คุยกับ depa อนาคตของการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะและการสนับสนุนผู้ประกอบการ Startup

Smart City (เมืองอัจฉริยะ) หรือเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง ลดค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรของเมืองและประชากรเป้าหมาย โดยเน้นการออกแบบที่ดี และการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและภาคประชาชนในการพัฒนาเมือง ภายใต้แนวคิดการพัฒนา เมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขอย่างยั่งยืน ( สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) 

โดยสำหรับประเทศไทยนั้น หน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนนโยบายการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ คือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (depa) ซึ่งได้จัดตั้งสำนักงานเมืองอัจฉริยะ เป็นหน่วยงานใต้กำกับดูแลที่มีภารกิจในการจัดทำแผนแม่บท แผนปฏิบัติการและการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ในงาน Techsauce Global Summit 2022 เมื่อวันที่ 26-27 สิงหาคมที่ผ่านมา Techsauce ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เกี่ยวกับวิสัยทัศน์สู่ก้าวต่อไปของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ภารกิจของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และแนวทางในการสนับสนุนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในประเทศไทย

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า ภารกิจของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลคือการเป็นสะพานเพื่อเชื่อมโยงให้เกิดความร่วมมือและการพัฒนา โดยได้แบ่งประเภทเมืองอัจฉริยะเป็น 2 ประเภท 

  1. เมืองอัจฉริยะ หมายถึง เมืองที่ผ่านการรับรองตราสัญลักษณ์เป็นเมืองอัจฉริยะ จากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะและได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ 
  2. เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ หมายถึง เมืองที่มีความต้องการพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ และได้จัดส่งข้อเสนอแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะมายังสำนักงานเมืองอัจฉริยะแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะเพื่อประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะ 

ซึ่งสำหรับเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะนั้น ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่าภารกิจของสำนักงานฯ คือการสร้างความเข้าใจ และการบ่มเพาะวิธีคิดของผู้นำเมืองและท้องถิ่น ให้มีเป้าหมายระยะยาวที่สอดคล้องกัน และจะต้องผ่านมาตรฐานการเป็นเมืองอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดพื้นที่และเป้าหมายที่ชัดเจน, มีแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมือง, มีระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลเมือง (City Data Platform) ที่ปลอดภัย, มีบริการเมืองอัจฉริยะตามลักษณะ 7 ด้าน และมีการบริหารจัดการที่ยั่งยืน

โดยที่ผ่านมาสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลได้ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะผ่านหลากหลายวิธีการ เพื่อจะสร้างวิธีคิดให้กับผู้นำและประชาชนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการจัดโครงการ The Smart City Ambassadors เฟ้นหาผู้นำรุ่นใหม่ ที่ต้องการพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง มาทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ในภารกิจการสร้างเมืองน่าอยู่ ซึ่ง ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า โครงการนี้จะทำให้เกิดการแก้ปัญหาจากล่างขึ้นบน ทำให้ภาครัฐมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงจากแต่ละพื้นที่ และผู้คนในท้องถิ่นได้สร้างเมืองแบบที่ต้องการ ซึ่งบทบาทของสำนักงานฯ นั้น คือการนำเอาปัญหาและแนวทางการพัฒนาของแต่ละเมืองนำเสนอให้กับสำนักงบประมาณ และหาแนวทางพัฒนาร่วมกับแต่ละพื้นที่ต่อไป

สำหรับความท้าทายของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยนั้น ผศ.ดร.ณัฐพล ชี้ว่าการมีส่วนร่วมระหว่างภาคประชาชนและภาครัฐนั้นถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่จะต้องทำให้สำเร็จ โดยภาครัฐจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการพัฒนามากขึ้น และต้องทำให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่มองเห็นเป้าหมายและผลลัพธ์ของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่เป็นรูปธรรมให้ได้ และพัฒนาเมืองตามความต้องการจริงของประชาชน เพื่อการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

ในด้านของการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพ  ผศ.ดร.ณัฐพล เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลได้จัดทำบัญชีบริการดิจิทัล (Government Procurement) ซึ่งเป็นรายชื่อธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งจะให้บริการอยู่บนช่องทางออนไลน์ สำหรับให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปเลือกใช้บริการ ทำให้ผู้รับบริการมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการดิจิทัลที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพ และราคาสมเหตุสมผล ซึ่งในอีกทางหนึ่งเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าสู่ตลาดภาครัฐได้สะดวกขึ้น ทั้งในระดับส่วนกลางและท้องถิ่นด้วย 

นอกจากนั้น ผศ.ดร.ณัฐพลยังกล่าวเชิญชวนให้ผู้ประกอบการธุรกิจดิจิทัลสตาร์ทอัพมองหาโอกาสจากตลาดในระดับชาติ ซึ่งทาง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลพร้อมจะเป็นประตูที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไปสู่เป้าหมายได้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Gartner ชี้สัญญาณอันตราย 5 จุดบอดของ GenAI ที่ผู้บริหารไอทีต้องเร่งจัดการก่อนจะสาย

Gartner เตือน CIO ถึง 5 จุดบอดสำคัญในการใช้ GenAI ทั้ง Shadow AI, หนี้ทางเทคนิค และทักษะคนที่ถดถอย พร้อมทำนายปี 2030 คือจุดชี้ชะตาธุรกิจ...

Responsive image

สรุป Insight จาก ‘Turn ThAI to Tech Tide’ ชี้ไทยผลิต AI Talent ได้ไม่ถึง 500 คนต่อปี ถอดรหัส 4 กลยุทธ์จาก ดร.เอ้ และ ดร.อ้อ กู้วิกฤต Talent พลิกอนาคต AI ไทย

เจาะลึกกลยุทธ์กู้วิกฤตระบบเทคไทยจากการศึกษาจนถึงนโยบายรัฐ จากเวที AI Innovation Summit 2025 แก้ปัญหาไทยโตช้าในสนาม Data Economy ระดับโลก...

Responsive image

ปรากฏการณ์ Tech Squad เมื่อตัวจริงวงการสตาร์ทอัพกระโดดสู่สนามเลือกตั้ง 69

วิเคราะห์เจาะลึกปรากฏการณ์ Tech Squad พรรคประชาชน แม็กซ์ StockRadars, ป้อม ภาวุธ, มาร์ค Blognone กับภารกิจเปลี่ยนภาครัฐด้วย Data และ Tech ในสนามเลือกตั้ง 69...