COVID-19 Vaccine Tracker รวมข้อมูลวัคซีนทั่วโลกที่ประชาชนควรรู้ | Techsauce

COVID-19 Vaccine Tracker รวมข้อมูลวัคซีนทั่วโลกที่ประชาชนควรรู้

COVID-19 Vaccine Tracker นี้ใช้ข้อมูลจากการสำรวจ และเก็บข้อมูลของ Bloomberg ซึ่งทีมงาน Techsauce อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563 ปรากฎว่าวัคซีนป้องกัน COVID-19 ฉีดไปแล้วกว่า 42.2 ล้านโดส ใน 51 ประเทศทั่วโลก อัตราการฉีดล่าสุด 2.43 ล้านโดสต่อวัน และมีการจองไปแล้ว 8.33 พันล้านโดส โดยในสหรัฐอเมริกาได้มีการฉีดวัคซีนแล้ว 14.3 ล้านโดส และมีคนอเมริกัน 1.8 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 ครั้ง

วัคซีนป้องกัน COVID-19  จาก 9 บริษัททั่วโลก คุณสมบัติต่างกันอย่างไร

COVID-19 Vaccine Tracker

Pfizer/ BioNtech (สหรัฐอเมริกา)

Pfizer ถือเป็นบริษัทแรกที่ออกมายืนยันว่าวัคซีนตัวนี้สามารถใช้การได้ใน Phase 3 ของการทดลอง โดยวัคซีนตัวนี้ถูกทำการทดลองมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 และได้มีการอนุมัติให้ฉีดแล้วในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และใน EU เมื่อธนวาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้วัคซีนของ Pfizer นำออกมาใช้งานจริงแล้ว และมีการวางแผนที่จะผลิตวัคซีน 1.3 พันล้านโดสในปีนี้

  • ปริมาณการทดลอง: 44,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 2 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: -70 องศาเซลเซียส อยู่ได้นาน 15 วัน และสามารถอยู่ในความเย็นของตู้เย็นธรรมดาได้ 5 วัน

  • ความมีประสิทธิภาพ: 95%

Moderna (สหรัฐอเมริกา)

ทั้ง Moderna และ Pfizer ได้มีการใช้เทคโนโลยี MRNA ในการผลิตวัคซีน ทาง Moderna ได้เริ่มการทดลองเมื่อกรกฎาคม 2020 และมีการอนุมัติใช้วัคซีนที่สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และใน EU เมื่อธันวาคม 2020 และมกราคมปีนี้ และตามแผนของ Moderna จะต้องผลิตวัคซีน 100 ล้านโดสให้ทันภายใน Q1

  • ปริมาณการทดลอง: 30,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 2 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส อยู่ได้นาน 30 วัน และอยู่ได้นาน 6 เดือนในความเย็น -20 องศาเซลเซียส

  • ความมีประสิทธิภาพ: 95%

AstraZeneca/ Oxford (อังกฤษ-สวีเดน )

สำหรับ AstraZeneca เป็นบริษัทที่มีการวางแผนจะผลิตวัคซีนให้ได้ 3 พันล้านโดส ก่อนที่จะมีการยืนยันประสิทธิภาพของวัคซีนใน Stage 3 ซึ่งถือเป็นการผลิตที่มากกว่าบริษัทอื่นๆ ถึง 2 เท่า โดยทาง AstraZeneca ได้เริ่มต้นทดลองเมื่อกรกฎาคม 2020 และได้ผลิตออกมาใช้จริงเมื่อปลายธันวาคมปีเดียวกัน โดยจำหน่วยให้กับสหราชอาณาจักร และอินเดียแล้ว

  • ปริมาณการทดลอง: 65,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 2 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส

  • ความมีประสิทธิภาพ: 70%

Novavax (สหรัฐอเมริกา)

Novavax เป็นบริษัทด้านไบโอเทคโนโลยีขนาดเล็กที่ยังไม่เคยผลิตสินค้าออกสู่ตลาด แต่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางสหรัฐฯ 1.6 พันล้าน และจากทางหน่วยงานอื่นๆ อีก 399 ล้าน เพื่อใช้ผลิตวัคซีน ซึ่งทาง Novavax ในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงการทดลองประสิทธิภาพของวัคซีน

  • ปริมาณการทดลอง: 45,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 2 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส

  • ความมีประสิทธิภาพ: - (อยู่ในช่วงการทดลอง)

Johnson & Johnson (สหรัฐอเมริกา)

J & J เป็นบริษัทแรกที่ออกมาบอกว่าสามารถผลิตวัคซีนที่ใช้เพียง 1 โดสต่อคนได้ แต่หลังจากนั้น เมื่อพฤศจิกายน 2020 ได้มีการออกมาแถลงว่าจะมีการทดลองแยกของวัคซีนที่ต้องใช้ 2 โดส ซึ่งตอนนี้ J & J กำลังอยู่ในช่วงของการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีน

  • ปริมาณการทดลอง: 70,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 1 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส

  • ความมีประสิทธิภาพ: - (อยู่ในช่วงการทดลอง)

Sinovac Biotech (จีน)

โดยวัคซีนของ Sinovac นี้จะใช้เชื้อไวรัส COVID-19 ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีน โดย Sinovac ได้เริ่มต้นทดลองตั้งแต่กรกฎาคม 2020 และได้มีการนำไปใช้จริงแล้วหลังจากทำการทดลองเพียง 1 เดือนกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในราคา 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส (หรือประมาณ 900 บาทต่อโดส)

  • ปริมาณการทดลอง: 26,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 2 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส อยู่ได้นานถึง 3 ปี

  • ความมีประสิทธิภาพ: 78%

Gamaleya (รัสเซีย)

บริษัทสัญชาติรัสเซียที่ผลิตวัคซีนอย่าง Sputnik V สามารถผลิตวัคซีนออกมาใช้งานจริงได้แล้ว แต่ยังมีในปริมาณที่จำกัด โดยตอนนี้มีทางอาร์เจนตินานำวัคซีนตัวนี้ไปใช้แล้ว

  • ปริมาณการทดลอง: 26,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 2 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส อยู่ได้นาน 6 เดือน

  • ความมีประสิทธิภาพ: 78%

CanSino Biologics (จีน)

วัคซีนของ CanSino ได้รับการอนุมัติใช้จากจีน โดยนำไปใช้ในกองทัพ ซึ่งเป็นการอนุมัติก่อนที่ผลการทดลองจะออกมาว่ามีประสิทธิภาพ และสามารถการใช้งานของวัคซีนตัวนี้ใช้ได้ 1 โดสต่อคน

  • ปริมาณการทดลอง: 40,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 1 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส อยู่ได้นาน 6 เดือน

  • ความมีประสิทธิภาพ: -

Sinopharm (จีน)

Sinopharm ได้ถูกสั่งซื้อกว่าแสนโดสก่อนที่ผลการทดสอบประสิทธิภาพจะชัดเจน 

  • ปริมาณการทดลอง: 50,000 คน

  • ปริมาณวัคซีน: 2 โดส

  • อุณหภูมิการเก็บรักษา: 2-8 องศาเซลเซียส 

  • ความมีประสิทธิภาพ: 50%

หลังจากที่ทราบถึงคุณสมบัติไปแล้ว คราวนี้มาดูกันว่า ผู้ผลิตวัคซีนแต่ละรายปัจจุบันได้รับอนุมัติให้มีการใช้จากประเทศใดไปแล้วบ้าง

  • Pfizer/ BioNtech ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ในแคนนาดา สหรัฐอเมริกา  เม็กซิโก คอสตาริก้า เอกวาดอร์ ปานามา ชิลี อาร์เจนตินา เกาะบริเตรใหญ่และสหภาพ EU สวิสเซอร์แลนด์ จอร์แดน คูเวต UAE และสิงคโปร์  ในขณะที่ซาอุดิอาระเบีย และบาเรนห์ ได้มีการรับรองเรียบร้อยแล้ว
  • Moderna ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ในแคนนาดา สหรัฐอเมริกา  สภาพ EU  สวิสเซอร์แลนด์  และอิสราเอล
  • Gamaleya (Sputnik V) ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ในรัสเซีย โบลิเวีย อาร์เจนตินา อาจีเรีย เบลารุส เซอเบีย และปาเลสไตน์
  • AstraZeneca/ Oxford ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ในประเทศเม็กซิโก เอลซัลวาดอร์ แถบอเมริกากลาง อาร์เจนตินา อินเดีย โมรอคโค และเกาะบริเตนใหญ่ ในหมู่เกาะบริติช รวมถึงประเทศไทยเอง อยู่ระหว่างเตรียมอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินจากจากอย. เช่นเดียวกัน
  • CanSino Biologics ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเฉพาะในจีน
  • Sinovac Biotech ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในจีน ตุรกี และอินโดนีเซีย
  • Sinopharm ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในจีน และ UAE

อัพเดทข้อมูลว่าตอนนี้วัคซีน COVID-19 ฉีดไปเท่าไหร่แล้ว และมีที่ไหนบ้าง

โดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ได้รวบรวมข้อมูลปรากฎเป็นตารางดังนี้ 

Vaccine Contracts

หลังจากที่ได้มีการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนแล้ว หลายๆ ประเทศก็ต้องการที่จะเข้าถึงวัคซีนป้องกัน COVID-19 ทำให้มีการกักเก็บวัคซีนไว้แล้วที่ 8.33 พันล้านโดส ณ ตอนนี้ ซึ่งวัคซีนในปริมาณเท่านี้สามารถฉีดให้กับประชากรได้กว่าครึ่งซีกโลกถ้ามีการแจกจ่ายไปหลายๆ ประเทศอย่างเท่าๆ กัน แต่ก็มีปัญหาตรงที่ว่าประเทศที่ร่ำรวยกว่าก็จะสามารถซื้อวัคซีนได้ในปริมาณที่เยอะกว่า นอกจากนี้วัคซีนบางตัวจำเป็นที่จะต้องเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆ จึงทำให้เกิดความลำบากในการขนส่งไปประเทศที่อยู่ไกลจากฐานการผลิต และยังมีการคาดการณ์ว่าบางประเทศจะได้รับวัคซีนในช่วงปลายปี 2022 หรือหลังจากนั้น

โดยตอนนี้ทางบริษัท AstraZeneca ก็นับว่าเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการผลิตวัคซีน เพราะมีการสั่งจองและทำสัญญาซื้อวัคซีนล่วงหน้ากว่า 90 สัญญา และจะต้องผลิตวัคซีนออกมาให้กับประชากร 1.48 พันล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลขที่มากกว่าบริษัทอื่นๆ ถึง 2 เท่า

แต่ไม่ใช่ว่าวัคซีนทุกตัวจะมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น วัคซีน 51 ล้านโดสที่สั่งจองโดยออกเตรเลียเพื่อไปฉีดให้กับคนในประเทศได้ถูกยกเลิก เพราะผลการทดลองทางการแพทย์ล้มเหลว และหลังจากนั้นไม่นานทาง Sanofi และ GlaxoSmithKline Plc ก็ออกมาประกาศเรื่องความล่าช้าในการทดสอบคุณภาพวัคซีนเช่นกัน

มาตรการสำหรับการเก็บ และหาซื้อวัคซีนก็แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกาก็จะต้องเป็นฝ่ายหาซื้อวัคซีนมากักเก็บเองทั้งหมด ในบางประเทศจะได้รับวัคซีนจาก Covax ที่เป็นหุ้นส่วนกับทาง WHO ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ก็จะมี Carlos Slim เศรษฐีชาวแม็กซิกันที่ออกมาบอกว่าจะเป็นผู้กวาดซื้อวัคซีนราคาถูกให้กับคนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ และอย่างในอินเดีย จะมีการผลิตวัคซีน 2.2 พันล้านโดส และยังวางแผนที่จะส่งวัคซีนไปให้ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันอีกด้วย 

และในเรื่องของความรวดเร็วในการผลิตวัคซีนนั้น ตอนนี้ยังขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุนที่จะไปช่วยสนุบสนุนในการผลิต จึงทำให้ประเทศที่ร่ำรวยกว่าได้เปรียบ อย่างในอเมริกาที่มีการตั้ง Operation Warp Speed โปรแกรมเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในการพัฒนาและผลิตวัคซีน และอย่างในแคนาดาที่มีประชากรเพียง 38 ล้านคน แต่ทำการสั่งจองวัคซีนในปริมาณที่ใช้ได้ถึง 112 ล้านคน ซึ่งยังไม่รวมวัคซีนที่ทำสัญญาซื้อขายกับทาง Covax อีก แต่ในทางกลับกันทางฝั่งรัสเซีย และจีนที่เป็นประเทศมหาอำนาจเช่นกัน ซึ่ง 2 ประเทศนี้ยังคงเดินหน้าต่อกับการผลิตและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ โดยรัสเซียก็มีวัคซีน Sputnik V ที่ผลิตโดย Gamaleya และจีนก็มีวัคซีนที่ผลิตโดย Sinopharm ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางรัฐบาลจีนยังไม่มีการออกมาให้ข่าวเรื่องปริมาณการผลิตวัคซีน แต่ก็คาดเดาได้ว่าประเทศจีนจะผลิตออกมาเพียงพอกับจำนวนประชากรทั้งหมด


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สองวิธีเรียกคืนอำนาจบริหารจากบริษัทตัวเอง ถกประเด็นน่ารู้จากซีรีส์ Queen of tears

เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร ...

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...