ดูเหมือนว่าการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเริ่มเข้มข้นเข้าไปทุกที หลายประเทศได้ออกนโยบายและแสดงตัวเป็นผู้นำด้าน AI กันอย่างดุเดือด ซึ่งประเทศที่กำลังมาแรงและน่าจับตาไม่แพ้ที่ใดในโลกคือประเทศแคนาดา ที่นี่เต็มไปด้วยเหล่า AI เนิร์ด อีกทั้งรัฐบาลมีความพยายามอย่างหนักในการผลักดันประเทศให้ก้าวเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี
เมื่อไม่นานมานี้ Bloomberg รายงานว่าโตรอนโต (Toronto) เป็นหนึ่งใน Tech hub ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่นี่มีบริษัทพัฒนาด้าน AI จำนวนมาก อีกทั้งมีมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเสียง โดยผลสำรวจของ CBRE พบว่ามี 28,900 งานใหม่ ๆ ด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์จากปี 2016 ซึ่งมากกว่าใน Silicon Valley เสียอีก
แคนาดาได้มีการวางกลยุทธ์ในการเป็นผู้นำด้านงานวิจัยและแนวความคิดด้าน AI ได้น่าสนใจ มาดูกันว่าทำไม
รัฐบาลได้ทุ่มเงิน 125 ล้านเหรียญลงทุนในยุทธศาสตร์ ‘Pan-Canadian Artificial Intelligence Strategy’ ให้กับสถาบันวิจัยระดับนานาชาติ CIFAR เพื่อการวิจัยเกี่ยวกับอนาคตของ AI ทั้งสนับสนุนการลงทุนในการศึกษา งานวิจัย วิทยาศาสตร์ โดยทำงานร่วมกับ 3 สถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัย ได้แก่ Alberta Machine Intelligence Institute (AMII) ที่เอ็ดมันตัน, Vector Institute ในโตรอนโตและ Montreal Institute for Learning Algorithms (MILA) ในมอนทรีออล
นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ออก Global Skills Strategy (GSS) เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนานวัตกรรมของแคนาดา (Canada’s Innovation Agenda) ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถทั่วโลกเข้ามายังแคนาดาเพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและการสร้างงานใหม่ ๆ โดยผู้ที่ต้องการขอใบอนุญาตทำงานสามารถดำเนินการได้ภายในสองอาทิตย์หากมีคุณสมบัติตรงตามกำหนด
นาย Navdeep Bains รัฐมนตรีด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และการพัฒนาเศรษฐกิจของแคนาดา กล่าวในงาน Fortune Global Forum เมื่อเดือนตุลาคมว่า
หากคุณเป็นเจ้าของบริษัทในแคนาดา การที่ไม่สามารถหาคนที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการได้นั้นเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหาคนเก่งจากที่ไหนก็ได้บนโลก และสามารถนำพวกเขาเข้ามาทำงานในแคนาดาได้ภายในสองอาทิตย์
โลกกำลังขาดแคลนบุคลากรด้าน AI อย่างหนัก ทุกคนต่างก็มองหาวิศวกรระดับ Ph.D และบุคคลเหล่านี้ก็รวมตัวกันอยู่ที่แคนาดา
การลงทุนด้าน AI ยังได้ดึงดูดนักวิจัย อีกทั้งหลายบริษัทชั้นนำทั่วโลกได้เดินทางเฟ้นหานักวิจัยในแคนาดา นอกจากนี้เม็ดเงินดังกล่าวยังเข้าไปส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับระบบ AI ใน 25 มหาวิทยาลัยชั้นนำของแคนาดา รวมถึงส่งเสริมการลงทุนทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่อื่น ๆ
โดยเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ University of Toronto และ Universy of Waterloo ได้มีการลงทุนส่งเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะได้รับความนิยมเสียอีก นอกจากนี้มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในมอนทรีออลและเอ็ดมันตันก็ได้มีการเตรียมความพร้อมด้าน AI เช่นกัน นี่ทำให้ปัจจุบันแคนาดาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีคนที่เก่งด้าน AI มากแห่งหนึ่งของโลก
ความคืบหน้าด้าน AI ที่น่าสนใจจากบริษัทชั้นนำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีดังนี้
สาเหตุที่เราเลือกเปิดศูนย์วิจัยด้าน AI ที่แคนาดา เนื่องจากที่นี่มีระบบ Ecosystem ที่สนับสนุนการพัฒนา AI อย่างรอบด้าน ทั้งนักศึกษา บุคลากร Startup และการผลักดันจากภาครัฐ
รัฐได้สนับสนุนการพัฒนา AI เพื่อนำไปใช้ในด้านการขนส่ง (Transportation), ด้านบริการสุขภาพ (Healthcare), และระบบรักษาความปลอดภัย (Security) ซึ่งการที่มีข้อมูลที่มหาศาลและหลากหลายนั้นเรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพท์ของนักพัฒนา AI
การไม่มีข้อมูลที่หลากหลายนั้นถือเป็นจุดอ่อนของการพัฒนา AI เลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เช่น ระบบการจดจำเสียง บางครั้งก็ไม่สามารถทำการการถอดเสียงผู้หญิงได้ เนื่องจากนักพัฒนาได้ฝึกซอฟต์แวร์ให้จำเฉพาะเสียงผู้ชาย, ระบบจดจำใบหน้าทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรเมื่อต้องทำการสแกนใบหน้าคนผิวสี ซึ่งการที่ประเทศแคนาดามีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทำให้ได้เปรียบในแง่ความหลากหลายของชุดข้อมูล
Startup ที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยสร้างความหลากหลายทางสังคมได้แก่
Startup และบริษัทเอกชนสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการสร้างงานวิจัยที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นทั้งในภาคธุรกิจและภาคการศึกษา ตัวอย่างความร่วมมือที่น่าสนใจมีดังนี้
ทุกวันนี้ศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกกำลังเคลื่อนเข้าหาเอเชีย ทั้งบุคลากรที่ย้ายมาทำงานที่นี่ อีกทั้งเรื่องของเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาได้เดินทางมายังสิงคโปร์ เพื่อเป็นสักขีพยานในการประกาศความร่วมมือระหว่าง Element AI บริษัทระดับโลกผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับ GIC, SGInnovate และ Singapore Management University (SMU) ในการพัฒนานวัตกรรมด้านการเงิน
การจับมือเป็นพันธมิตรครั้งนี้เป็นการยกระดับบทบาทของแคนาดาในเอเชีย อีกทั้งวางตัวเป็น Global Tech Hub ต้อนรับคนเก่งจากทั่วโลกโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ
ในฐานะการเป็นพลเมืองโลก หากเราได้พูดคุย เรียนรู้ แลกเปลี่ยน เคารพ และเข้าใจความแตกต่างของกันและกันมากเท่าไร ยิ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่ง และสร้างชีวิตที่ดีขึ้นร่วมกันได้มากเท่านั้น
จะเห็นได้ว่ารัฐบาลแคนาดาได้วางตัวเป็นผู้นำด้าน AI อย่างชัดเจน มีการออกนโยบายดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วโลก เพื่อช่วยป้องกันอัตราการว่างงาน อีกทั้งช่วยลดความเหลื่อมล้ำในประเทศตัวเองอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราพากันหวาดกลัวว่า AI จะเข้ามาแย่งงานในอนาคต หรือจะพัฒนาจนเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์นั้นยังคงต้องรอกันไปอีกสักพัก
เราไม่รู้แน่ชัดว่าอนาคตของ AI จะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือมันจะเข้ามาเปลี่ยนทุกอย่าง เราจะปรับตัวรับมือกับมันอย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย ยังไงมนุษย์ก็ถูกสร้างมาให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอยู่แล้ว ท้ายที่สุดมนุษย์อาจพัฒนาเป็น AI ก็ได้ เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันในการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้ล้ำขึ้น นี่อาจนำไปสู่การสร้างเจเนอเรชันใหม่ที่ดีกว่า
อ้างอิง Bloomberg, Forbes, Fortune, WIRED, The Verge, Digital Journal, IT World Canada
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด