คลุกในวงถึง “วงใน" บทสัมภาษณ์สุด Exclusive กับคุณยอด Wongnai | Techsauce

คลุกในวงถึง “วงใน" บทสัมภาษณ์สุด Exclusive กับคุณยอด Wongnai

yod_wongnai

อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มนุษย์เราขาดไปไม่ได้ในการดำรงชีวิต แต่รสชาติที่อร่อยก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นไม่แพ้กัน ใครล่ะที่จะไม่ชอบของอร่อย แต่ใครล่ะที่จะรู้ว่ามีร้านไหนอร่อยบ้าง คุณยอด ชินสุภัคกุล CEO & Co-founder ของแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์แนะนำร้านอาหารอันดับ 1 ของไทย ได้เลือกหยิบคำถามเล็กๆ เหล่านี้ขึ้นมาแล้วสร้างให้มันเกิดขึ้นจริง และกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักชิมและคนทั่วไป

เราจึงอดไม่ได้ที่กลายเป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าไปนั่งคุยกับคนวงในว่ามีที่มาและมีแนวคิดธุรกิจอย่างไรถึงในวง!

ถ้าลองย้อนกลับไปสมัยเริ่มก่อตั้ง วงใน (Wongnai) ขึ้น ตอนนั้นธุรกิจ Startup ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เชื่อมั่นว่ามันจะประสบความสำเร็จ

ทุกอย่างเริ่มต้นมาจากทีมผู้ก่อตั้งครับ เพราะในช่วงแรกเราต้องยอมรับว่าผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรจริงๆ เว็บไซต์ที่เราทำขึ้นก็มีหน้าตาที่ไม่ดี คนเข้ามาใช้จริงก็น้อย แต่เราก็ยังมีความเชื่อมั่นในโปรดักส์อยู่ว่าสิ่งนี้มันสามารถไปได้ไกลจริงๆ เพราะผมเรียนจบมาจากอเมริกาก็จะได้เห็นว่าที่นู่นเขาก็มีเว็ปไซต์ประมาณนี้มากมาย และเอาจริงทั้งโลกเขาก็มีกัน ดังนั้นทำไมที่ประเทศไทยเราเองจะมีไม่ได้ล่ะ ในเมื่อเราก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ตั้งมากมาย

เราก็เลยพัฒนาตัวโปรดักส์ของเราต่อไป ไม่มีคำว่าแค่ไหนที่พอใจ มันต้องดีกว่านี้ได้อีกสิ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดพอจังหวะที่ดีมันมาถึงและเราก็พัฒนาไปถึงตรงนั้นพอดี ทุกอย่างมันก็ลงตัว

ประสบการณ์อะไรจากที่อเมริกาที่คุณดึงออกมาใช้บ่อยที่สุด

ผมใช้เยอะมากครับ เดิมทีผมเรียนจบสายวิศวกรรมฯ มาและจากนั้นก็ไปเรียนปริญญาโท Master of Business Administration (MBA) จากมหาวิทยาลัย UCLA Anderson ที่อเมริกา ตอนผมอยู่ที่นั่นเขาสอนให้เราเป็นเจ้าของธุรกิจ ดังนั้นความรู้ที่ได้เรียนมาทั้งหมดสามารถเอามาใช้ได้ตลอด อย่างช่วงแรกที่ทีมเรายังมีคนไม่เยอะมาก ผมก็ดูแลเรื่องของบัญชีเอง จำได้เลยว่าตอนนั้นผมทำงานแบบไม่สนใจเอกสารอะไรเลยทั้งเดือนและรอมาจัดการให้จบในวันเดียว ซึ่งก็ค่อนข้างหนักพอสมควร (หัวเราะ)

เป็นที่น่าแปลกใจว่า วงใน (Wongnai) ไม่ได้ใช้ Marketing Research ในช่วงเริ่มต้นด้วย

ไม่มีครับ (ยิ้ม) ถ้าเป็นพวกการคุยกับผู้ใช้จริงๆ อันนี้ผมยังพอยอมรับได้นะ แต่ถ้าเป็นการทำ Marketing Research ในรูปแบบแบบสอบถามผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เหตุผลก็เพราะคนมักไม่ตอบความจริง และหัวใจสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือลูกค้าไม่รู้ตัวหรอกว่าที่จริงแล้วเขากำลังต้องการอะไร สิ่งนี้ถูกพิสูจน์มานับไม่ถ้วนแล้วนะครับ คุณไม่รู้ตัวหรอกว่าคุณอยากได้ iPhone จนมันถูกปล่อยวางขาย คุณไม่รู้หรอกว่าอยากใช้ facebook จนกระทั่งมีเกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ จึงเป็นความจำเป็นที่บางครั้งเราในฐานะผู้ประกอบการต้องเป็นคนกำหนดความต้องการอะไรบางอย่างให้กับเขาเอง

อย่างก่อนที่เราจะเริ่มทำ วงใน (Wongnai) ถ้าไปถามเขาก็อาจจะได้คำตอบว่า “ไม่จำเป็นหรอก อ่านเอาจากเว็บไซต์ทั่วไป หรือถามคนรู้จักเอาก็ได้” แต่พอเกิดเป็นเว็บไซต์กับแอปพลิเคชั่นขึ้นมาและเขาได้ลองใช้ เขาก็จะรู้ว่ามันดีและน่าใช้ยังไง

การมาถึงของสมาร์ทโฟนส่งผลอะไรกับ วงใน (Wongnai) บ้าง

ผมไม่อยากให้คนเข้าใจว่าที่ วงใน (Wongnai) เติบโตขึ้นมาได้เกิดจากตัวเราเองเพียงอย่างเดียว สาเหตุนึงที่ต้องยอมรับก็คือตอนนั้นโอกาสมันถูกต้องด้วย เพราะเราจะแนะนำว่ามีร้านอาหารที่อร่อยๆ น่าไปลองอยู่ใกล้คุณได้อย่างไร ถ้าไม่มีการบอกตำแหน่งว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ซึ่งตรงนี้การมีสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่ช่วยเราได้มากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยกเครดิตให้กับทีมงานทุกคนด้วยที่รู้เท่าทันและพัฒนาโปรดักส์ให้สอดรับกับกระแสสมาร์ทโฟนที่กำลังมาถึงในตอนนั้น

ช่วงเวลาไหนที่ วงใน (Wongnai) เริ่มเติบโตจนสร้างผลกำไรให้กับบริษัท

เมื่อปี 2012 ครับ ในตอนนั้นเป็นปีที่เริ่มมีผู้ลงทุนเข้ามาคุยกับเรามากขึ้น มียอดผู้เข้ามาใช้บริการแอปพลิเคชั่นสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นหลักแสนคน และพอเข้าช่วงสงกรานต์ในปีนั้น แอปของเราก็ไต่อันดับขึ้นไปบน Top Chart ของ App Store ทั้งของ iOS และ Android ได้สำเร็จ จากตรงนั้นทำให้เราเริ่มกล้าที่จะใช้เงินลงทุนมากขึ้น มีการทำการตลาดมากขึ้น ทำคลิปไวรัล สร้างแคมเปญใหม่ๆ จ้าง influencer ให้มาใช้แอปของเรา ผมใช้เงินลงทุนมากในระดับที่ยอดเงินในบริษัทติดลบเลยทีเดียว แต่ทั้งหมดนี้ก็เกิดจากความเชื่อว่าเราจะสามารถเรียกคืนสิ่งเหล่านี้กลับมาได้ในไม่ช้า

เป็นเรื่องธรรมดาที่หลังธุรกิจเริ่มไปได้สวยจะเกิดทางเลือกใหม่ๆ มาทดสอบจิตใจ คุณยอดผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้อย่างไร

ถ้าคิดว่ามันคือการออกอัลบั้มแรกดังมากจนทำเราปวดหัวว่าจะทำชุดต่อไปยังไงดี ผมว่านั่นเป็นเรื่องปวดหัวที่ดีนะ เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าตอนที่ยังไม่ดังเยอะมาก (ยิ้ม) ในช่วงที่ธุรกิจเราเริ่มเติบโตก็เป็นจังหวะที่เริ่มมีเพื่อนในสายธุรกิจ Startup เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเป็นสังคมใหม่ที่ช่วยกันแชร์ปัญหาและทางออกในเรื่องต่างๆ ส่วนตัวผมก็อ่านหนังสือมากขึ้นด้วย เริ่มศึกษาแนวทางของ CEO ต่างประเทศหลายคนว่าเขาทำอะไรกันอยู่ และควรจะเอามาใช้กับธุรกิจของเราอย่างไร

พอพูดถึงคำว่า “วงใน” ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำที่ใช้แทนในเรื่องของอาหาร การกินเพียงอย่างเดียว อยากรู้ว่าตอนนี้ วงใน (Wongnai) กำลังมองหาธุรกิจสาขาอื่นอยู่บ้างหรือเปล่า

ในท้ายที่สุดผมอยากให้มันต่อยอดไปยังสิ่งที่ดีๆ แบบไม่รู้จบนะ ทั้งเรื่องของท่องเที่ยว หรือการบริการต่างๆ แต่เอาล่ะ ณ ตอนนี้เราคงต้องเริ่มจากสิ่งที่เหมาะสมที่สุดก่อน ซึ่งถ้าลงไปดูข้อมูลก็พบว่าตลาดความสวยความงามเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก ส่วนนึงก็คงมาจากวัฒนธรรมเกาหลีด้วย บิวตี้บล็อกเกอร์ก็มีให้เห็นกันเต็มไปหมด เราเลยตัดสินใจเลือกสิ่งนี้ก่อน ส่วนในอนาคตเราก็จะค่อยมองหาและพัฒนาต่อในสาขาอื่น

ในโลกของธุรกิจที่พร้อมจะพลิกไปมาตลอดเวลา คุณยอดเคยมีช่วงท้อกับการทำงานบ้างไหม

มีครับ สองปีแรกท้อสุดๆ เลย (หัวเราะ) เพราะตอนนั้นไม่มีคนเข้าใช้บริการเราเลย เว็บไซต์ก็ยังหน้าตาไม่ดีอีก ถ้าพัฒนาต่อไปแล้วจะรอดจริงๆ ใช่ไหม จนพอธุรกิจเราโตขึ้น สร้างกำไรมากขึ้น ก็ยังมีเรื่องให้คิดมากอีกอยู่ดี มีมาอยู่ในรูปแบบของปัญหาในการบริหารจัดการ จากภายในที่ต้องดูแลพนักงานเข้า-ออก หรือภายนอกที่จะทำยังไงให้คนเข้าใจเวลาเราจะปล่อยแคมเปญใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้มีให้คิดทุกวันจริงๆ ครับ

คุณยอดดูเป็นคนมุ่งมั่นและจริงจัง อยากทราบว่าองค์กร วงใน (Wongnai) ภายในมีบรรยากาศเป็นแบบไหน

ผมบอกกับทุกคนในองค์กรเสมอว่าที่นี่คือทีมกีฬา คุณต้องทุ่มเททำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และตัวสำรองก็ต้องสามารถทำหน้าที่แทนเพื่อนที่ขาดไปได้ตลอดเวลา นอกจากนี้เราจะมีการลั่นระฆังมอบรางวัลให้กับบุคคลที่ทำงานโดดเด่น เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าหากคุณทำงานดีจริงๆ เราก็จะตอบแทนคุณอย่างเหมาะสมเหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดเมื่อเราคัดเลือกคนที่เหมาะกับองค์กรมาอยู่รวมกันเยอะๆ ก็ไม่แปลกอะไรที่สุดท้ายพวกเขาก็จะสนิทกันเอง

การทำงาน วงใน (Wongnai) ทำให้คุณยอดน้ำหนักขึ้นบ้างไหม

ที่จริงแล้วผมเป็นคนที่อ้วนค่อนข้างง่ายนะ ถ้าไม่มีการควบคุมก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผมเองก็เป็นคนชอบกินอยู่แล้ว ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะต้องออกไปหาอะไรใหม่ๆ กินตลอด เลยต้องมีการควบคุมกันบ้างนี่ก็ลดมาเยอะแล้วนะครับ (หัวเราะ)

คุณยอดรู้สึกอย่างไรที่ทุกวันนี้ วงใน (Wongnai) กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่วัยรุ่นไทยอยากมาทำงานด้วยมากที่สุด

ดีใจมากนะครับ เหมือนเป็นรางวัลที่ดีให้กับเราที่คอยทำงานอย่างหนักมาตลอด ทำให้คนรุ่นใหม่เขารู้สึกดีและให้ความสนใจมากขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องมาวิเคราะห์อีกว่าตำแหน่งที่หลายคนสมัครมาตรงกับที่เราต้องการไหม เช่น ถ้าเราอยากได้โปรแกรมเมอร์เพิ่ม กลับมีแต่คนมาสมัครฝ่ายการตลาดอย่างเดียว อันนี้ก็ต้องมาดูกันว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนั้น มีอะไรที่เราต้องปรับปรุงหรือแก้ไขอีกไหม

อะไรคือเป้าหมายต่อไปของ วงใน (Wongnai)  

ภายใน 3 ปีนี้เราก็อยากที่เข้าตลาดหุ้นให้ได้ ผมอยากให้สิ่งนี้เป็นการพิสูจน์ว่าธุรกิจ Startup สามารถมาถึงจุดนี้ได้จริงๆ

คำถามสุดท้าย ถ้าเปรียบ วงใน (Wongnai)   เป็น 'ซอส' หรือเครื่องปรุงรสสักอย่าง รสชาติควรเป็นแบบไหน   

เป็นซอส Balsamic ละกันครับ (ยิ้ม) ที่ให้รสชาติเปรี้ยวยิ่งนานวันก็จะยิ่งอร่อย แต่ที่มีรสเปรี้ยวนำเพราะเมื่อไหร่ที่เราปล่อยบทความ (Content) อะไรไปมันจะมีความเปรี้ยว ความสนุกสนานอยู่ด้วยเสมอ

สุธิลักษณ์-ตั้งสุทธิมงคล-Private-Business (1)

Feedback From User สุธิลักษณ์ ตั้งสุทธิมงคล

ความสนุกของ วงใน (Wongnai) คืออะไร

มันเริ่มมาจากความไม่สนุกนะ เพราะในช่วงแรกเราใช้แล้วก็ลบทิ้งไป (หัวเราะ) แต่พอเรากลับมาใช้อีกครั้งและเริ่มเขียนอะไรลงไปก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ เลือกไปตามที่เราแนะนำก็ทำให้เรารู้สึกสนุกขึ้น สำหรับเราคิดว่านี่เป็นสังคมที่เราสามารถแบ่งปันเรื่องที่เราสนใจร่วมกันได้

นันทิชา-จวูญโรจน์-ณ-อยุธยา-Beauty-Content-Manager

Feedback From Employee

นันทิชา จรูญโรจน์ ณ อยุธยา Beauty Content Manager

สำหรับคุณ วงใน (Wongnai) คืออะไร

ที่นี่เหมือนเป็นโรงเรียนที่คุณสามารถเสนอไอเดียที่คุณสนใจหรืออยากจะทำให้กับหัวหน้า และหลังจากนั้นคุณก็ออกไปทำให้เต็มที่กับสิ่งที่คุณตั้งใจไว้ นี่อาจจะเป็นการเรียนแบบ Child Center ที่กระทรวงศึกษาธิการอยากให้เป็นมาตลอดก็ได้นะ (หัวเราะ)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำไม AI ถึงสำคัญ กับ Data Analytics เคล็ดลับการใช้ Data ให้ง่ายขึ้นจาก Wisesight

ชวนมาฟัง คุณวรัทธน์ วงมณีกิจ Chief Product Officer จาก Wisesight ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดียชั้นนำในประเทศไทย ใน Session How to Combine AI and Data Analytics fo...

Responsive image

WFH ตกยุค? Amazon vs Google กับอนาคตการทำงาน เมื่อยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีเลือกเส้นทางสู่ความสำเร็จต่างกัน

การระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง หลายบริษัทหันมาใช้นโยบาย Work From Home (WFH) เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย บริษัทเทคโนโลยียัก...

Responsive image

แจก 4 ฟีเจอร์ AI ออกแบบใน Microsoft Designer แอปคล้าย Canva ผสม Midjourney

บทความนี้ Techsauce จึงอยากพามาทำความรู้จักกับ Microsoft Designer กันอีกสักครั้ง ว่าผ่านไป 2 ปี แพลตฟอร์มนี้มีอะไรเพิ่มมาใหม่บ้าง...