ในวงการสตาร์ทอัพ dtac เป็นหนึ่งใน Accelerator ที่แข็งแรงและยังคงเดินหน้าผลักดันสตาร์ทอัพไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันดำเนินโครงการ dtac accelerate มาจนถึง batch ที่ 6 แล้ว
ในประเทศไทย dtac accelerate เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยบรรดาสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ และมีผลิตภัณฑ์และบริการออกมาให้คนไทยได้ใช้งานกันอย่างมากมาย แต่สิ่งที่ dtac มุ่งเป้าไปมากกว่านั้น คือการผลักดันสตาร์ทอัพในบ้านหลังนี้ ให้ไปได้ไกลในระดับภูมิภาคและระดับโลก
โดยในงาน RISE 2018 ที่ฮ่องกงที่ผ่านมา dtac ได้พาทีมสตาร์ทอัพไทยในโครงการไปร่วมออกบูธทั้ง 3 วัน นอกเหนือไปจากนั้นยังมี Sessions ที่ Speaker จาก dtac ไปร่วมบนเวทีของ RISE อีกด้วย Techsauce มาเจอกับทีม dtac ที่ฮ่องกง จึงไม่พลาดโอกาสทีจะเชิญคุณ คุณ Andrew Kvalseth (former CMO ของ dtac) มาร่วมพูดคุยถึงการมาเยือนฮ่องกงครั้งนี้
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่พาสตาร์ทมาออกบูธที่ฮ่องกง โดยการที่ dtac accelerate เข้าร่วมงาน RISE ที่ฮ่องกงในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการเชื่อมต่อเหล่านักลงทุน กับสตาร์ทอัพทั้งระดับ Series A และระดับ Seed โดยในงานสตาร์พอัพยังสามารถนัดคุยพบปะนักลงทุนได้ ให้มากที่สุด
นอกจากนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยพบปะเหล่านักลงทุนในต่างประเทศ dtac accelerateยังได้เป็นสปอนเซอร์ในงานนอกภูมิภาคครั้งนี้อีกด้วย
“เนื่องจากบางสตาร์ทอัพต้องการที่จะเปิดโอกาสและมองหาตลาดของตัวเองนอกภูมิภาค หนึ่งในเป้าหมายของ dtac คือการเชื่อมสตาร์ทอัพกับนักลงทุนจากทั่วทั้งเอเชีย นี่เป็นเหตุผลที่ dtac accelerate ได้เลือกประเทศฮ่องกงในการพบพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ที่จะช่วยสตาร์ทอัพไทยในการก้าวขึ้นสู่ระดับต่อๆ ไป”
dtac มีเป้าหมายสำคัญคือการผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้เติบโต โดยการสร้างแพลตฟอร์มเชื่อมเหล่าสตาร์ทอัพและผู้เชี่ยวชาญด้วยกัน โดยเรายังโปรโมทสตาร์ทอัพกับผู้ใช้งาน dtac กว่า 20 ล้านคน นอกจากนี้สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมยังสามารถทำการเชื่อมต่อกับนักลงทุนของ dtac ได้
เราได้นำ 13 สตาร์ทอัพเข้าร่วมงาน RISE ในครั้งนี้โดยมีความหวังว่าจะสามารถหาเงินมาลงทุนในสตาร์ทอัพไทยเพิ่มขึ้น งานต่อไปที่ทาง dtac accelerate จัดขึ้นคือ Demo Day โดยงานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นการจัดให้เหล่าสตาร์ทอัพได้ทำการ pitch งานให้เหล่านักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกได้ฟัง ในงาน RISE ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ทาง dtac accelerate จะได้พบปะกับเหล่านักลงทุนและเชิญชวนพวกเขาเข้าร่วม Demo Day ที่จะเกิดขึ้นด้วย อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ได้พบกับสตาร์ทอัพที่ชนะจากงานปีก่อนหน้า แน่นอนว่าวัน Demo Day ในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่น่าติดตามและไม่ควรพลาด
นอกจากนี้ Doctor A to Z สตาร์ทอัพจาก batch 6 ยังมีโอกาส pitch บนเวทีใหญ่ของ RISE เป็นตัวแทนจากประเทศไทยอีกด้วย แม้จะไม่ได้คว้ารางวัลใหญ่กลับมา แต่ประสบการณ์ครั้งสำคัญก่อนวัน Demo Day ในไทย
เรื่องราวการผลักดันสตาร์ทอัพจากครอบครัว dtac Accelarate ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ในบทความหน้า เราจะมาคุยกับทีมเบื้องหลังสำคัญพร้อมกับงาน demo day ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม มาติดตามกันต่อในบทความหน้า
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด