ในอดีตการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตนเองเป็นเรื่องที่ยาก ทำให้ Smart Contract จึงเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2015 เนื่องจากทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถสร้าง Token ของตัวเองขึ้นมาได้ แต่ก็ยังมีปัญหาหลายประการต้องได้รับการแก้ไข ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีการที่เป็นมาตรฐานสำหรับการสร้าง Token ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักโปรโตคอลมาตรฐานสำหรับการสร้าง Token บน Blockchain ยอดนิยมอย่าง Ethereum และ Binance Smart Chain อย่าง ERC-20 และ BEP-20 รวมถึงมาตรฐานอื่นๆที่ควรรู้จักกัน
ERC-20 คือ โปรโตคอลที่เป็นมาตรฐานหรือชุดกฎสำหรับการสร้าง Token บนเครือข่าย Ethereum เพื่อให้ทุก Token มีคุณสมบัติเหมือนกันทุกประการ โดยการสร้าง Token เป็นวิธีที่ง่ายสำหรับนักพัฒนาในการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์บน Blockchain และในกรณีที่ไม่มี Blockchain ของตนเอง ซึ่งการใช้สัญญา ERC20 นักพัฒนาจะสามารถคาดการณ์ได้อย่างถูกต้องว่า Token ERC20 ใหม่ของพวกเขาจะทำงานภายในระบบนิเวศของ Ethereum ได้อย่างไร
นอกจากนี้ Token ที่ใช้มาตราฐาน ERC-20 สามารถใช้แทน Token อื่นได้หากสร้างขึ้นจาก smart contract เดียวกัน
ตัวอย่าง Token ที่ใช้มาตราฐาน ERC-20 ที่เรารู้จักกัน ได้แก่ Uni ของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบไร้ศูนย์กลาง Uniswap
ทั้งนี้นอกจากมาตรฐานERC-20 แล้ว มาตรฐาน Ethereum อื่น ๆ ถูกสร้างขึ้นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ได้แก่ :
ERC-721 มาตรฐาน Token สำหรับ NFT ที่แต่ละ Token จะมีเอกลักษณ์เฉพาะและมีรหัสของตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ตลาดที่กำลังเติบโตสำหรับของสะสม crypto ซึ่งรวมถึงการ์ดซื้อขายและงานศิลปะดิจิทัล
ERC-1155 มาตรฐานสำหรับ NFT เหมือน ERC-721 แต่ต่างกันตรงที่มาตรฐานนี้สามารถที่จะมี NFT หลายรายการภายในหนึ่ง smart contract และมีความคล่องแคล่วและสามารถจัดการกับคุณสมบัติต่างๆ ได้มากกว่า
ERC-1400 ใช้สำหรับ Token ความปลอดภัยเพื่อให้สามารถขาย Token เป็นหลักทรัพย์ได้ ซึ่งต้องควบคุมอย่างมากว่าใครสามารถเข้าถึง Token ได้
ERC-223 มาตรฐาน Token Ethereum ที่ขับเคลื่อนโดย Smart Contract ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอน Token ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย
ERC-777 - มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงมาตรฐาน ERC-20 โดยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณสมบัติใหม่
BEP-20 เป็นมาตรฐาน Token ของ Binance Smart Chain ซึ่งคล้ายกับมาตรฐาน ERC20 ของ Ethereum ในหลายๆด้าน โดย BEP20 กำหนดกฎเกณฑ์ของ Token ทั้งหมดที่สร้างบน BSC ที่นักพัฒนาจำเป็นต้องปฏิบัติตาม ซึ่งมาตรฐาน BEP20 บน BSC ใช้กับ Token ที่เปิดตัวหรือสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Binance Smart Chain
ตัวอย่างของ Token BEP20 ได้แก่ utility tokens, stablecoins และ security tokens
Binance Chain ใช้มาตรฐาน BEP2 ในขณะที่ Binance Smart Chain ใช้มาตรฐาน BEP20 ซึ่งในการที่จะใช้เชนใดเชนหนึ่ง จำเป็นที่จะต้องใช้ BNB มาเป็นค่าธรรมเนียมดังกล่าว ทั้งนี้ในการใช้งานผู้ใช้สามารถที่จะสลับเชนได้อย่างราบรื่น เพราะมาตรฐาน Token ทั้งสองสามารถที่จะเข้ากันได้ โดยเมื่ออยู่บน Binance Chain ผู้ใช้ต้องทำงานกับ Token ดั้งเดิม BEP2 แต่เมื่อต้องการใช้ Binance Smart Chain ในการทำโปรเจคต่างๆเช่น Dapp ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้ BEP20
อย่างไรก็ตามแม้ว่าแต่ละมาตรฐานสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกัน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือเพื่อให้ทุก Token มีประสิทธิภาพที่สุด
อ้างอิง
decrypt , investopedia , crypto.com
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด