รู้จัก Marc Raibert ผู้ก่อตั้ง Boston Dynamics ชายผู้ดูถูกหุ่นยนต์ แต่เลือกที่จะพัฒนามัน | Techsauce

รู้จัก Marc Raibert ผู้ก่อตั้ง Boston Dynamics ชายผู้ดูถูกหุ่นยนต์ แต่เลือกที่จะพัฒนามัน

นิตยสาร TIME ได้จัดลิสต์ 100 ผู้ทรงอิทธิพลทางด้าน AI โดยมีชื่อของ Marc Raibert ผู้ก่อตั้งและประธาน Boston Dynamics หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการหุ่นยนต์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยเฉพาะในหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวแบบไดนามิก (เคลื่อนไหวคล้ายกับสิ่งมีชีวิต) 

แต่ความจริงแล้วชายคนนี้ไม่เคยคิดว่าหุ่นยนต์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ฉลาด แต่ก็เลือกที่จะคลุกคลีกับมัน เป็นเพราะอะไร ?

Marc Raibert ชายผู้ดูถูกหุ่นยนต์ แต่เลือกที่จะพัฒนามัน

“หุ่นยนต์ก็โง่พอ ๆ กับเครื่องปิ้งขนมปัง ความฉลาดของมันก็สูสีกับลูกบิดประตู” นี่เป็นประโยคที่ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ระดับโลกพูดถึงมุมมองของเขาที่มีต่อหุ่นยนต์ แต่ที่ Raibert ยังคงสนใจหุ่นยนต์อยู่นั่นก็เป็นเพราะ ‘ความโง่’ ของมันนี่แหละที่กระตุ้นให้เขาอยากพัฒนามันให้ฉลาดขึ้น

Marc Raibert มุ่งมั่นพัฒนาหุ่นยนต์มาตั้งแต่ปี 1980 เขาจบปริญญาตรีสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิร์น และปริญญาเอกจาก MIT จากความเชี่ยวชาญด้านวิทยาการหุ่นยนต์ทำให้เขาได้ร่วมงานกับองค์การ NASA มาแล้ว

แต่ถึงอย่างไรการทำให้หุ่นยนต์ฉลาดขึ้นก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ Raibert อยากทำให้ได้ ในปี 1992 เขาจึงเริ่มก่อตั้งบริษัท Boston Dynamics บริษัทที่มีชื่อเสียงในการสร้างและพัฒนาหุ่นยนต์ 

หุ่นยนต์ตัวแรกของบริษัทก็คือ BigDog หุ่นยนต์สุนัขสี่ขาที่เคลื่อนที่ได้เหมือนน้องหมาของจริง ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้มีความสามารถในการตรวจสอบความปลอดภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ในปี 2020 บริษัท Hyundai ของเกาหลีใต้ก็ได้เข้าซื้อ Boston Dynamics โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถึง 80% 

หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาหุ่นยนต์สุนัขรุ่นใหม่ ๆ ออกมา และล่าสุดก็ได้ออกหุ่นยนต์สุนัขรุ่นใหม่เพื่อการใช้งานในอุตสาหกรรมอย่างเจ้า Spot ที่ช่วยยกของได้ นำทาง หรือสำรวจพื้นที่ที่อาจจะอันตรายต่อการทำงานของมนุษย์

นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้ว Raibert ได้ก่อตั้งสถาบัน Boston Dynamics AI Institute เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าในการทำให้หุ่นยนต์ฉลาดขึ้น 

ทำไม Marc Raibert ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ถึงสำคัญกับ AI

มีอยู่ 3 มิติหลักที่ Raibert อยากพัฒนาให้หุ่นยนต์ของเขาฉลาดขึ้นก็คือ 

  1. การรับรู้และทำความเข้าใจสภาพแวดล้อม 
  2. เคลื่อนไหวเหมือนคนและสัตว์มากขึ้น 
  3. กระบวนการคิดแก้ปัญหาที่ฉลาดเหมือนคน

หนึ่งในวิธีการที่จะพัฒนาหุ่นยนต์ให้ไปถึงจุดที่ตอบโจทย์ทั้ง 3 นั้น Raibert เชื่อว่าต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า ‘athletic AI’ อัลกอริธึมที่ใช้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวและนำมาปรับปรุง และ ‘cognitive AI’ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และประมวลผลเชิงลึก ซึ่งช่วยปรับปรุงกระบวนการคิดแก้ปัญหาของหุ่นยนต์ได้

หากนำ AI ทั้งสองแบบมาพัฒนาร่วมกับหุ่นยนต์ก็อาจช่วยให้หุ่นยนต์ฉลาดและคล่องตัวได้พอ ๆ กับคนเลย แม้ว่า Raibert ยังกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านจริยธรรมของ AI อย่างประเด็นการแย่งงาน หรือพัฒนามาก ๆ อาจมีพลังเกินควบคุม แต่เขาก็ยังเชื่อว่าควรที่จะพัฒนามันต่อไป โดยเปรียบว่า 

“AI ก็เหมือนกับเด็กน้อยที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้ เราจึงควรเริ่มสอนและชี้แนะ เพื่อให้พวกเขาโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ แทนที่จะกลัวว่าเขาจะโตไปเป็นอะไร” นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์คนนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในยุค AI 

อ้างอิง: thinkingheads, bostontechleaders, time, bostondynamics

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จัก LLMs’ Explainability การเข้าใจกลไกสมอง AI หนึ่งใน Tech Trends 2025 ที่จะมาเปลี่ยนโลกเอไอ

เจาะลึกเบื้องหลัง Large Language Models (LLMs) และเทคโนโลยี LLMs’ Explainability ที่ช่วยเปิดเผยกระบวนการทำงานของ AI จากกล่องดำสู่ความโปร่งใส ความก้าวหน้าที่เปลี่ยนโลก AI ในอนาคต!...

Responsive image

รู้จัก AI Product Management สายงานที่ Andrew Ng ชี้มาแรง

สำรวจบทบาท AI Product Management และเหตุผลที่ Andrew Ng ยกให้เป็นตำแหน่งสำคัญในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ AI ตั้งแต่การพัฒนาแนวคิดจนถึงการนำไปใช้งานจริง...

Responsive image

เปิดกลยุทธ์ธุรกิจยุคใหม่ พลิกข้อมูล สู่ขุมทรัพย์ด้วย analyticX ด้วยพลัง Telco Data Insights และ GenAI

ยุคนี้ใคร ๆ ก็พูดถึง Data แต่จะใช้ Data อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากคือกุญแจสำคัญ! ในสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "Unlocking Data-Driven Decisions with Telecom Data Insights" ที่จั...