กรณีศึกษา Digital Transformation ธุรกิจเครื่องสำอาง SK-II

กรณีศึกษา Digital Transformation SK-II นำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างไร

สูตรการดำเนินธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่เราเห็นกันประจำ คือการมีบูธอยู่ในห้างใหญ่ๆ , duty free และการใช้เซเลป และน่าจะเป็นธุรกิจที่เมื่อไม่กี่ปีก่อนยังไม่ค่อยมีคนตื่นตัวเรื่องเทคโนโลยีกันนัก แต่หนึ่งในปรากฏการณ์หนึ่ง รวมถึงสื่ออย่างเรา ถ้าสังเกตดีๆ จะเริ่มเห็นธุรกิจสายนี้เริ่มส่งข่าวนวัตกรรมใหม่ๆ มาให้อย่างต่อเนื่อง และที่งาน CES เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลายแบรนด์ยักษ์ก็ขนเอาเทคโนโลยีด้าน digital beauty innovation ไปแสดงกัน และหนึ่งในนั้นคือ SK-II

อย่างกรณีของ​ P&G เจ้าของแบรนด์ดัง SK-II ก็มาด้วยแนวคิด Future X Smart Store เพื่อทรานฟอร์มประสบการณ์ของลูกค้าที่ร้านค้าปลีกให้ดีขึ้น โดยเปิดตัวที่แรกในโตเกียวเมื่อกลางปีก่อน และตามมาด้วยเซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ มาพร้อมฟีเจอร์ที่เรียกกว่า “Phygital” เริ่มต้นประสบการณ์ด้วย “The Art of You” digital wall ขนาดใหญ่ที่ทำการตรวจจับใบหน้าทั้งการเคลื่อนไหวของตาและปาก และแสดงผลออกมาเป็นงานศิลปะพร้อมสีสันที่ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของใบหน้าของเรา

ในแง่การวัดสุขภาพผิว จะไม่เหมือนกับระบบวิเคราะห์ผิวอื่นๆ ที่มีคนเข้ามาช่วย ต้องเอาหน้าไปจ่อกับอุปกรณ์ แต่สำหรับ Future X Smart Store จะได้รับการวิเคราะห์ผิวแม้นั่งอยู่ที่หน้ากระจกธรรมดาเฉยๆ ก็สามารถแสดงผลหลังการวิเคราะห์ผิวได้ และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับคุณลักษณะผิว ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกดูสินค้าและเรียนรู้ได้ตามใจชอบ โดยไม่ต้องมีคนมาแนะนำ ซึ่งลูกค้าหลายคนอาจจะรู้สึกอึดอัดและกดดันจากคนขายที่พยายามเชียร์สินค้าเวลาที่เราไปบูธเครื่องสำอางก่อนหน้านี้

Future X Smart Store ใช้กล้องทั้งหมดที่ซ่อนอยู่จำนวน 39 ตัว และคอมพิวเตอร์ 48 เครื่องเพื่อใช้ขับเคลื่อน Flagship Store แห่งนี้

นอกจาก Personalized Content แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังจะมาอย่าง Smart Bottle ที่มาพร้อม sensors เพื่อติดตามการใช้งานประจำวัน และมี digital advisor ที่แนะนำประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ให้อีกด้วย

สื่ออย่าง Wired Japan ได้กล่าวว่า SK-II's Smart Store จะเป็น  ‘platform’ ที่ redesigns ความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างผู้ใช้กับธุรกิจสาย Skin Care

ในที่สุดเทคโนโลยีก็จะเข้ามา disrupt แต่ละวงการและธุรกิจเครื่องสำอางก็เช่นเดียวกัน

"มันไม่ใช่ยุคของปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่คือยุคของปลาเร็วกินปลาที่เคลื่อนตัวช้า และนี่คือสิ่งที่ SK-II ยึดถือและการเคลื่อนตัวไปข้างหน้าคือเรื่องสำคัญ มันเป็นสิ่งทางที่น่าตื่นเต้น พวกเราเองก็ยังอยู่ช่วงกำลังเรียนรู้ ปรับปรุง และนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น" Sandeep Seth Global VP แห่ง SK-II กล่าว

ที่มา: SK-II JapanTechwireAsia, Frameawards

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

NocNoc อีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย เดินเกมธุรกิจสู่อาเซียน ด้วย AI-Powered พลิกโฉมประสบการณ์ Home & Living

ปีนี้ NocNoc พร้อมที่จะเดินหน้าด้วยพลังของ AI และ Data-Driven ระดับอาเซียน นำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อมอบประสบการณ์ที่เฉพาะตัว พร้อมขยายตลาด พาแบรนด์ไทยไปสู่ระดับอาเซียน ภายใต้เป้าหม...

Responsive image

รวมวิสัยทัศน์เด่น ประเด็นชวนคิด จากงาน 'ttb spark REAL change'

สรุปวิสัยทัศน์ผู้นำจาก 'ttb spark REAL change' งานตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้นำด้าน Digital & Tech ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย โดย ทีเอ็มบีธนชาติ หรือ ทีทีบี (ttb)...

Responsive image

จับทาง ‘Agentic AI’ ที่องค์กรยุคใหม่ (เริ่ม) ใช้กัน โดย วสันต์ ลิ่วลมไพศาล CTO, MFEC

บทสัมภาษณ์เรื่องการใช้ Agentic AI ที่มาพร้อม Use Cases และคำแนะนำต่างๆ ในปีแห่งการ Adopt ใช้ AI อย่างหนัก กับ คุณวสันต์ ลิ่วลมไพศาล CTO, MFEC...