Amazon หนึ่งในบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ทำการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัทเทค Startup ต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ Starup ต่าง ๆ มาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้มีบริษัท Startup ที่ทาง Amazon มาร่วมลงทุนด้วยและโดนในลักษณะนี้ ออกมาชี้แจงแล้วกว่า 24 ราย เช่น DefinedCrowd ที่เจอเหตุการณ์แบบนี้เมื่อราว 4 ปีก่อน โดยทางบริษัทเป็นผู้ออกแบบระบบคอมพิวติ้งคลาวด์ โดยใช่ AI ซึ่งหลังจากที่ทาง Amazon ได้มาร่วมลงทุนไม่นานก็มีการออกผลิตภัณฑ์ที่เป็น Amazon Web Service ชื่อว่า A2I และมีระบบการทำงานคล้ายคลึงกับผลิตภัณฑ์ของทาง DefinedCrowd
สำหรับ Amazon ได้มีการตั้งกองทุนชื่อว่า Alexa Fund เมื่อปี 2015 ตอนที่ทาง Amazon มีแผนในการผลิต Alexa และใช้เงินในกองทุนนี้ไปลงทุนกับบริษัทที่มีผลิตเทคโนโลยีเสียง รวมทั้งบริษัทผลิตกริ่งประตู อย่างบริษัท Ring เมื่อปี 2016 และถูกซื้อโดย Amazon ไปแล้วเมื่อปี 2018 โดยทาง Ring มองว่าการทำงานร่วมกับ Amazon จะเป็นการขยายตลาดลูกค้าให้พวกเขา
นอกจากนี้ในปี 2016 เช่นกัน ทาง Amazon ก็ได้ไปลงทุนใน Startup ที่ชื่อว่า Nucleus ผู้ผลิตอุปกรณ์โฮมวิดีโอที่สั่งการด้วยเสียง โดยใช้ทำงานร่วมกับ Alexa ซึ่งทาง Nucleus ก็มีความกังวลในช่วงตัดสินใจให้ทาง Amazon มาลงทุน โดยกลัวว่าทาง Amazon จะนำเอานวัตกรรมของเขาไปผลิตออกมาเป็นของตัวเอง และทาง Amazon ก็ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะมีการกระทำแบบนั้น แต่เมื่อ 8 เดือนผ่านไป ทาง Amazon ก็เปิดตัว Echo ที่มีฟังก์ชันการทำงานเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่ทาง Nucleus ออกแบบ และทำให้ยอดขายของบริษัทลดลงมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่มี Echo ทั้งนี้ทาง Amazon ออกมาแก้ตัวว่า แผนการสร้าง Echo นั้นมีมาก่อนที่จะเข้ามาลงทุนกับ Nucleus จนในที่สุดทาง Nucleus ก็ออกมาฟ้อง Amazon
เช่นเดียวกันกับ Ubi บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สั่งการด้วยเสียง ที่มีฟังก์ชันการทำงาน และมียอดขายผลิตภัณฑ์ดีมากก่อนที่ Amazon จะเปิดตัว Echo โดยตอนปี 2012 ทาง Amazon ก็ได้มีการติดต่อมาเพื่อทำการเข้าซื้อ Ubi หรือตกลงเรื่องลิขสิทธิ์ของนวัตกรรมตัวนี้ และทั้งสองบริษัทก็ได้ทำการเซ็นสัญญาการไม่เปิดเผยข้อมูลกัน โดยต่อมาไม่นานในปี 2013 ทาง Amazon ก็ขอยุติสัญญา และได้มีการนัดหมายเพื่อประชุมร่วมกันในการพัฒนา Echo ร่วมกัน โดยทาง Ubi ก็เป็นฝ่ายที่คิดค้น และแสดงรูปแบบ แนวทางในการพัฒนา Echo แต่เมื่อการการประชุมสิ้นสุดลง การติดต่อจากทาง Amazon ก็น้อยลง ต่อมาในปลายปี 2014 ทาง Amazon ก็มีการเปิดตัว Echo ออกมาอย่างเป็นทางการ พร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ไปคล้ายคลึงกับหลาย ๆ Startups ที่ไปร่วมลงทุนด้วย
ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านทาง Amazon และกองทุน Alexa Fund ก็ได้ไปลงทุนกับ Startup หลายแห่งที่มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือนวัตกรรมที่เป็นไปในแนวทางที่ Amazon ต้องการ และมักจะมีผลิตภัณฑ์ของ Amazon ออกมาหลังจากร่วมลงทุนด้วยไม่นานเสมอ พร้อมกับการหยุดการติดต่อกับบริษัทอื่น ๆ หรือยกเลิกสัญญามากมาย
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกของทาง Amazon ก็ออกมารายงานเสมอว่า ตลอด 26 ที่ผ่านมาทาง Amazon ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ทั้ง Alexa, Kindle, Echo และ AWS รวมทั้งอย่างอื่นบนแพลตฟอร์มของ Amazon และสำหรับเรื่องข้อพิพาทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องของลิขสิทธิ์ก็ขอให้ไปคุยกันในศาล
ทั้งนี้ เมื่อต้องมีการต่อสู้ระหว่างบริษัทเล็ก ๆ กับยักษ์ใหญ่ ทั้งในตลาด และในชั้นศาล ความเป็นไปได้ที่ว่าบริษัทเล็ก ๆ นั้นจะสู้จนชนะบริษัทระดับโลกก็อาจจะมีความเป็นไปได้ แต่จะเป็นความหวังที่ค่อนข้างริบหรี่
อ้างอิง: The Wall Street Journal
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด