EV จีนวิกฤตหนัก สงครามราคาเดือด รถขายไม่ออก ผู้ผลิตรายเล็กส่อไปไม่รอด | Techsauce

EV จีนวิกฤตหนัก สงครามราคาเดือด รถขายไม่ออก ผู้ผลิตรายเล็กส่อไปไม่รอด

วิกฤตรถไฟฟ้าจีน ‘ใครจะอยู่ ใครจะไป’ ประเทศจีนเจ้าของตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังตกอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตลาดที่มีผู้เล่นจำนวนมากและเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว กำลังเผชิญกับภาวะอุปทานส่วนเกินและการแข่งขันราคาที่ดุเดือด สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กให้ต้องปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

วิกฤตผู้ผลิต EV จีนรายเล็ก

รัฐบาลจีนสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามาต่อเนื่องหลายปี ส่งผลให้ตลาดรถ EV เติบโตอย่างมากในประเทศและส่งผลให้ผู้เล่นบางรายสามารถเติบโตในระดับโลกได้ ตัวอย่างเช่น BYD ที่แข่งขันกับ Tesla 

แม้ตลาด EV จะโต แต่ไม่ใช่กับทุกแบรนด์ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายเล็กไม่น่าจะอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด

ปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 200 รายในประเทศกำลังต่อสู้กับอุปทานส่วนเกินอย่างมาก ด้วยสาเหตุที่มาจาก ปัญหาสงครามราคา ไปจนถึง ยอดขายที่ชะลอตัว จากเศรษฐกิจที่หดตัวลงในประเทศ ความท้าทายที่เกิดขึ้นในจีนยังบีบให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกหลายรายต้องล่าถอยออกจากตลาดจีน 

ตามสถิติของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน ผู้ผลิตรถยนต์กว่า 12 แบรนด์ได้หายไปจากตลาดจีนเมื่อปี 2023 ซึ่งรวมถึงแบรนด์ EV ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยม เช่น WM Motor, Byton, Aiways และ Levdeo 

ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกบางรายยังต้องปรับโครงสร้างธุรกิจของตนใหม่หรือปิดกิจการลง ในเดือนตุลาคม Mitsubishi Motors ได้ประกาศยุติการผลิตรถยนต์ของบริษัทที่บริษัทร่วมทุนในจีน นอกจากนี้ Honda (HMC) Hyundai และ Ford ได้ดำเนินการเลิกจ้างพนักงานและขายโรงงานเพื่อลดต้นทุน ตามรายงานที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์และรายงานจากสื่อของรัฐ

ภายในปี 2030 จีนอาจเหลือผู้ผลิต EV รายใหญ่น้อยกว่า 5 ราย Richard Yu ซีอีโอจาก consumer business จาก Huawei ทำนายไว้เมื่อเดือนมิถุนายน 2023

ปัญหาของรถยนต์ไฟฟ้าจีน ที่ยังแก้ไม่ได้ 

ผู้เล่นมากเกินไปในตลาด

ด้วยนโยบายของรัฐที่สนับสนุนรถยนต์ EV ส่งผลให้มีผู้ผลิตเป็นจำนวนมากและเป็นปัญหาสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ หรือ NDRC คาดว่าจะมีการเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ หรือ NEV มากกว่า 110 รุ่นในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้รถยนต์ EV หลั่งไหลเข้ามาสู่ตลาด

Xiaomi แบรนด์สมาร์ทโฟนสัญชาติจีน ได้เปิดตัวรถยนต์ซีดานไฟฟ้า SU7 เพื่อแข่งขันกับ Tesla และ Porsche ด้วยรถยนต์ระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับราคาเริ่มต้นเพียง 215,900 หยวน หรือราว 1.1 ล้านบาท

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 Meizu ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอีกรายได้ประกาศว่าจะร่วมมือกับ Geely Auto และจะเปิดตัว Meizu DreamCar MX รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในปี 2024 ในเดือนเดียวกัน Huawei ก็ได้เปิดตัวรถซีดานไฟฟ้ารุ่นแรก Luxeed S7 ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Chery Auto โดยมีเป้าหมายที่จะต่อสู้กับ Model S ของ Tesla

2024 เดินทางมายังไม่ถึงครึ่งปี สามผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่อย่าง BYD, Huawei’s Aito และ Li Auto ก็กำลังวางแผนที่จะเพิ่มการส่งมอบรถยนต์อีก 2.3 ล้านคัน แต่ความต้องการของตลาดทั้งหมดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.1 ล้านคันเท่านั้น

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลของประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 26.8 ล้านคันในปี 2024 แต่เป้าหมายยอดขายรวมของผู้ผลิตรายใหญ่จนถึงขณะนี้ขายได้กว่า 30 ล้านคันซึ่งบรรลุเป้าหมายในปีนี้ไปแล้ว 

สงครามราคาที่ดุเดือด

อุปทานส่วนเกินทำให้บริษัทต่างๆ มีสินค้าคงคลังส่วนเกินที่ต้องจำกัดเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน จึงจำเป็นต้องเร่งยอดขาย รวมถึงกระตุ้นการส่งออก ซึ่งเสี่ยงที่จะเพิ่มความตึงเครียดกับคู่ค้ารายสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหากระแสเงินสดและทำให้ผู้ผลิตเข้าสู่ภาวะวิกฤติ นำมาสู่ปัญหาการ ลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย เป็นอีกปัญหาสำคัญของตลาด EV จีน

สงครามราคาเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม 2022 เมื่อ Tesla ลดราคารถยนต์ Model 3 และ Model Y ในจีนลงมากถึง 9% ในอีกสามเดือนถัดมา ก็ได้ลดราคารถยนต์อีกครั้ง ทำให้เกิดกระแสการลดราคาไปทั่วอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศในปี 2023 รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินด้วย

ในสัปดาห์นี้ Tesla ได้ปรับลดราคาเริ่มต้นของรุ่นที่ขายในจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งอีกครั้ง 14,000 หยวน หรือราว 71,238 บาท ทำให้ Xpeng และ Li Auto ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดของจีน เสนอเป็นส่วนลดจำนวนหรือเงินอุดหนุนหลายสิบล้านดอลลาร์เพื่อดึงดูดผู้บริโภค

ถึงแม้การลดราคาลงจะเพิ่มความสนใจให้กับผู้บริโภคในประเทศ แต่ไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะมีความสามารถที่จะมอบส่วนลดได้ตลอดไป บริษัทที่มีเงินทุนที่มากเพียงพอและกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ สายป่านที่ยาวพอจึงจะช่วยให้ธุรกิจยังคงอยู่รอดต่อไป

ตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) การแข่งขันลดลาคาทำให้ความสามารถในการทำกำไรลดลง ในปี 2023 อัตรากำไรเฉลี่ยของอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนลดลงเหลือ 5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งทศวรรษ

การแข่งขันยิ่งสูง ยิ่งเสี่ยง

Tesla ถูกโค่นล้มโดย BYD ในฐานะแบรนด์ EV ที่ขายดีที่สุดในโลกในไตรมาสที่สี่ในปี 2023 ด้วยโมเดลระดับเริ่มต้นของ BYD จำหน่ายในประเทศจีนในราคาต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3 แสนบาท ในทางตรงกันข้าม Tesla Model 3 ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกที่สุด ปัจจุบันมีราคาอย่างน้อย 32,002 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 ล้านบาท หลังจากการลดราคาครั้งล่าสุด

“มองถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในขณะนี้ เมื่อรวมกับระบบอัตโนมัติและนวัตกรรมในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ในรถยนต์จีน หมายความว่าผู้ผลิตรถ EV ต่างชาติดั้งเดิมจะรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากแบรนด์จีนจำนวนมากได้ค่อยๆ ทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในตลาดต่างประเทศ” Rainford นักวิเคราะห์จากช่อง YouTube Inside China Auto กล่าว

และเมื่อการแข่งขันรุนแรงขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายจะไม่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

“อุตสาหกรรม EV ของจีนได้เข้าสู่ช่วงของการปรับตัวตามวัฏจักรหลังจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่าสองทศวรรษ” Wang Chuanfu ประธานของ BYD กล่าวในฟอรัมในกรุงปักกิ่ง

“ในปี 2024 อุตสาหกรรม EV จีนได้เข้าสู่รอบ ‘knockout’ อย่างแท้จริง ผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าจะถูกกำจัด และส่งผลให้บริษัทที่แข็งแกร่งมีแนวโน้มที่จะเข้าซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งนำไปสู่การสับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมครั้งใหม่” Gan Jiayue ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Geely Auto กล่าว ซึ่งหมายความว่าบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางอาจจะหายไปในตลาด EV ภายในปีนี้

ตลาด EV จีนยังคงไม่หมดหวัง

อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ EV จีนยังคงสามารถเติบโตได้ในอนาคต ตามรายงานของ International Energy Agency กล่าวว่าในปี 2024 ส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในจีนอาจสูงถึง 45% ด้วยแรงหนุนจากการแข่งขันระหว่างผู้ผลิต ราคาแบตเตอรี่และรถยนต์ที่ลดลง รวมถึงการสนับสนุนนโยบายจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง 

อ้างอิง: edition.cnn

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ชี้เป้า 5 เทรนด์การใช้ AI (Agent) พาธุรกิจโต ในปี 2025 โดย Salesforce

เผยแนวโน้มการใช้ AI เพื่อสร้างการเติบโตด้านรายได้ให้ธุรกิจ และอัปเดตความก้าวหน้าในการพัฒนา AI Agent ให้ทำงานได้อัตโนมัติ (Autonomous) โดย Salesforce...

Responsive image

‘ธนวัต สุตันติวรคุณ’ CEO ผู้ผันสู่โลกอนาคตจากระบบการเงินดั้งเดิม นำทีม Bitazza Thailand เสริมความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัล

คุณธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด หรือ Bitazza Thailand แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย มาเผยมุมมองเกี่ยวกับการบริหารธุร...

Responsive image

ทำไมคนสหรัฐฯ เดือดร้อนกับการแบน TikTok ? 3 เหตุผลที่ TikTok สำคัญกับชาวสหรัฐฯ มากกว่าที่คิด

เจาะลึก 3 เหตุผลที่การแบน TikTok อาจส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันมากกว่าที่คิด ทั้งด้านเศรษฐกิจ อาชีพ และการเชื่อมโยงในยุคดิจิทัล...