AI กับความเป็นส่วนตัว ถือเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญเป็นจำนวนมาก แม้ว่าการเข้าถึงข้อมูลนั้นจะนำมาเพื่อการแก้ปัญหาเพื่อมนุษยชาติ อย่างปัญหาอาชาญากรรม การจับผู้ร้าย หรือวัตถุประสงค์ในการดูแลความปลอดภัยก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด และ Bias ที่เกิดจากอัลกอริทึม
ล่าสุดประเด็นดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นที่ถกเถียงอีกครั้ง จากประสิทธิภาพในการจดจำข้อมูลส่วนบุคคลได้จำนวนมหาศาลของบริษัทเทคโนโลยีด้าน Face Recognition อย่าง Clearview AI ซึ่งปัจจุบันยูเครนได้ใช้ Clearview AI ในการระบุตัวผู้เสียชีวิตจากสงครามเช่นกัน
Hoan Ton-That, co-founder ของ Clearview AI เล่าว่า Clearview AI นั้น คล้ายกับ Google แต่ต่างกันที่เปลี่ยนจากใส่คำหรือข้อความเป็นการอัปโหลดรูปภาพใบหน้า และระบบก็จะใช้ภาพที่อัปโหลดค้นหาตัวตนของคุณที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นบน Facebook Instagram Linkedin หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ และระบบยังสามารถค้นหาได้อย่างแม่นยำแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนทรงผมหรืออื่นๆ ซึ่งมันจะช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมได้
Clearview AI สามารถทำการค้นหาและระบุตัวตนที่ถูกอัพโหลดภาพไว้จากกว่า 2 หมื่นล้านรูปที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต และยังสามารถชี้ตัวได้แม่นยำแม้ว่าคนคนนั้นจะปะปนอยู่ในฝูงชนจำนวนมาก
ประเด็นนี้จึงกลายเป็นที่ถกเถียงกันเรื่องของความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป เพราะว่า 2 หมื่นล้านรูปภาพดังกล่าวนั้น ถูกเก็บรวบรวมมาจาก Social Media ต่างๆ โดยที่ไม่มีการยินยอมจากผู้ใช้งาน อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยังถูกป้อนให้กับองค์กรทางกฎหมายต่างๆ เช่น FBI หรือสำนักงานตำรวจ อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม Hoan กล่าวว่า ทางบริษัทนั้นมีสิทธิตาม First Amendment ในการเข้าถึงข้อมูลสาธารณะเหล่านี้ และหากผู้ใช้งานได้ตั้งค่าให้ภาพนั้นเป็น Private ภาพนั้นก็จะไม่ปรากฏขึ้นบน Search Engine ของ Clearview AI ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ถูกเข้าใจผิดเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเทคโนโลยีของ Clearview AI และข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ในการสืบสวนทางอาชญากรรมเท่านั้น
อ้างอิง BBC
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด