ในการรับมือกับการระบาดของโรค “COVID-19" สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (National Health Commission – NHC) ระบุในรายงานอย่างเป็นทางการของสำนักงาน เกี่ยวกับวิธีวินิจฉัยและการรักษาโรค ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาว่าการตรวจวินิจฉัยทางเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) เป็นหนึ่งในวิธีมาตรฐานในการตรวจวินิจฉัยโรค COVID-19 ที่มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่ช่วยตัดสินในการวินิจฉัยและรักษาโรค COVID-19
การตรวจด้วย CT สามารถวินิจฉัยและประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากรอยโรคในปอดมีจำนวนมากและและสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จึงต้องตรวจซ้ำและอ่านภาพซ้ำหลายครั้งภายในเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มงานเป็นอย่างมากให้กับรังสีแพทย์ สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือจำนวนรังสีแพทย์ที่สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยโรค COVID-19 ได้อย่างแม่นยำนั้นมีจำนวนไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพของการวินิจฉัยจึงไม่สามารถยกระดับไปได้มากเท่าใดนัก
เมื่อเร็วๆ นี้ HUAWEI CLOUD จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Huazhong University of Science & Technology และบริษัท Lanwon Technology พัฒนาและเปิดตัวบริการผู้ช่วย AI วิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณสำหรับโรค COVID-19 ด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำของ HUAWEI CLOUD อย่างคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) และ การวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์ บริการดังกล่าวจะสามารถรายงานผลการตรวจ (CT quantification) ให้แก่รังสีแพทย์และอายุรแพทย์ได้โดยอัตโนมัติ รวดเร็ว และถูกต้อง ช่วยแก้ไขสถานการณ์การขาดแคลนรังสีแพทย์ที่สามารถวินิจฉัยโรค COVID-19 อย่างแม่นยำ รวมทั้งช่วยลดความกดดันในงานด้านการกักตัวผู้ป่วย และช่วยลดภาระงานของแพทย์ได้เป็นอย่างมาก บริการดังกล่าวยังใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านการคำนวณอันทรงพลังของชิป AI ในซีรีส์ Ascend ของหัวเว่ยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและลดขั้นตอน (quantization) ของเคสหนึ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ทั้งนี้ ระบบการใช้ "AI การวินิจฉัยของแพทย์" รวดเร็วกว่าการวิเคราะห์ภาพเชิงปริมาณด้วยมนุษย์เพียงอย่างเดียวหลายสิบเท่า ซึ่งทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคขึ้นอย่างมาก
HUAWEI CLOUD ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์และการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เพื่อแยกแยะระหว่างจุดขาวพร่าในปอด (ground glass opacities - GGOs) จำนวนมาก กับการรวมตัวกันของเนื้อปอด (consolidation) แล้ววิเคราะห์ผลเชิงปริมาณจากผลการตรวจ CT ปอดผู้ป่วย กระบวนการดังกล่าวเป็นการรวมข้อมูลทางอายุรกรรมและผลแล็บเพื่อช่วยให้แพทย์ระบุได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นว่าโรค COVID-19 อยู่ในระยะเริ่มต้น ระยะลุกลาม หรือระยะรุนแรง ทั้งยังช่วยคัดกรองและป้องกันควบคุมโรคได้ในเบื้องต้น สำหรับเคสผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วในโรงพยาบาล บริการผู้ช่วย AI จะสามารถ ขึ้นทะเบียนและวิเคราะห์เชิงปริมาณต่อข้อมูลประมวลผล 4 มิติ (4D dynamic data) ที่ได้จากการตรวจสอบซ้ำจำนวนหลายครั้งได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ช่วยให้แพทย์ประเมินอาการของผู้ป่วยและผลกระทบจากการใช้ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการวิเคราะห์เคสผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 และเคสที่ไม่ติดเชื้อจำนวนหลายร้อยเคส บริการตรวจหาเชื้อเชิงปริมาณด้วยผู้ช่วย AI ของ HUAWEI CLOUD ได้บรรลุค่าสัมประสิทธิ์ความละม้ายไดซ์ (Dice Similarity Coefficient) ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม (ซึ่ง DICE คือการซ้อนทับระหว่างรอยโรคที่คาดการณ์ว่าจะเกิดกับรอยโรคที่เกิดขึ้นจริง) รวมทั้งบรรลุ Absolute Volume Difference (AVD) หรือความต่างเชิงปริมาณระหว่างรอยโรคที่คาดการณ์ว่าจะเกิดกับรอยโรคที่เกิดขึ้นจริง ในการแยกแยะบริเวณที่เกิดรอยโรค ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้สอดคล้องกันอย่างยิ่งกับการวาดด้วยมืออย่างแม่นยำโดยแพทย์ นอกจากนี้ ด้วยชิปซีรีส์ Ascend AI ของหัวเว่ย บริการดังกล่าวสามารถบอกผล CT Quantification ได้ภายในไม่กี่วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีเดิมที่แพทย์ต้องวาดบริเวณที่สนใจ (ROI) เองเพื่อวิเคราะห์ผลเชิงปริมาณ บริการนี้จึงสามารถยกระดับประสิทธิภาพการตรวจหาเชื้อโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด