กลยุทธ์อะไรที่ทำให้ Shein แบรนด์แฟชั่นออนไลน์ของจีน อยู่เหนือสงครามการค้า ? | Techsauce

กลยุทธ์อะไรที่ทำให้ Shein แบรนด์แฟชั่นออนไลน์ของจีน อยู่เหนือสงครามการค้า ?


วัยรุ่นยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์เสื้อผ้ามาแรงที่ทั้งถูกและตามแฟชั่นอย่าง Shein ล่าสุดได้โค่นแชมป์เก่าอย่าง Amazon ที่คงตำแหน่งแอปฯ ช็อปปิ้งที่คนโหลดมากที่สุดในสหรัฐต่อเนื่องมา 152 วัน ซึ่งนับว่าเป็นก้าวที่โดดเด่นสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าอายุเพียงแค่ 7 ปี ทำให้การเติบโตของ Shein มีลักษณะที่ก้าวกระโดด หลักๆมาจากการออกแคตตาล็อกหลากหลายในราคาที่เอื้อมถึง สะดุดตาเด็กวัยรุ่นตั้งแต่ Gen Z และขาช็อปวัยเยาว์ พร้อมกับกระแสออนไลน์ที่น่าดึงดูด อย่างการรีวิวของบล็อกเกอร์ชาวอังกฤษว่าเธอสามารถซื้อเสื้อผ้าจำนวนมากในราคาเพียง 100 ปอนด์ ทำให้ Shein เหมาะกับวัยที่มีข้อจำกัดทางการเงิน และสามารถเติบโตด้วยยอดขายที่เพิ่มขี้นเรื่อยๆแม้ในภาวะวิกฤต และปัจจุบัน Shein ก็ได้กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ Shein กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายของสหรัฐฯ มูลค่า 36,000 ล้านเหรียญด้วยการเอาชนะ Zara และ Hennes & Mauritz AB ของ Inditex SA ด้วยปรากฏการณ์แฟชั่นที่ทำให้เกิดการผสมผสานของความเชี่ยวชาญด้านซัพพลายเชนและการออกแบบเสื้อผ้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล รวมถึงช่องโหว่ด้านภาษีของสหรัฐฯ และจีนที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามการค้า จากการรุกรานที่มุ่งเป้าไปที่การควบคุมการปกครองของจีน กลับกลายเป็นการช่วยสร้างยักษ์ใหญ่ทางด้านแฟชั่นขึ้นมาแทน


Shein


สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เชื่อว่าการทำสงครามภาษีจะช่วยลดการขาดดุลทาง การค้ากับจีน ซึ่งดุลการค้าก็คือการเปรียบเทียบมูลค่าการนำเข้าสินค้ากับการส่งออกสินค้าของ

ประเทศ โดยถ้านำเข้ามากกว่าส่งออก หมายความว่าประเทศนั้นๆขาดดุลการค้า จริงอยู่ที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าน้อยลงตั้งแต่สองประเทศเริ่มทำสงครามการค้ากัน แต่ตัวเลขขาดดุลก็ยังสูงอยู่ และวิธีที่สหรัฐใช้เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้ากับจีน คือการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพิ่มอีกจากอัตราที่เก็บอยู่เดิม การเพิ่มภาษีครั้งแรกคือเพิ่มขึ้น 25% รายการสินค้าตามพิกัดย่อย 818 รายการ มูลค่าการค้าประมาณ 34,000 ล้านดอลลาร์ และอีกครั้งหนึ่งคือการเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% รายการ สินค้าพิกัดย่อย 5,745 รายการ มูลค่าการค้าประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจีนกระทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรม

ด้านจีนก็มีการตอบโต้กับการขึ้นภาษีของสหรัฐฯอยู่หลายครั้ง โดยในปี 2018 ขณะที่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังถดถอย จีนมีมาตรการตอบโต้ภาษีของสหรัฐฯ โดยการยกเว้นภาษีส่งออกสำหรับบริษัทที่จะมีการส่งของให้กับผู้บริโภคโดยตรง ด้วยความที่สินค้าส่วนใหญ่จะถูกเก็บอยู่ในโกดังในจีน ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของสหรัฐฯ ที่จะสามารถสั่งสินค้าในราคาถูก เนื่องจากพัสดุที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 เหรียญสหรัฐฯ จะไม่ต้องจ่ายภาษีเพื่อเข้าประเทศ เมื่อฝ่ายบริหารของทรัมป์มีการกำหนดภาษีขาเข้าในภายหลัง สินค้าที่มีมูลค่าน้อยก็จะยังคงได้รับการยกเว้น ทำให้ Shein ได้ประโยชน์จากช่องโหว่ในการเก็บภาษีของสหรัฐไปเต็ม ๆ และการเปลี่ยนไปใช้รหัสภาษีของจีน ก็ยังเป็นการลดต้นทุนของบริษัทและซัพพลายเออร์ อีกทั้งเป็นการตัดราคาการแข่งขันระดับโลก

กลยุทธ์ของ Shein 

Michael Horowitz ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Global Brands Group Holding Ltd. บริษัทในเครือของ Fung Group และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและซัพพลายเชนในฮ่องกง กล่าวว่า ณ ตอนนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ Shein จะมีคู่แข่งจากต่างประเทศ แม้ว่าบริษัทนั้นจะสามารถจดทะเบียนในประเทศจีนและส่งสินค้าไปให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ โดยตรง เพื่อส่งสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีเช่นเดียวกับ Shein แต่ตามความเป็นจริงมันเป็นไปได้ยาก ยกตัวอย่างแบรนด์ Zara ที่ไม่มีทางที่จะเลี่ยงภาษีในการนำเข้าสินค้าไปสหรัฐฯ เนื่องจากมันไม่ใช่การจัดส่งให้บุคคลทั่วไป แต่เป็นการส่งให้กับร้านค้าในจำนวนมหาศาล เพราะ Zara ยังมีหน้าร้านจำนวนมาก ต่างกับ Shein ที่มีเพียงแพลตฟอร์มออนไลน์

นอกจากนี้ Shein ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีที่รวบรวมข้อมูลการค้นหาของลูกค้าจากแอปและแชร์กับผู้ผลิต เพื่อช่วยแนะนำการตัดสินใจเกี่ยวกับการออกแบบ ความจุ และการผลิต พร้อมทั้งสร้างคำแนะนำสำหรับวัตถุดิบและสถานที่ซื้อ เพื่ออนุญาตให้ผู้ผลิตเข้าถึงฐานข้อมูลเชิงลึกของการออกแบบเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และมีความกระตือรือร้นที่จะร่วมงานกับบริษัท ซึ่ง Shein ยังมีชื่อเสียงในเรื่องการจ่ายใบแจ้งหนี้ที่บ่อยและรวดเร็วกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกับความไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าคงคลังในร้าน ทำให้ Shein สามารถตอบสนองความต้องการของนักช็อปได้แทบจะทันที

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย หากสหรัฐฯ ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจลดเกณฑ์การนำเข้าสินค้าปลอดภาษี จากการผลักดันของอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศ ก็จะทำให้ Shein สูญเสียความได้เปรียบในด้านราคาบางส่วนไปด้วย 

อ้างอิง : bloomberg.com



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไขรหัสลับ AI จีนฝ่า "สงครามชิป" ผ่าน Deepseek สูตรลับความสำเร็จจาก Open Source

DeepSeek AI สัญชาติจีนที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้ตาม แต่กำลังก้าวขึ้นมาท้าทายผู้นำในวงการ ด้วยโมเดล AI ประสิทธิภาพสูงและแนวคิด Open Source บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกการพัฒนา AI สัญชาติจ...

Responsive image

รู้จัก Spatial Intelligence เทคโนโลยีที่ช่วยให้ AI ‘มองเห็น’ และ ‘เข้าใจ’ โลกได้เหมือนมนุษย์

AI กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดที่เคยมี ไม่เพียงแต่สามารถคิดคำนวณหรือให้คำตอบได้เท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการ 'มองเห็น' และ 'เข้าใจ' สภาพแวดล้อมรอบตัวเหมือนมนุษย์ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า...

Responsive image

จากแรงงานสู่นวัตกรรม ยกระดับ SMEs และสตาร์ทอัพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ สู่ประเทศรายได้สูง

Mr. Cristian Quijada Torres ร่วมอภิปรายในหัวข้อ Innovation in a Changing World: Empowering SMEs And Startup วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อุปสรรคที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมแ...