรับประเทศไทยนายจ้าง 94% ให้ความสำคัญกับการจ้างคนมีทักษะ AI แต่ 64% ตอบว่ามีอุปสรรคที่จะตามหา ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในภูมิภาค

สำหรับทักษะที่นายจ้างมองว่าจำเป็นนั้น รวมถึงทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ (57%) การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (53%) และจริยธรรม (36%) เป็นสามทักษะสำคัญที่สุด ที่ต้องบูรณาการใช้กับ AI 

อ้างอิง: aboutamazon

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สิงคโปร์ ทำอย่างไรให้เป็นยักษ์ใหญ่ Fintech?เมื่อหัวใจของนวัตกรรมคือ ‘คน’

โลกยุคดิจิทัลพาให้หลายวงการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะ Fintech ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสิงคโปร์เป็นผู้นำด้านการเงินแล้ว นับได้ว่าเป็นศูนย์กลาง Fintech ของภูมิภาค SEA ก็ว่าได...

Responsive image

สำรวจ 5 เทรนด์สำคัญจากงาน Accenture Life Trends 2025 ที่สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคไทย

สำรวจ 5 เทรนด์สำคัญจากงาน Accenture Life Trends 2025 ที่สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคไทยและทั่วโลก ตั้งแต่ความลังเลในโลกดิจิทัล, การเลี้ยงลูกยุคใหม่, เศรษฐศาสตร์แห่งความใจร้อน, ศักดิ์ศรี...

Responsive image

Qwen2.5-Max คืออะไร หมัดสองจาก AI จีนโดยยักษ์ใหญ่ Alibaba ที่เก่งกว่า Deepseek R1

Qwen2.5-Max โมเดล AI ใหม่จาก Alibaba ท้าชน DeepSeek R1 และ GPT-4o ด้วยประสิทธิภาพสูงกว่า ใช้พลังงานน้อยลง และอาจเปลี่ยนสมดุลอุตสาหกรรม AI ระดับโลก...