เด็กสมัยนี้โชคดีจริง ๆ

เด็กสมัยนี้โชคดีจริงๆ จริงหรือ?

คำพูดที่เราได้ยินบ่อยๆ จากผู้ใหญ่สมัยนี้ แต่ลึกๆในใจแล้ว เรา(ที่เป็นผู้ใหญ่) รู้สึกแบบนั้นกันจริงๆหรือ? ผมลองถามตัวเองแล้วกลับรู้สึกว่า เด็กสมัยนี้ ไม่ได้โชคดีอย่างนั้น

ถ้าสมมติ วันนี้เราเป็นเด็กอายุ 15 ปี เราต้องเจออะไรบ้าง เมื่อเรากำลังอยู่ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและสิ่งต่างๆมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่เหมือนจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ก็กลับทำให้ชีวิตนั้นยากขึ้นในอีกมิติหนึ่งเช่นกัน

ถ้าวันนี้ผมอายุ 15 ปี กำลังอยู่ในระดับชั้นมัธยมปลายในระบบการศึกษาที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมอาจยังสับสนว่าจะเรียนจบไปเป็นอะไรดี เลือกเรียนคณะอะไรดี ผมอาจวางแผนว่าอยากเป็นวิศวกร อุตสาหการ ที่จะจัดการระบบคลังสินค้า กระบวนการผลิต โดย career path ผมจะมุ่งหน้าไปเป็นผู้จัดการโรงงาน แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อผมเรียนจบในอีก 5-7 ปีข้างหน้า คือระบบ AI เข้ามาจัดการและทดแทน โลกจะมีระบบ ERP ที่ฉลาดขึ้น มีการประมวลผลและตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น ในวันนั้นตลาดจะยังต้องการวิศวกรที่ถูกสอนมาแบบเก่าอีกต่อไปหรือไม่

ผมอาจไม่เป็นวิศวกรก็ได้ ผมอยากค้าขาย อยากทำธุรกิจ ก็มองอดีตของยุคผู้ใหญ่ ที่สามารถสร้างความมั่งคั่งจากการเป็นพ่อค้าคนกลาง การเป็นนายหน้า การเปิดช็อปขายของ สิ่งเหล่านี้ก็กำลังจะหมดไป เราอาจทำเงินได้ยากขึ้นมากจากการหยิบของจากที่หนึ่งไปขายอีกที่หนึ่ง จากการทดแทนของ Platform ต่างๆ หรือการเกิดขึ้นของ E-commerce ที่นับวันจะก้าวล้ำหน้ามากขึ้นๆ การค้าขายคงไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว เราจึงเห็นตึกแถวริมข้างทางปิดร้างมากขึ้นทุกทีๆ เราอาจมีช่องทางออนไลน์ แต่ก็พบกับผู้เล่นมหาศาล

เราเปลี่ยนจากพื้นที่ Offline ขึ้นมาเป็น Online ใช่แล้ว ทุกอย่างมันง่ายขึ้นเหมือนปลายนิ้วคลิก นี่แหละที่ผู้ใหญ่มักคิดว่า เด็กสมัยนี้โชคดีจริงๆ ไม่ต้องเช่าร้านซื้อตึก แต่ในทางกลับกัน พื้นที่ในมือถือจำนวนจำกัด ไม่ได้มีพื้นที่ให้กับผู้ขายที่มีจำนวนไม่จำกัด คนส่วนใหญ่ก็เปิดผลการค้นหา search engine แค่เพียง 1-2 หน้าเท่านั้น ถ้าเราลองค้นหาสินค้าอะไรสักอย่าง ก็จะพบว่ามีAds จาก E-commerce เจ้าใหญ่ๆครองพื้นที่กว่าครึ่งหน้าแล้ว ซึ่งเราคงจ่ายเงินค่าโฆษณาสู้เขาไม่ไหว ส่วนที่เหลือก็เป็นเว็บไซต์ที่มีการทำ SEO ดีๆ แล้วมันทำยากแค่ไหนล่ะ SEO ดีๆ ต้องใช้ความรู้มากแค่ไหน

โลกคงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เพราะที่เล่ามาก็เป็นเพียง scenario ด้านหนึ่งเท่านั้น เพียงแค่คิดว่า เด็กสมัยนี้ก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น การทำอะไรง่ายๆแบบในอดีต ก็จะไม่ง่ายอีกต่อไปในอนาคต เพราะทุกครั้งที่มีสิ่งใดล่มสลาย จะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นเสมอ เด็กสมัยนี้คงต้องเติบโตขึ้นด้วยความสามารถที่จะปรับตัวได้ มีทักษะที่สูงขึ้นและหลากหลายมากขึ้น เพราะถ้าคิดว่าการจบมาแล้วเป็นพนักงานนั้น ก็ไม่ได้มั่นคงอย่างที่คิด และการเริ่มต้นธุรกิจที่แม้จะเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น ก็ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคมากขึ้นด้วยเช่นกัน เด็กสมัยนี้ เพียงทำตัวเองให้พร้อมล่มสลาย และพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ตลอดเวลาก็น่าจะเป็นการเตรียมตัวที่ดีมากแล้ว

เด็กสมัยนี้ ไม่ได้โชคดีอย่างที่เราคิด (มีตอนถัดไป)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เปิดกลยุทธ์ธุรกิจยุคใหม่ พลิกข้อมูล สู่ขุมทรัพย์ด้วย analyticX ด้วยพลัง Telco Data Insights และ GenAI

ยุคนี้ใคร ๆ ก็พูดถึง Data แต่จะใช้ Data อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากคือกุญแจสำคัญ! ในสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "Unlocking Data-Driven Decisions with Telecom Data Insights" ที่จั...

Responsive image

‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ด้านความยั่งยืน หนุน SMEs เปลี่ยน Vision เป็น Action

บทสัมภาษณ์ คุณอัมพร ทรัพย์จินดาวงศ์ และคุณพณิตตรา เวชชาชีวะ เกี่ยวกับ ‘UOB Sustainability Compass’ เครื่องมือออนไลน์ที่เข้ามาช่วย SMEs เริ่มดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างเข้าใจและไม...

Responsive image

Intel พลาดอะไรไป ? ทำไมถึงต้องเปลี่ยน CEO กะทันหัน ? ถอดบทเรียนราคาแพงจากยุค Pat Gensinger

การ ‘เกษียณ’ อย่างกะทันหันของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโอ Intel ในต้นเดือนธันวาคม สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการเทคโนโลยี หลายฝ่ายมองว่าเป็นการบีบให้ออกจากบอร์ดบริหาร อันเนื่องมาจากผล...