
ดูเหมือนว่า Apple กำลังวางหมากครั้งสำคัญเพื่อกลับสู่สมรภูมิปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังถูกวิจารณ์ว่าตามหลังคู่แข่งในยุค Generative AI
ล่าสุดมีรายงานจาก Bloomberg เผยแผนการสุดทะเยอทะยานที่ไม่ได้มีแค่ซอฟต์แวร์ แต่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ไลน์อัพใหม่แกะกล่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะ’ ที่ทำหน้าที่เป็นเพื่อนคู่คิด, Siri โฉมใหม่ที่ฉลาดล้ำ, จออัจฉริยะ และกล้องรักษาความปลอดภัย ที่จะมาผนึกกำลังสร้าง Ecosystem ให้แข็งแกร่งกว่าเดิม
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดัน หลังจากโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Vision Pro ยังไม่สามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้า และดีไซน์ของผลิตภัณฑ์หลักอย่าง iPhone ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นมาหลายปี การเดิมพันกับฮาร์ดแวร์ AI และสมาร์ทโฮมจึงเปรียบเสมือนการส่งสัญญาณว่า Apple พร้อมแล้วที่จะท้าชนกับ Samsung, Meta และยักษ์ใหญ่เทคฯ รายอื่นในตลาดใหม่
Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้กล่าวปลุกใจพนักงานในการประชุมภายในเมื่อต้นเดือนว่า "Apple ต้องเป็นผู้ชนะในสมรภูมิ AI" พร้อมทิ้งคำใบ้ถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่กำลังจะมาว่า "มันสุดยอดมากครับทุกคน มันสุดยอดจริงๆ"
ไฮไลท์ที่น่าจับตาที่สุดคือ หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะ ที่ตั้งเป้าเปิดตัวในปี 2027 มันถูกอธิบายว่ามีลักษณะคล้าย iPad ที่ติดตั้งบนแขนกล สามารถหมุนและปรับตำแหน่งเพื่อติดตามผู้ใช้งานได้ทั่วห้องราวกับมีชีวิต หลายคนในโครงการเรียกมันว่า โคมไฟพิกซาร์ (Pixar Lamp)
เป้าหมายของ Apple คือการทำให้ AI มีตัวตนจับต้องได้ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การทำงาน, ชมความบันเทิง ไปจนถึงการจัดการตารางเวลา
แต่หัวใจสำคัญของมันคือ Siri เวอร์ชันใหม่ ที่จะถูกยกเครื่องครั้งใหญ่ ให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในวงสนทนาของมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น อาจจะแทรกขึ้นมาเพื่อแนะนำร้านอาหารระหว่างที่คุณกับเพื่อนกำลังวางแผนมื้อค่ำ หรือช่วยวางแผนการเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต่างจากการคุยกับคนจริงๆ
นอกจากนี้ มันยังมาพร้อมฟังก์ชัน FaceTime ที่กล้องจะขยับตามผู้คนในห้อง และอาจใช้ iPhone เป็นจอยสติ๊กเพื่อควบคุมมุมกล้องได้อีกด้วย
เพื่อรองรับอุปกรณ์กลุ่มใหม่นี้ Apple ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการใหม่ในชื่อ "Charismatic" ซึ่งออกแบบมาเพื่อการใช้งานร่วมกันของทุกคนในบ้านโดยเฉพาะ มันจะมาพร้อมกล้องหน้าที่สามารถสแกนใบหน้าของผู้ใช้ และปรับเปลี่ยนหน้าจอ, วิดเจ็ต และการตั้งค่าต่างๆ ให้เป็นของคนนั้นได้ทันที
อุปกรณ์ชิ้นแรกที่จะได้ใช้ OS นี้คือ จอแสดงผลอัจฉริยะ (Smart Display) รหัส J490 ที่มีกำหนดเปิดตัวกลางปีหน้า มันคือเวอร์ชันที่ตัดแขนกลและ Siri ขั้นสูงออกไป แต่ยังคงความสามารถในการควบคุมบ้าน, เล่นเพลง, วิดีโอคอล และท่องเว็บได้ครบครัน โดยมีดีไซน์คล้าย Google Nest Hub แต่เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
การมาถึงของ Charismatic OS และจออัจฉริยะ ถือเป็นการรุกเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฮมอย่างจริงจังครั้งแรกของ Apple หลังจากที่พยายามเจาะตลาดนี้มานาน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับ HomePod และ HomeKit
เบื้องหลังความสามารถอันน่าทึ่งของฮาร์ดแวร์ใหม่ คือการผ่าตัดใหญ่โครงสร้างพื้นฐานของ Siri ภายใต้โปรเจกต์ชื่อรหัส "Linwood" ซึ่งเป็นการสร้าง ‘สมอง’ ใหม่ทั้งหมดบนเทคโนโลยี Large Language Models (LLMs) เช่นเดียวกับ ChatGPT หรือ Gemini
เป้าหมายคือให้ Siri สามารถเข้าใจและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เพื่อตอบสนองคำสั่งได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยมีแผนจะเปิดตัวเร็วที่สุดในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกต์คู่ขนานในชื่อ "Glenwood" ที่ทดลองใช้เทคโนโลยี LLM จากภายนอกอย่าง Claude ของ Anthropic เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
Craig Federighi, SVP ฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple ยอมรับว่า "ไม่มีโครงการไหนที่ทุกคนให้ความสำคัญมากไปกว่านี้อีกแล้ว" ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการยกเครื่อง Siri คือภารกิจเร่งด่วนที่สุดของบริษัทในเวลานี้
นอกเหนือจากหุ่นยนต์และจออัจฉริยะ Apple ยังซุ่มพัฒนากล้องรักษาความปลอดภัยรหัส J450 ที่สามารถทำงานอัตโนมัติร่วมกับอุปกรณ์อื่นในบ้านได้ เช่น ปิดไฟเมื่อไม่มีคนอยู่ หรือเปิดเพลงโปรดของสมาชิกในบ้านทันทีที่เดินเข้ามา ด้วยเซ็นเซอร์จดจำใบหน้าและอินฟราเรด โดยตั้งเป้าที่จะแข่งขันโดยตรงกับเจ้าตลาดอย่าง Amazon Ring และ Google Nest
การเปิดเผยแผนการครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันมหาศาลที่ Apple กำลังเผชิญ บริษัทจำเป็นต้องหา "The Next Big Thing" เพื่อสร้างการเติบโตและพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมยังคงลุกโชนอยู่ แม้ว่าโครงการเหล่านี้จะยังอยู่ในขั้นพัฒนาและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Apple กำลังเดิมพันครั้งใหญ่กับ AI และหุ่นยนต์ เพื่อกำหนดนิยามใหม่ของปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีในทศวรรษหน้า
ที่มา: Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด